ตื่นตาเริงร่าที่ซาฟารีเวิลด์

โดย...แมงโก้หวาน

เข้าสู่เทศกาลสงกรานต์และปิดเทอมพอดี๊พอดี คุณพ่อคุณแม่และคุณลูกได้หยุดพร้อมหน้าพร้อมตากันแล้วนะครับ เลยอยากแนะนำที่ชอบๆ ในสัปดาห์นี้สักหน่อย คือ ซาฟารีเวิลด์ สวนสัตว์เปิดกรุงเทพฯ อาณาจักรแห่งความสุขและสนุกไปพร้อมกับความสามารถของบรรดาสัตว์ใหญ่น้อย ไม่มีที่ไหนจะยิ่งใหญ่กว่านี้อีกแล้ว ตั้งอยู่บนถนนรามอินทรา บริเวณกิโลเมตรที่ 9 เขตมีนบุรี

รับรองว่าทุกคนที่มีโอกาสได้ไปต้องชอบแน่นอน แมงโก้หวานไปมาแล้วกับครอบครัวเป็นครั้งแรกเมื่อสี่อาทิตย์ที่ผ่านมา สุดเริงร่าทั้งคุณลูกคุณแม่บ้าน (ฮ่า) ทุกคนมิเพียงจะสนุก ได้หัวเราะไปกับความน่ารักและแสนรู้ของสัตว์ที่ได้รับการฝึกมาอย่างดีแล้ว ยังได้ความรู้อีกมากมาย จะเห็นว่าลูกๆ ต่างเก็บข้อมูลกันใหญ่ด้วยการจดชื่อเกี่ยวกับสัตว์นานาชนิด มีอะไรบ้างเอามาอวดกัน พร้อมเก็บภาพแห่งความประทับใจด้วยโทรศัพท์อีกด้วย บางครั้งก็ตั้งคำถามกับคุณพ่อจากสิ่งที่เห็นจนคุณพ่อก็ตอบไม่ทัน บางครั้งก็จนมุมในคำถามของลูกๆ ที่บางคำถามสุดล้ำเกิ๊น เฮ้อ! เด็กสมัยนี้ช่างถามจริ๊ง

ซาฟารีเวิลด์มีพื้นที่ 400 กว่าไร่ แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ซาฟารีปาร์ค และมารีนปาร์ค ทั้งสองส่วนนี้ถ้าเราเดินทางมาตั้งแต่ช่วงที่สวนสัตว์เปิดคือเวลา 09.00 น. (ทุกวัน) ก็สามารถท่องเที่ยวและนั่งชมทุกการแสดงได้หมดในวันเดียว หากมาช้าก็จะได้ดูการแสดงลดลงตามส่วน แต่ไหนๆ เสียเงินทั้งทีบัตรราคาก็ไม่ใช่น้อยควรมาแต่เช้า แต่วันนั้นแมงโก้หวานมาถึงสวนเวลาก็ปาเข้าไปเที่ยงวันแต่ก็ได้ดูอะไรหลายอย่าง สุดประทับใจ เด็กๆ ชอบมาก

ก่อนเข้าชมทั้งสองส่วน ทุกคนต้องซื้อตั๋ว ค่าบัตรผ่านประตูชุดแพ็กเกจสำหรับผู้ใหญ่ราคา 580 บาท และเด็ก (ความสูง 101-140 ซม.) ราคา 400 บาท เด็กเล็กความสูงไม่ถึง 100 ซม. เข้าชมฟรี โดยบัตรชุดแพ็กเกจนี้สามารถเข้าชมและใช้บริการได้ทั้งซาฟารีปาร์คและมารีนปาร์ค (อันนี้ราคาคนไทย ถ้าต่างชาติจะสูงกว่านี้นะครับ)

 

เริ่มต้นแมงโก้หวานเลือกไปซาฟารีปาร์คก่อน แต่ก่อนไปซื้อบัตรนั่งรถบัสเล็กปรับอากาศของทางสวนจัดให้ในราคาคนละ 30 บาท เพราะไม่มีรถยนต์ส่วนตัว แต่ถ้าใครมีรถยนต์ส่วนตัวจะดีมาก เพราะสามารถขับรถเที่ยวชมสัตว์ต่างๆ ตรงจุดที่ชอบนานๆ ได้ แต่ห้ามลงจากรถเป็นอันขาด เพราะอาจได้รับอันตรายจากสัตว์ได้

ในซาฟารีปาร์คนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสใกล้ชิดกับฝูงสัตว์ป่าหายากใกล้สูญพันธุ์ และสัตว์อนุรักษ์กว่าพันตัวจากทั่วโลก โดยแบ่งย่อยออกเป็นหลายโซน ทันทีที่เข้าไปเราก็จะได้พบกับความมหัศจรรย์ของนกนานาพันธุ์สวยงามมากมาย อาทิ นกกระสา นกกาบบัว นกปากห่าง นกพิลิแกน นกกาน้ำ นกกระยาง นกกางเขน เป็นต้น ต่อมาก็เป็นโซนยีราฟที่ต่างชูคอยาวอวดนักท่องเที่ยว มีทั้งพันธุ์มาไซ (ลายสีเข้มๆ) อีกพันธุ์คือ เซาท์แอฟริกา (มีสีอ่อนลายไม่ค่อยชัด) เรียกเสียงชอบใจจากเด็กๆ ในรถ

โซนต่อมาก็เป็นพวกกวางและแอนทีโลป ทั้งสองชนิดมองผิวเผินมีความคล้ายคลึงกัน แต่กวางมีเขาเฉพาะแค่เพศผู้ แอนทีโลปมีเขาทั้งเพศผู้เพศเมีย ถัดโซนนั้นมาเป็นพวกกระทิง นิลไก เนื้อทราย วัววาตุซี่ โอริกซ์ ตามด้วยแบล็คบัคซึ่งมีลักษณะที่ผู้ชายอยากเป็นมาก คือฝูงแบล็คบัค 1 ฝูง จะมีตัวผู้เพียง 1 ตัว นอกนั้นเป็นตัวเมียทั้งสิ้น

 

ถัดไปโซนอันตราย คือ สิงโต ทันทีที่รถบัสผ่านประตูไฟฟ้าเข้าเขตสิงโต เด็กๆ ในรถพอเห็นฝูงสิงโตถึงกับชี้ไม้ชี้มือร้องเรียกสิงโตๆ และยังคงอยู่โซนอันตราย คือ เสือเบงกอล ที่มาจากรัฐเบงกอล ประเทศอินเดีย ตามด้วยหมีควายและหมีดำแคนาดา โดยหมีควายจะมีขนสีขาวที่คอเป็นรูปตัววีในภาษาอังกฤษ ขณะขนทั่วตัวจะมีสีดำ ส่วนหมีแคนาดามักอาศัยอยู่ใกล้น้ำ ปิดท้ายด้วยโซนควายป่าแอฟริกาและนกยูง

การท่องซาฟารีปาร์คด้วยรถยนต์จบลงด้วยเวลา 1 ชั่วโมงโดยประมาณ จากนั้นไปลุย “มารีนปาร์ค” ต่อ ซึ่งในส่วนนี้มีการแสดงโชว์ของสัตว์โลกผู้น่ารักมากมาย เช่น โชว์อุรังอุตัง โชว์สิงโตทะเล โชว์โลมา โชว์นก เป็นต้น ซึ่งการแสดงโชว์ทั้งหมดนี้นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับสัตว์แสนรู้ผู้น่ารักอย่างใกล้ชิด

ทุกการแสดงของสัตว์แสนรู้บอกได้คำเดียวว่าประทับใจมาก โดยเฉพาะการชกมวยของอุรังอุตังเรียกเสียงหัวเราะได้ทุกช็อต ทั้งฉลาด ขี้เล่นเป็นที่หนึ่ง การแสดงโลมาหรือแม้แต่สิงโตทะเล ก็สุดแสนมหัศจรรย์ สามารถปฏิบัติตามคำสั่งได้ เรียกเสียงปรบมือได้ตลอด นอกจากนี้ยังมีการแสดงโชว์สงครามจารกรรม และเวสเทิร์น คาวบอย สตันต์โชว์ ให้ได้ลุ้นระทึกและตื่นเต้นไปกับสเปเชียลเอฟเฟกต์ที่สมบูรณ์แบบโดยทีมงานระดับโลกเลยทีเดียว ทุกการแสดงแต่ละโชว์เพียงวันละรอบ ถ้าจะดูให้ครบต้องบริหารจัดการเวลาให้ดี ถ้าพลาดแล้วจะเสียดาย

ยังไม่หมดแค่นี้ ยังมีส่วนของสัตว์อนุรักษ์ สัตว์สวยงาม สัตว์หายากจากทั่วโลก และโซนจังเกิลวอล์ก ที่ได้สร้างสิ่งใหม่ๆ เพิ่มเติมอีกหลายรายการ อาทิ ศูนย์เพาะพันธุ์ไข่เอ็กซ์เวิลด์ อาณาจักรที่รวบรวมความรู้เรื่องไข่ของนกนานาชนิด อ่างแมวน้ำ อีกที่หนึ่งคือมินิเวิลด์ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถให้อาหารนกแก้วซันคอนนัวร์ที่จะมากินอาหารบนมือของเราด้วย

เรียกว่าเยอะแยะไปหมด จนไม่รู้ว่าจะเลือกชมอะไร แต่บอกได้เลยว่ามาที่นี่ทุกคนต้องชอบและเก็บภาพแห่งความประทับใจกลับไปไม่หมด ไม่เชื่อต้องไปดูกับตา