posttoday

ไปเมืองคาวาซากิ แวะพิพิธภัณฑ์โดราเอมอน

13 มีนาคม 2559

เปิดให้บริการมาตั้งแต่เดือน ก.ย. 2011 ในช่วงแรกๆ ที่ พิพิธภัณฑ์ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ (Fujiko F. Fujio Museum)

โดย...คาเอรุ

เปิดให้บริการมาตั้งแต่เดือน ก.ย. 2011 ในช่วงแรกๆ ที่ พิพิธภัณฑ์ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ (Fujiko F. Fujio Museum) เปิดให้บริการนั้นต้องซื้อตั๋วล่วงหน้ากันเป็นเดือนๆ หลายคนไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วอดไปชม เพราะหาซื้อตั๋วไม่ได้ แต่ตอนนี้สถานการณ์น่าจะดีขึ้นแล้ว

พิพิธภัณฑ์ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ รู้จักกันในนามพิพิธภัณฑ์โดราเอมอน (Doraemon Museum) คาแรกเตอร์การ์ตูนชื่อดังที่สุดของเขา ทว่าภายในเล่าเรื่องราวชีวิตและผลงานที่มีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นผีน้อยคิวทาโร่, ปาแมน, ตำรวจกาลเวลา, เจ้าหนูนักประดิษฐ์, สาวน้อยมหัศจรรย์ ฯลฯ ภายใต้นามปากกา ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ ซึ่งเป็นนามปากกาของฮิโรชิ ฟูจิโมโต และโมโทโอะ อาบิโกะ ซึ่งเมื่อดูตามชื่อของพิพิธภัณฑ์แล้ว เรียกว่าเน้นเรื่องราวของ ฮิโรชิ ฟูจิโมโต ซึ่งรู้จักกันในนาม ฟูจิโกะ เอฟ. ฟูจิโอะ มากกว่า (โมโทโอะ อาบิโกะ รู้จักกันในนาม ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ เอ.) โดยภายหลังทั้งคู่บอกศาลาแยกกันเดินคนละทางอย่างน่าเสียดาย

พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ในเมืองคาวาซากิห่างจากกรุงโตเกียวไปไม่ไกล ก่อนจะเดินทางไปเยี่ยมชมต้องหาซื้อตั๋วเข้าให้ได้เสียก่อน โดยต้องไปซื้อที่ตู้ลอปปิ (Loppi) ในร้านลอว์สันที่ญี่ปุ่น โดยกดเข้าไปที่ช่องพิพิธภัณฑ์ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ ที่หน้าจอ (สังเกตภาษาญี่ปุ่นที่มีตัว F อยู่ตรงกลาง) แล้วเครื่องก็จะพาเข้าไปที่เมนูซึ่งมีแต่ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น

ไปเมืองคาวาซากิ แวะพิพิธภัณฑ์โดราเอมอน

 

ขั้นแรก คือ ต้องใส่รหัสเดือนที่จะเข้าชม เช่น จะไปเดือน เม.ย. ก็กด 350004 หรือเดือน พ.ค. ก็ 350005 เสร็จแล้วกดปุ่มขวาบนบนหน้าจอ จากนั้นเลือกวันที่ที่จะไปชม (พิพิธภัณฑ์หยุดทุกวันอังคาร) กดต่อไปจะให้เลือกรอบ ซึ่งมี 4 รอบต่อวัน คือเวลา 10.00/12.00/14.00 และ 16.00 น. เลือกแล้วกดปุ่มตรงกลางจอ จากนั้นเลือกตั๋วและจำนวนที่จะซื้อ คือ ผู้ใหญ่ 1,000 เยน (ราว 312 บาท) เด็กมัธยมคนละ 700 เยน (218 บาท) เด็กอายุ 4 ขวบขึ้นไป 500 เยน (156 บาท) เด็กต่ำกว่า 4 ขวบเข้าฟรี เสร็จแล้วกดปุ่มเหลืองด้านล่างขวา เครื่องลอปปิจะออกบิลให้ไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ และทางลอว์สันจะออกตั๋วให้ (ดูวิธีซื้อ http://l-tike.com/fujiko-m/english/)

หน้าพิพิธภัณฑ์ฯ ไม่มีตั๋วขาย เพราะฉะนั้นต้องซื้อไปให้เรียบร้อย ซึ่งเขาจำกัดผู้เข้าชมรอบละ 500 คน หากตั๋วเต็มในรอบที่เราเลือกเครื่องจะเออเรอร์ซื้อตั๋วไม่ได้ ให้ลองเปลี่ยนวัน เปลี่ยนรอบดูใหม่จนกว่าจะสำเร็จ

ใครจะไปเที่ยวช่วงหยุดยาวของไทย กลัวรอไปซื้อที่ญี่ปุ่นแล้วไม่ได้ตั๋ว ลองเข้าไปซื้อที่ https://www.govoyagin.com/activities/japan-kawasaki-lets-get-ticket-for-fujiko-f-fujio-doraemon-museum/724?lang=en ล่วงหน้า ราคารวมการส่งให้ถึงโรงแรมที่พักในญี่ปุ่น ผู้ใหญ่คนละประมาณ 979 บาท

ไปเมืองคาวาซากิ แวะพิพิธภัณฑ์โดราเอมอน

 

ได้ตั๋วแล้วก็มาเดินทางกันเลย การเดินทางแบบง่ายที่สุด คือ ไปขึ้นรถสายโอดาเกียว (Odakyu) ที่สถานีชินจุกุ (Shinjuku) ไปลงสถานีโนโบริโตะ (Noborito) ซึ่งใช้เวลาไม่เกิน 20 นาที (อย่าลืมเลือกรถไฟแบบเอ็กซ์เพรสเพื่อความรวดเร็ว) ไปถึงโนโบริโตะแล้วเดินตามป้ายบอกทางไปขึ้นรถบัสต่อไปยังพิพิธภัณฑ์ฯ ซึ่งรถบัสจะเพนต์เป็นรูปตัวการ์ตูนต่างๆ มีทั้ง โดราเอมอน ปาแมน ผีน้อยคิวทาโร่ ฯลฯ

ไปถึงหน้าพิพิธภัณฑ์ เจ้าหน้าที่จะเริ่มให้เข้าคิวราว 15 นาทีก่อนเวลาบนตั๋ว โดยสามารถไปเลตตามแต่ละรอบได้ราว 30 นาที หลังจากนั้นจะไม่สามารถเข้าชมได้ (แถมไม่มีตั๋วขายใหม่อีกต่างหาก)

ก่อนจะเข้าชม เจ้าหน้าที่จะอธิบายกฎกติกาในการเยี่ยมชม ตั๋วสามารถไปแลกอุปกรณ์ออดิโอเพื่อฟังคำธิบายจุดต่างๆ ได้ฟรี โดยมีให้เลือกทั้งภาษาญี่ปุ่น จีน และอังกฤษ แล้วก็ยังมีตั๋วชมภาพยนตร์ขนาดสั้นให้ด้วย ในการชมพิพิธภัณฑ์ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพหรือใช้เสียง โดยสามารถเลือกชมจุดต่างๆ ได้แบบไม่ต้องเรียงตามตัวเลข

ไปเมืองคาวาซากิ แวะพิพิธภัณฑ์โดราเอมอน

 

แม้จะพูดถึงการทำงานมังงะ (Manga) ตลอดระยะเวลาของชีวิตฮิโรชิ ฟูจิโมโต ทว่า โดราเอมอนคือเนื้อหาหลักที่เล่าไว้ในพิพิธภัณฑ์ฯ ซึ่งเจาะกลุ่มเด็กและผู้ใหญ่ที่เติบโตขึ้นมากับเจ้าหุ่นยนต์แมวไม่มีหูจากศตวรรษที่ 22 โดยเฉพาะบรรดาชิ้นงานดั้งเดิมแท้ๆ ของโดราเอมอนและการ์ตูนเรื่องอื่นๆ เบื้องหลังการ์ตูนตอนสำคัญ และจังหวะชีวิตในแต่ละช่วงของนักเขียนการ์ตูนดัง

อย่างเช่น เนื้อหาจากตอน The Woodcutter’s Spring ที่เป็นไฮไลต์หนึ่งของพิพิธภัณฑ์ เล่าเป็นวิดีโอเอาไว้ด้วย โดยฟูจิโกะ ฟูจิโอะ นำเรื่องราวนิทานอีสปอย่างเทพารักษ์กับคนตัดไม้มาเล่าในการ์ตูน เป็นตอนที่โนบิตะอยากได้ถุงมือเบสบอลใหม่ โดราเอมอนจึงนำเอาของวิเศษออกมา เป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ให้โนบิตะโยนถุงมือเก่าลงไป จะมีนางฟ้านำถุงมือใหม่ๆ ขึ้นมาจากน้ำ และต้องตอบว่า ไม่ใช่ๆ นางฟ้าจะเห็นว่าซื่อสัตย์แล้วจะได้ของใหม่นั้นไว้ ไจแอนต์ ซึ่งขนของเล่นเก่าๆ มาเพียบ พลัดตกลงไปในบ่อ แล้วนางฟ้าก็ส่งไจแอนต์เวอร์ชั่นหล่อคืนมาให้ พอพวกโนบิตะบอกว่า ไม่ใช่ๆ ไจแอนต์ตัวจริงที่พยายามตะเกียกตะกายขึ้นมา เลยโดนนางฟ้าดึงกลับลงน้ำ ให้แต่ไจแอนต์หล่อคืนมา (ที่ลานด้านนอกมีบ่อ Woodcutter’s Spring ให้น้องๆ ช่วยกันนำไจแอนต์หล่อขึ้นมาจากน้ำด้วย)

นิทรรศการชั้น 2 เปิดฉากอย่างน่าประทับใจ ด้วยโต๊ะทำงานจำลองที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจจากตุ๊กตุ่นตุ๊กตาต่างๆ รวมถึงภูมิความรู้จากชั้นหนังสือขนาดใหญ่สูงจรดเพดาน อันเป็นที่มาของเรื่องราวต่างๆ ที่ถ่ายทอดลงเป็นการตูนสำหรับเด็ก

ไปเมืองคาวาซากิ แวะพิพิธภัณฑ์โดราเอมอน

 

เนื่องจากปีนี้เป็นปีที่ 36 ของการสร้างหนังการ์ตูนโดราเอมอนขนาดยาว จึงจะมีการฉายภาพยนตร์เรื่อง Doraemon The Movie 36 : Nobita And The Birth Of Japan 2016 นิทรรศการชั้น 2 จึงอุทิศให้เรื่องราวจากภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่ย้อนเวลาไปยังยุคไดโนเสาร์ รวมทั้งพูดถึงเนื้อหาในการ์ตูนของฟูจิโกะ ฟูจิโอะ ที่มักเล่าเรื่องของการเดินทางข้ามกาลเวลา ไม่ว่าจะเป็นโดราเอมอนเอง หรือเจ้าหนูนักประดิษฐ์ที่ค้นพบสมุดบันทึกการสร้างเครื่องไทม์แมชชีนของคุณปู่ทวด หรือตำรวจกาลเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่จับโจรข้ามเวลา ฯลฯ

ปิดท้ายส่วนนิทรรศการจริงๆ ด้วยข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวของ ฮิโรชิ ฟูจิโมโต พร้อมวิดีโอครอบครัวของเขาที่ฟังแล้วต้องซาบซึ้งถึงขั้นน้ำตารื้น โดยส่วนตัวรู้สึกว่านี่ไม่ใช่เพียงพิพิธภัณฑ์ที่เล่าเรื่องมังงะชื่อดังธรรมดาๆ ทว่า ชีวิตของเขาช่างสร้างแรงบันดาลใจได้มากมายจริงๆ

จากห้องนิทรรศการออกมาเป็นห้องอ่านการตูน ที่เต็มไปด้วยมังงะภาษาญี่ปุ่นให้นั่งอ่านกันได้ฟรีๆ ออกมาตรงนี้ให้ไปจองคิวชมภาพยนตร์สั้นที่ฉายทุกๆ 20 นาที ถ้ายังไม่ถึงรอบก็เข้าห้องน้ำ อ่านการ์ตูน หรือถ่ายรูปเล่นไปพลางๆ ก่อน

ไปเมืองคาวาซากิ แวะพิพิธภัณฑ์โดราเอมอน

 

หลังจบหนังสั้นที่จะเวียนเรื่องฉายไปเรื่อยๆ ประตูอีกด้านจะเปิดออกให้เราเข้าไปยังสวน และมีบันไดวนขึ้นสู่ชั้น 3 ที่จะมีตัวการ์ตูนมากมายให้ได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ไม่ว่าจะเป็นผีน้อยคิวทาโร่ ปาแมน แต่ส่วนใหญ่มาจากเรื่องโดราเอมอน ทั้งโดเรมี โนบิตะกันไดโนเสาร์ แล้วยังมีประตูไปไหนก็ได้ กับสนามเด็กเล่นของกลุ่มโนบิตะอีกด้วย

ก่อนกลับอย่าพลาดลิ้มรสอาหารญี่ปุ่นที่นอกจากสร้างสรรค์เป็นลายการ์ตูนของฟูจิโกะ ฟูจิโอะได้น่ารักแล้ว รสชาติยังอร่อยใช้ได้ นอกจากนี้ร้านขายของที่ระลึกก็มีสิ่งของมากมาย ทั้งของฝากและของสะสมให้กระจายรายได้สู่เมืองคาวาซากิกันอีกเพียบ

ขากลับถ้ายังไม่เย็นจนเกินไป ลองขอแผนที่ถนนเมืองคาวาซากิ ที่สามารถเดินไปยังสถานีรถไฟโนโบริโตะได้สบายๆ พร้อมชมเมือง และบรรดารูปปั้นตัวการ์ตูนตามมุมต่างๆ ของเมืองได้แบบเพลินๆ

ไปเมืองคาวาซากิ แวะพิพิธภัณฑ์โดราเอมอน

 

ไปเมืองคาวาซากิ แวะพิพิธภัณฑ์โดราเอมอน