"ใส่ใจ" คุณจะเปลี่ยนทัศนคติกับข้าวกล้องแบบเดิมๆ ไปเลย

โดย...สืบสิน ภาพ ใส่ใจ

หลายวันก่อนมีโอกาสได้นั่งพูดคุยกับหนุ่มผู้มุ่งมั่น พัชร์ เคียงศิริ ที่ตั้งใจอยากจะให้ทุกคนได้รับแต่สิ่งดีๆ ในทุกวัน กับผลิตภัณฑ์ข้าวกล้องพรีเมียม 105 และข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่ ที่เขาใส่ใจตั้งแต่ขั้นตอนการปลูก เก็บเกี่ยว จนกระทั่งเข้าโรงสี และออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่เขาตั้งชื่ออย่างตรงไปตรงมาว่า “ใส่ใจ”

จากจุดเริ่มต้นที่ว่าหนุ่มพัชร์เคยทำงานบริษัทที่รับบริการด้านการตลาด ตั้งแต่เป็นที่ปรึกษาทางการตลาด จนกระทั่งวางแผนและดำเนินงานให้ และด้วยความที่มีลูกค้าเป็นธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทำให้มีโอกาสเดินทางไปหลายๆ จังหวัดเพื่อเตรียมงาน แล้วมีอยู่ครั้งหนึ่งได้เดินทางไปที่ จ.แพร่ ก็ได้ไปเจอกับสถานที่แห่งหนึ่งคือ ต.น้ำชำ อ.เมือง จ.แพร่ ที่ชาวบ้านกว่า 100 ครัวเรือน ทำนาแบบไม่เผาซังข้าว และใช้วิธีการปลูกพืชหมุนเวียนตามรอยพระราชดำรัสของในหลวง และนั่นเป็นครั้งแรกที่ทำให้เขารู้สึกว่าเศรษฐกิจพอเพียงจากที่ได้ยินมานั้น เพิ่งได้มีโอกาสเห็นเป็นครั้งแรก ทำให้เขาเกิดความศรัทธา

“มันเป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นวิธีการปลูกข้าวแบบไม่เผานา ผมเห็นแล้วรู้สึกทึ่ง เกิดแรงศรัทธาอยากทำอะไรเพื่อชาวบ้าน ผมก็เลยปรึกษากับผู้ใหญ่บ้านว่าผมกำลังจะทำบุญใหญ่อยากให้ผมช่วยอะไร ผู้ใหญ่บ้านก็บอกว่าที่น้ำชำเป็นห้วยบวกกับป่าที่เป็นดิบแล้ง ดินมันไม่ได้ชุ่มฉ่ำเขาเลยอยากได้ฝายเพื่อชะลอน้ำ จะทำให้ดินชุ่มฉ่ำ ทำให้ป่าสมบูรณ์ขึ้น ด้วยความที่ผมเคยได้รับรางวัลเยาวชนดีเด่นของสภาสังคมสงเคราะห์ปี 2534 ผมก็เลยไปคุยกับท่านประธาน ท่านครับผมขอเงินจำนวนหนึ่งเข้าสภาแล้วเอาเยาวชนดีเด่นรุ่นน้องไปช่วยกันสร้างฝายให้น้ำชำ ก็ได้รับการอนุมัติ รวมแล้ว 80 คน ก็เดินทางไปสร้างฝายเรียกว่า ฝายแม้ว ทั้งหมด 10 ฝาย

พอปลายปี 2554 เกิดน้ำท่วมใหญ่ ผมเป็นห่วงก็เลยโทรไปถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง ผู้ใหญ่บ้านบอกว่าไม่เป็นไรเลยค่ะ เฮ้ยเจ๋งว่ะ ก็เลยได้ใจกันไปแล้วเขาซึ้งมาก จนกระทั่งปี 2556 ด้วยความที่ผมอายุมากแล้วผมก็อยากซื้อที่ดินเก็บไว้เพื่อเป็นการลงทุนก็เดินทางไปหลายจังหวัด ท้ายสุดก็มาจบที่แพร่ ก็เลยมาซื้อที่ในบริเวณเดียวกับที่ผมไปทำฝาย ในที่นั้นมีติ่งเล็กๆ ติ่งหนึ่งประมาณ 1 ไร่กว่าเป็นที่นาอยู่แล้ว พอเข้าไปเป็นเจ้าของที่เราก็กลายเป็นเจ้าของนาไปด้วย ก็เลยเริ่มให้ชาวบ้านลงมือปลูก พอปลายปี 2556 เป็นครั้งแรกที่ผมได้ข้าวบนพื้นที่ไร่กว่าของผม ได้ข้าวมาอย่างภูมิใจประมาณ 70 กก. ผมก็แจกชาวบ้าน แจกลูกน้องและก็เหลือไว้กินเอง 10 กก. ผมรู้สึกชอบข้าวมันหอมกว่าปกติ เราเองกินอาหารแบบแม็คโครไบโอติกส์อยู่แล้ว เราชิน พอมากินข้าวแล้วกลิ่นมันหอม พอหุงก็ยิ่งหอมก็เลยสนใจ

แพสชั่นก็ค่อยๆ เกิดขึ้นมาเรื่อยๆ ได้เข้ามาสัมผัสมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มจากโปรดักต์คือของมันดี ทำไมเราไม่ลองให้เพื่อนจองซื้อดู พอฤดูกาลต่อมาเราก็เริ่มถ่ายรูปกล้าข้าว และโพสต์เข้าไปในไลน์เพื่อน 2 กลุ่ม แค่ 2 วันมีเพื่อนจองมา 200 กว่า กก.เราก็ปิดรับพรีออร์เดอร์ มันก็เลยเฮ้ยสนุกดี เราก็ศึกษาไปเรื่อยๆ แล้วบังเอิญก็มีรุ่นน้องเยาวชนอีกคนเขาทำศูนย์เยาวชนเรียนรู้เกษตรพอเพียงที่ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ เราก็เดินทางไปดูเลย ไปดำนาเลย ลองดูเออมันก็ไม่ได้ยาก นับแต่นั้นผมก็มีความตั้งใจเลยว่าจะเอาข้าวที่มีคุณภาพมาให้ทุกคนได้กินกัน”

หนุ่มพัชร์ เล่าอย่างออกรส ก่อนตัดสินใจลงมือลงแรงอย่างมุ่งมั่นตั้งใจ เพียงไม่นานเขาก็เริ่มมีข้าวในฝันของเขาออกมาจำหน่าย โดยใช้ชื่อว่า “ใส่ใจ”

“ผมกินอาหารแม็คโครไบโอติกส์อยู่แล้วจนชิน รู้เลยว่าสุขภาพเราดีขึ้น ผมก็เลยอยากให้ทุกคนใส่ใจกับสิ่งที่กินลงไป มันจะทำให้เราสุขภาพดีและมีความสุข ผมอยากชักชวนให้เรารู้จักใส่ใจในสุขภาพ เลยเป็นที่มาของโลโก้ที่มีหัวใจสองดวงร้อยกัน คือใจเรา และใจคนที่รับประทาน คือหัวใจคนที่คุณรัก ใส่ใจซึ่งกันละกันเถอะ ชีวิตเราอยู่ติดกับธรรมชาติ มันจะมีผลดีกับเรา”

 

ข้าวใส่ใจที่เขามุ่งมั่นอยากให้ทุกคนได้รับประทานก็คือ ข้าวกล้องพรีเมียมที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการและปลอดภัยจากสารเคมี จากการคัดเลือกข้าวหอมมะลิพันธุ์ดีจาก 199 รวง โดยกองบำรุงพันธุ์ข้าวปี 2497 พบว่า รวงที่ 105 เป็นข้าวหอมมะลิดีที่สุด จึงเป็นที่มาของข้าวใส่ใจที่เลือกใช้พันธุ์ข้าวจากรวง 105 เท่านั้น

“เนื่องจากพื้นที่ที่เราปลูกเป็นที่ราบสูงดินไม่ดำน้ำไม่ชุ่ม เราจึงต้องมีบ่อเก็บน้ำของตัวเอง ข้าวพอไปปลูกที่เก็บน้ำได้ไม่เยอะ พอเก็บความชื้นไม่ได้นึกว่าจะไม่ดี แต่กลายเป็นว่าเก็บกลิ่นหอมได้ดีกว่าที่ปลูกในดินที่ดี ไม่ต้องใช้สารเพิ่มความหอม และไม่ใช้สารกันมอด ได้ทั้งความนุ่ม ความหอมแบบที่ไม่เคยได้กินมาก่อน”

นอกจากข้าวกล้องพรีเมียม 105 ที่เขาร่วมกันปลูกกับชาวบ้านที่ ต.น้ำชำ อ.เมือง จ.แพร่ เขายังเริ่มต้นกับข้าวสายพันธุ์ใหม่คือ ที่เป็นส่วนผสมของข้าวหอมนิลและข้าวหอมมะลิ ทำให้ได้ข้าวที่มีสีสันสวยงามและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว และกำลังเป็นที่พูดถึงกันในกลุ่มที่รักสุขภาพ นั่นคือ ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่

 

“ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่พันธุ์นี้ผมร่วมกับชาวบ้านที่ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ เป็นข้าวสายพันธุ์ดีมีสรรพคุณที่ดีกับร่างกายมาก เหมาะกับสตรีมีครรภ์ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ต้องการควบคุมน้ำหนัก โลหิตจาง ผู้มีอาการท้องผูกครับ

ผมมีความสุขที่เรารู้จักใส่ใจกับผู้อื่น ผมไม่ทำข้าวขาว ผมเลือกทำแต่ข้าวพรีเมียม ผมว่าทุกวันนี้คนหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากยิ่งขึ้นก็เลยเลือกข้าว 2 อย่างมาขาย หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมราคาค่อนข้างสูงคือ 120 บาท/กก. ในขณะที่เขาขายกันแค่ประมาณ 80 บาท ผมกล้าตอบเลยว่าไม่มีเจ้าไหนที่เขาเอาข้าวหอมมะลิ 105 มาขาย และยังปลอดจากสารพิษ ที่สำคัญเรามีโรงสีเองจึงมั่นใจได้ว่าจะไม่มีการเจือข้าวสายพันธุ์อื่นลงไป ยิ่งไปกว่านั้นคงไม่มีข้าวยี่ห้อไหนที่ส่งให้ถึงบ้าน เราไม่วางขายตามซูเปอร์มาร์เก็ต เพราะเราจะใช้ระบบสุญญากาศ ไม่รู้ว่าถุงเราจะไปโดนกระทบแล้วเกิดการรั่ว แล้วมอดจะเข้าไปกิน เพราะเราไม่ใส่สารเคมีใดๆ ไปฆ่ามอด แต่ผมจะส่งให้ถึงประตูบ้านกันเลยครับ”

นอกจากข้าวพรีเมียม 2 สายพันธุ์ ล่าสุดเขาได้แตกยอดความใส่ใจเป็นผงข้าวใส่ใจผลิตผลจากข้าวกล้องหอมมะลิ 105 นำมาคั่วบดละเอียดเหมาะสำหรับผู้ไม่คุ้นเคยกับข้าวกล้อง ที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ วิตามิน B1 วิตามิน B2 แคลเซียม ฟอสฟอรัส ทองแดง แมกนีเซียม โพแทสเซียม และธาตุเหล็ก

 

รวมถึงธัญพืชใส่ใจที่ทำจากธัญพืช 4 ชนิด คือ ข้าวกล้องหอมมะลิ 105 ลูกเดือย ถั่วเหลือง และงาดำ ซึ่งทั้งผงข้าวกล้องและธัญพืชสามารถนำไปผสมกับอาหารและเครื่องดื่มที่คุณชอบได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นสลัดผักผลไม้ แกงเผ็ด ข้าวต้ม ก๋วยเตี๋ยว นม หรือน้ำผลไม้ ฯลฯ

“นุ่มกว่า หอมกว่า และสะอาดกว่าที่ทุกคนคิด คุณจะเปลี่ยนทัศนคติกับข้าวกล้องแบบเดิมๆ ไปเลย” นั่นคือคำกล่าวทิ้งท้ายที่เปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นใส่ใจของหนุ่มพัชร์

สนใจความใส่ใจโทรศัพท์ไปสอบถามเพิ่มเติมได้ที่โทร. 08-7365-3556 และ 02-934-5285-6