posttoday

น้ำตกหมันแดง

27 กรกฎาคม 2556

ตำนานแห่งสงครามบนเส้นทางความคิดในระบอบการปกครองที่แตกต่างกันในสมัยหนึ่งของประเทศไทย คงจะไม่มีใครในรุ่นผมที่จะไม่ได้ยินตำนานแห่งสมรภูมิภูหินร่องกล้า

โดย...นพพล ชูกลิ่น

ตำนานแห่งสงครามบนเส้นทางความคิดในระบอบการปกครองที่แตกต่างกันในสมัยหนึ่งของประเทศไทย คงจะไม่มีใครในรุ่นผมที่จะไม่ได้ยินตำนานแห่งสมรภูมิภูหินร่องกล้า ตำนานยุทธศาสตร์การรบของเหล่าทหารผู้กล้ากับนักรบที่เป็นเพียงผู้ยึดมั่นในอุดมการณ์ทางการปกครองที่แตกต่าง

ผมมีโอกาสได้เดินทางไปเที่ยว “น้ำตกหมันแดง” คืออีกหนึ่งน้ำตกที่มีความงดงามของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อุทยานแห่งชาติที่ครอบคลุมพื้นที่ อ.ด่านซ้าย จ.เลย และ อ.นครไทย จ.พิษณุโลก โดยได้เดินทางไปยังบริเวณแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ บนยอดขุนเขาภูหินร่องกล้า แล้วเข้าพักยังที่ทำการของวนอุทยานแห่งชาติหนึ่งคืน เพื่อมุ่งหน้าสู่น้ำตกหมันแดง ราชินีแห่งขุนเขา ที่ซึ่งต้องใช้การเตรียมตัวและจิตใจที่มุ่งมั่นพอ

เป้าหมายของการเดินทางในครั้งนี้คือเราจะต้องเดินขึ้นสู่ตัวน้ำตกทาง จ.เลย และไปสิ้นสุดที่ จ.พิษณุโลก ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะไม่ใช้เส้นทางนี้กันเพราะเป็นเส้นทางที่ค่อนข้างยากลำบากและต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อไปรอรับยังจุดลงที่พิษณุโลก

สาเหตุที่เราวางแผนการเดินทางแบบนี้เพราะมีหลายคนพูดให้ฟังว่า การพิชิตน้ำตกแห่งนี้ต้องไปตามเส้นทางเช่นนี้ให้ได้ถึงจะรู้จักและเข้าใจน้ำตกหมันแดงได้ดีพอ เราจึงมุ่งมั่นที่จะเดินทางให้ครบตามที่กำหนดไว้ เราตื่นแต่เช้ามืดเตรียมอุปกรณ์ในการเดินทางเข้าป่า มีเสบียงอาหารกลางวันใส่ถุงเล็กๆ เป็นเพียงข้าวเหนียวไก่ทอดและไข่ต้มหนึ่งห่อเล็กๆ น้ำดื่มหนึ่งขวด อุปกรณ์ป้องกันมิตรคู่ใจในป่าชื้นแฉะคือทากที่ไม่ใช่เป็นเพียงสัตว์ตัวเล็กๆ เท่านั้น แต่เป็นสัตว์ที่มีความสามารถพิเศษในการค้นหาแหล่งอาหารต่างๆ บนตัวเราได้

ทากที่บินได้ผมก็เพิ่งพบที่นี้แหละครับ มันมีความสามารถในการดีดตัวจากต้นไม้เข้าใส่ตัวเรา การป้องกันคงไม่ใช่เพียงแค่ปลอกกันทากที่สวมบริเวณเท้าจนถึงหัวเข่าเพียงอย่างเดียวนะครับ คงต้องมีสเปรย์ฉีดป้องกันไปด้วยนะครับ เราใช้เวลาเดินผ่านป่ารกชันกว่าสามชั่วโมง เพื่อไปสู่ตัวน้ำตก ตลอดเส้นทางเราต้องเดินด้วยความระมัดระวังก็ยังไม่วายที่จะล้มลุกคลุกคลานได้แผลตามๆ กันไป แต่เมื่อเดินถึงบริเวณน้ำตก ความเหน็ดเหนื่อยก็หายไป

น้ำตกหมันแดงมีถึง 32 ชั้น แต่เราสามารถเดินชมได้เพียง 9 ชั้น แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเดินถึงชั้นที่ 5 เท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นชั้นที่สวยงามที่สุด ไม่ได้สวยที่ขนาดที่ใหญ่กว่าชั้นอื่นๆ นะครับ แต่ที่สวยเพราะเป็นชั้นเดียวที่มีดอกไม้ที่ชื่อดอกลิ้นมังกรอยู่ และจะบานเพียงปีละครั้ง คือประมาณเดือน ส.ค. ทั้งนี้ขึ้นกับสภาพอากาศด้วยนะครับ บ้างคนโชคดีก็ได้เห็นดอกลิ้นมังกรขึ้นชูช่อเป็นพุ่มใหญ่อยู่บริเวณหน้าน้ำตกในชั้นที่ 5 นี้ แล้วนักท่องเที่ยวก็มักจะเดินทางกลับเพราะต้องออกจากป่าให้ทันก่อนมืด ผมโชคดีที่เตรียมเดินทางแต่เช้าเพื่อออกจากน้ำตกตามแผนที่กำหนดไว้

ตลอดเส้นทางที่เดินกลับออกมาก็คือน้ำตกในชั้นต่างๆ ที่เหลืออยู่ เจ้าหน้าที่บอกว่าถ้าต้องการเที่ยวให้ครบทั้ง 32 ชั้น ต้องค้างแรมในป่าอย่างน้อย 2 คืน ขึ้นกับความสามารถในการเดินป่าของนักท่องเที่ยวเอง เราเลยได้แต่เดินผ่านไปตามไหล่เขาที่รกชันและอันตรายมากๆ เพราะเดินลัดเลาะไหล่เขาที่มีความสูงขนานไปกับตัวน้ำตกที่ผมได้ยินเสียงสายน้ำกระทบแผ่นหินเป็นเสียงกึกก้อง เรียกว่าให้ตะโกนจนสุดเสียงก็ไม่มีทางได้ยินเสียงของเพื่อนคุณ ทำให้ผมจินตนาการว่าต้องเป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่มากๆ

เราออกมาจากป่าถึงพิษณุโลกพลบค่ำพอดี ความเหน็ดเหนื่อยบาดแผลอุปกรณ์ถ่ายภาพที่เสียหาย ที่สูญเสียไปมันไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกเสียดายเลยเมื่อเทียบกับประสบการณ์ที่ผมได้รับจากการเดินทางสู่มหาน้ำตกที่ชื่อว่า “หมันแดง” แห่งนี้ สมดังคำที่ว่า “ชีวิตหนึ่งต้องไปให้ถึงน้ำตกหมันแดง” น้ำตกที่ผมคิดว่าสวยที่สุดในประเทศไทย