posttoday

ฟินแลนด์ ดินแดนสุดประทับใจ

26 เมษายน 2558

สุเนตร คุณานันทกุล เจ้าของจิวเวลรี่ โอเปร่าเจมส์ และหุ้นส่วนศูนย์เด็กเล่นเพลย์ไทม์

โดย...อณุสรา ทองอุไร

สุเนตร คุณานันทกุล เจ้าของจิวเวลรี่ โอเปร่าเจมส์ และหุ้นส่วนศูนย์เด็กเล่นเพลย์ไทม์  เล่าถึงทริปเดินทางท่องเที่ยวสุดแสนประทับใจ ที่เธอได้เดินทางไปเคาต์ดาวน์ปีใหม่ที่ฟินแลนด์เมื่อ 5 ปีก่อนกับสามีและลูกสาววัย 10 ขวบ

“เป็นทริปที่สนุกมาก ไม่มีช็อปปิ้ง เน้นกิจกรรมในครอบครัว มีกิจกรรมให้ทำทุกวัน แต่เขาให้เด็กต้องอายุไม่ต่ำกว่า 12 ปี เล็กกว่านั้นจะไม่สะดวกในการทำกิจกรรม ไปนั่งรถลากเลื่อนโดยสุนัขเมืองหนาวที่ตัวไม่ใหญ่นัก เมืองทั้งเมืองที่เต็มไปด้วยหิมะขาวโพลน อากาศติดลบ หนาวมาก เครื่องนุ่งห่มที่เราเตรียมไปจากประเทศไทยไม่อบอุ่นเพียงพอเราต้องไปซื้อรองเท้า ถุงมือ หมวกกันใหม่หมด

ฟินแลนด์ ดินแดนสุดประทับใจ

 

เราเริ่มเดินทางโดยบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปกรุงเฮลซิงกิ เมืองหลวงที่แสนสวย เจ้าของสมญานามว่า “ธิดาแห่งทะเลบอลติก” พอไปถึงที่นั่น เมื่อก้าวลงจากเครื่องบินก็เจอหิมะขาวโพลนไปทั้งเมือง อากาศติดลบ 20 องศา มองไปสุดสายตามีแต่สีขาวของหิมะ แล้วมีลมโปรยปรายใน สายลมนั้นก็มีละอองหิมะปลิวว่อน เหมือนเมืองในฝัน แบบหนังโรแมนติกตอนเราเป็นวัยรุ่น

วันแรกที่ไปถึงเราก็ไปนั่งรถสุนัขลากเลื่อน เป็นสุนัขพันธ์ุไซบีเรียนฮัสกี้ ซึ่งเป็นสุนัขประจำประเทศฟินแลนด์ เขาจะสอนให้เราเรียนรู้วิธีลากเลื่อนขับอย่างไร หยุดอย่างไร แล้วให้เราขับรถเองโดยที่ไม่มีคนคุมให้ คันหนึ่งเรานั่ง 3 คน พ่อแม่ลูก พอลากๆ ไปมันเหนื่อยมันก็หยุดวิ่งซะงั้น ต้องคอยกระตุ้น ข้างทางก็มีแต่ต้นสนที่ถูกหิมะปกคลุมจนขาวโพลนไปหมด รถจะลากเราเป็นวงรอบใหญ่ๆ 1 รอบภูเขา ซึ่งจะมีฟาร์มสุนัขอยู่บนนั้น ก็จะให้เราแวะดูฟาร์ม จิบชากาแฟและของว่างที่นั่น ใช้เวลากับกิจกรรมรถลากนี่ประมาณ 2 ชั่วโมง สนุก อากาศเย็นสบายมาก เด็กจะชอบกันมาก ถ้าใครทนหนาวไม่ไหวเขาจะมีเต็นท์ให้เข้าไปหลบหนาว มีเตาผิงไฟและมีน้ำอุ่นให้จิบ

ฟินแลนด์ ดินแดนสุดประทับใจ

 

วันที่ 2 ก็พากันไปเล่นโมบายล์สกี ซึ่งควรที่จะต้องเป็นคนที่ชอบขับขี่มอเตอร์ไซค์ได้เพื่อที่จะขับขี่เจ็ตสกีได้ เราก็นั่งไปพร้อมกับสามีและลูก แต่รถมันเร็วและแรงทำให้รถพลิกคว่ำ แต่ก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรนัก เราขับเจ็ตสกีไปบนแม่น้ำที่กลายเป็นน้ำแข็ง เป็นกระจกหนามากใสแจ๋วเลย มองไปข้างล่างบางทีจะเห็นปลาตัวเล็กๆ ว่ายผ่านตาไปแว้บๆ แล้วก็ไปบ้านซานตาคลอสที่เมืองโรวาเนียมิ

วันที่ 3 เราไปล่องเรือที่เมืองเคมิ เป็นเรือขนาดใหญ่ เป็นเรือตัดน้ำแข็งได้ด้วย เพราะแม่น้ำกลายเป็นน้ำแข็งไปหมด ชื่อเรือแซมโป้ ตอนลงเรือลำนี้เราต้องใส่ชุดกันหนาวที่กันน้ำได้ด้วย เป็นชุดหมีติดกันทั้งเสื้อและกางเกงแบบชุดดำน้ำ เขาจะไปส่งเราในจุดที่มีน้ำใสเป็นแอ่งที่เราลงไปว่ายแล้วลอยตัวได้ น้ำเป็นอุณหภูมิติดลบ 20 องศา เรามาจากประเทศร้อน นานๆ ทีเจอแบบนี้ก็ชอบมาก มันเย็นจนสะใจ เย็นไปถึงตับไตไส้พุง

ฟินแลนด์ ดินแดนสุดประทับใจ

 

เรานอนหงายลอยตัวอยู่สักครึ่งชั่วโมงก็ทนไม่ไหว เขาห้ามคว่ำหน้าเพราะจะโดนน้ำ หิมะจะกัดเอา เพราะมันเย็นมากจริงๆ กิจกรรมสุดท้ายคือ ตกปลาในน้ำแข็ง จะมีสว่านเจาะน้ำแข็งลงไป โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญรู้ว่าเจาะตรงไหนถึงจะเจอปลา แล้วสามารถหย่อนเบ็ดลงไปได้ นี่ก็เป็นความประทับใจแบบสะใจ พอตกเย็นก็ไปเดินเล่นที่จัตุรัสซีเนท ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมือง และโบสถ์หินเทมเปอเลียวคิโอ ผลงานการก่อสร้างอันอลังการ ด้วยการขุดโพรงหินแกรนิตขนาดใหญ่ และตกแต่งภายในด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่

ประทับใจกับทริปนี้มาก อีก 2 ปีจะไปอีก รอให้ลูกชายคนเล็กครบ 11 ขวบก่อน อยากให้ลูกชายทั้งสองคนไปด้วยกัน เมื่อ 5 ปีที่แล้วลูกชาย 2 คนเล็กอายุไม่ถึง 11 ขวบเขาห้ามเอาไป เราอยากให้ลูกได้สัมผัส ได้เห็นอากาศแบบนี้บ้าง ไปแล้วเห็นลูกมีความสุข เขายิ้ม เขาหัวเราะ เขาร่วมกิจกรรมทุกอย่างที่จัดให้ เราอยากเห็นลูกมีความสุขมีประสบการณ์วัยเด็กที่น่าจดจำ น่าประทับใจ

ฟินแลนด์ ดินแดนสุดประทับใจ

 

อาหารที่ฟินแลนด์ก็อร่อยใช้ได้ มีขนมชนิดหนึ่งจำชื่อไม่ได้แต่ทำจากแป้งคล้ายๆ ข้าวเหนียว แล้วเอาไปปิ้ง เขาจะเสิร์ฟมาทุกเช้า ด้วยความที่อากาศหนาวมาก พอได้กินแป้งนุ่มๆ ร้อนๆ มันเข้าบรรยากาศดีมากเลย 

เป็นประเทศที่มีทะเลสาบอยู่ถึง 188,800 กว่าแห่ง เป็นประเทศที่มีทะเลสาบมากที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ นั่นคือเสน่ห์ของฟินแลนด์ การที่มีทะเลสาบเยอะ ก็ทำให้มีปลาต่างๆ เยอะมาก โดยเฉพาะปลาแซลมอน ใครชอบปลาต้องไปที่นี่

ฟินแลนด์ ดินแดนสุดประทับใจ

 

นอกจากปลาแล้ว ยังมีเนื้อกวาง โดยกวางจะมี 2 แบบ คือ กวางเรนเดียร์ที่มีเขาเป็นกิ่ง กับกวางมูสที่มีเขาเป็นแผง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสแกนดิเนเวีย เพราะว่าทั้งกวางมูสและกวางเรนเดียร์เป็นกวางที่พบได้ทั่วไปในแถบนั้น แต่กวางเรนเดียร์จะเป็นกวางที่ชาวแลปป์เลี้ยงไว้ ส่วนกวางมูสเป็นกวางที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ

ฟินแลนด์ เป็นประเทศเล็กๆ เคยอยู่ภายใต้การปกครองของสวีเดนมาเป็นเวลา 600 ปี และอยู่ภายใต้การปกครองของรัสเซียอีกกว่า 100 ปี หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงได้ประกาศตัวเป็นประเทศที่มีเอกราชโดยสมบูรณ์ แม้จะอยู่ภายใต้การปกครองของประเทศต่างๆ มาเป็นระยะเวลายาวนาน แต่ฟินแลนด์ก็สามารถพัฒนาประเทศได้อย่างรวดเร็วและรุดหน้าไปมาก ด้วยความที่ประชากรไม่มาก และยังสามารถควบคุมดูแลพื้นที่ทุกตารางนิ้วของประเทศได้เป็นอย่างดี แล้วคนเขามีระเบียบวินัยดีมาก บ้านเมืองสะอาด ไม่วุ่นวายพลุกพล่านเหมือนประเทศยุโรปบางประเทศที่เป็นเมืองท่องเที่ยวหรือเมืองช็อปปิ้ง

ฟินแลนด์ ดินแดนสุดประทับใจ

 

สุดท้ายได้ไปชมโรงแรมน้ำแข็งซึ่งเขาจะเปิดปีละครั้ง ทุกอย่างในโรงแรมนี้เป็นน้ำแข็งทั้งหมด แม้กระทั่งเตียงนอน โต๊ะนั่ง มันสนุก เพราะเราไม่เคยเจออะไรแบบนี้ทุกสิ่งอย่างเป็นเรื่องใหม่ที่ทำให้เราตื่นตาตื่นใจได้เสมอ

พอวันที่ 6 เราก็นั่งเรือไปสวีเดน โดยค้างคืนในเรือ 1 คืน เป็นเรือจุได้ 500 คน ที่สวีเดนไม่หนาวมาก เราก็ไปเดินชมเมือง ถ่ายรูป ชมพิพิธภัณฑ์ ดูสถาปัตยกรรมแบบยุโรปเก่าแท้ๆ  พออากาศดีมันก็น่าเดิน เย็นสบายเหงื่อไม่ออก ยิ่งเดินร่างกายก็ยิ่งอบอุ่น เราก็เดินเล่นชิลๆ แวะจิบกาแฟกัน ดูของที่ระลึกระหว่างทาง ใช้ชีวิตช้าๆ ไม่เร่งรีบ ก็เป็นความสุขอีกแบบหนึ่ง เดินคุยกันจุ๋งจิ๋ง จูงมือกันพ่อแม่ลูก ซึ่งตอนอยู่บ้านเราที่เมืองไทยเราไม่ค่อยมีโอกาสใกล้ชิดกันมากๆ ขนาดนี้ อยู่เมืองหนาวบรรยากาศมันให้จริงๆ

สามีจะชอบทริปแบบนี้มาก เขาจะเบื่อเวลาไปทริปที่มีช็อปปิ้งเยอะๆ แต่นี่เราแทบไม่ช็อปปิ้งกันเลย เดินดูบ้านดูเมืองจริงๆ แล้วก็เน้นกิจกรรมเป็นหลัก”