วัดระฆัง

โดย...นพพล ชูกลิ่น

ครั้งที่แล้วผมเขียนถึงวัดพระรามเก้า ซึ่งเป็นวัดที่สร้างขึ้นใหม่ในช่วงระยะเวลาไม่นานนัก ทำให้ผมคิดถึงวัดต่างๆ ที่ผมเคยเดินถ่ายรูปตอนที่หัดถ่ายรูปใหม่ๆ ในที่สุดผมก็คิดถึงวัดระฆัง เพราะจำได้ว่าเป็นวัดเก่าแก่ที่มีองค์พระประธานในโบสถ์สวยงามมาก ผมไม่ทราบว่าวัดมีอายุกี่ร้อยปีแล้ว แต่บรรยากาศภายในวัดช่างดูสงบร่มเย็นมาก ภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังภายในโบสถ์มีความงดงามเป็นอย่างยิ่ง อายุของภาพน่าจะมีเป็นร้อยปีขึ้นไป วันนี้กำลังรอการบูรณะจากหน่วยงานภาครัฐและประชาชนที่เลื่อมใสศรัทธา ช่วยกันทนุบำรุงวัดแห่งนี้ให้ดำรงคงอยู่คู่บ้านคู่เมืองของเรา

 

แต่สิ่งที่ผมอยากมาเล่าให้ท่านผู้อ่านได้ฟังในฉบับนี้ คือ ศาลาทรงไทยที่อยู่ด้านหลังโบสถ์หันหน้าเข้าโบสถ์อยู่ทางด้านซ้ายมือ น่าจะเป็นอาคารเก่าแก่ที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากทางวัดเป็นอย่างดี ภายในเก็บของเก่าและพระบรมฉายาลักษณ์ ไม้แกะสลักเก่าแก่ ตู้ที่ผ่านขั้นตอนการลงรักปิดทองที่วางไว้อวดความงดงามในฝีมือช่างสมัยเก่า ช่างเข้ากับบรรยากาศของอาคารทรงไทยแท้ๆ ที่นับวันจะหาดูได้ยากขึ้นเรื่อยๆ

 

ผมเดินเก็บภาพภายในอาคารทรงไทยแห่งนี้แล้วรู้สึกชอบมากๆ เพราะทั้งสงบและงดงาม เทคนิคการถ่ายภาพภายในอาคารที่มีข้อจำกัด ไม่สามารถใช้ขาตั้งกล้องวางไว้กับพื้นได้ เพราะสถานที่อาจจะคับแคบเกินไป หรือเกรงว่าจะไปทำให้พื้นไม้เสียหาย หรืออาจจะทำให้นักท่องเที่ยวท่านอื่นๆ ไม่ได้รับความสะดวกในการเข้าชม ดังนั้นช่างภาพจึงต้องใช้เครื่องมือที่เรียกว่า ISO เข้ามาช่วยในด้าน Speed Shutter จะทำให้สามารถเก็บภาพได้ แต่การใช้ ISO มีสิ่งที่ต้องคำนึงถึง คือ ถ้าใช้ค่า ISO สูงมากๆ จะทำให้เกิด Noise ในภาพได้ คือ การบันทึกภาพจะเป็นจุดๆ ขึ้นทั่วๆ ไปในบริเวณภาพ จะทำให้ภาพขาดความคมชัด นักถ่ายภาพมือใหม่ต้องระมัดระวังนะครับ ยิ่งถ้าหากมีค่าความเปรียบเทียบต่างของแสงมากๆ อาจจะทำให้ส่วนที่สว่างในภาพจะเป็นสีขาวที่สว่างโพลนมากๆ ก็จะทำให้ภาพนั้นเสียได้

 

การไปเยี่ยมกราบขอพรจากพระประธานในวัดระฆังแล้ว ท่านยังสามารถเดินลัดเลาะผ่านย่านชุมชนอันเก่าแก่ของชาววัดระฆังมาหาของอร่อยๆ ทานตามร้านข้างทางไปจนถึงท่าน้ำศิริราช มีร้านค้าให้เพลิดเพลินกับแหล่งช็อปปิ้งที่มีความหลากหลาย ผมรับรองว่าท่านจะสนุกกับการเดินในเส้นทางนี้ ลองไปเดินเล่นกันนะครับ ท่านจะได้ความสงบทางใจ เพลิดเพลินกับอาหารพื้นบ้านอร่อยๆ ในวันหยุดพักผ่อนของคุณ