posttoday

กระเจียวบานแล้ว

20 กรกฎาคม 2556

แม้ฝนในปีที่ผ่านมาจะตกในบริเวณเทือกเขาพังเหย อำเภอเทพสถิตและอำเภอใกล้เคียง จ.ชัยภูมิน้อยกว่าปรกติ

โดย...จำลอง บุญสอง

แม้ฝนในปีที่ผ่านมาจะตกในบริเวณเทือกเขาพังเหย อำเภอเทพสถิตและอำเภอใกล้เคียง จ.ชัยภูมิน้อยกว่าปรกติ ทำให้ดอกกระเจียวสีขาวและสีชมพูที่เคยชูช่อสะพรั่งบนที่ราบแถบนั้น “ไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร” แต่ทว่าเทือกเขาพังเหยซึ่งเป็นที่เชื่อมต่อระหว่างภาคกลางกับภาคอีสานแห่งนี้ก็ยังควรเป็นที่ที่ “คนเมือง” ต้องเดินทางไปเยือนอยู่ดี ที่ต้องไปเยือนก็เพราะอากาศยามเช้าเย็น “สะอาด” ไม่ต่างอะไรกับเขาใหญ่ที่อ็อกซิเยนมีปริมาณมากนั่นเอง

แม้จะผิดหวังกับกระเจียวขาวอุทยานแห่งชาติไทรทองที่ออกดอกไม่มากนัก แต่ผมก็ได้รูปผีเสื้อกลุ่มใหญ่ๆที่มากินน้ำเกลือแร่บริเวณร่องน้ำทางขึ้นอุทยานแทน แม้จะต้องเข้าไปถ่ายใกล้ๆมันมาก ผีเสื้อเหล่านั้นก็ไม่ค่อยจะตื่นกลัวเหมือนอุทยานแก่งกระจานและที่อื่นๆ

ผีเสื้อหลายตัวถูกล้อรถทับแบนติดดินอย่างน่าแปลกใจ จะว่ารถวิ่งเร็วทับเร็วก็ไม่น่าจะใช่ เพราะก่อนที่รถจะมาถึงบริเวณที่ผีเสื้อเกาะกลุ่มกันก็ต้องผ่านลำน้ำที่ไหลขวางเสียก่อน เสียงน้ำกระจายที่ส่งเสียงดังซ่าถ้าเป็นผีเสื้อแก่งกระจานก็จะพร่างพรูหนีออกข้างทางโดยไม่เป็นอันตราย แต่ผีเสื้อที่นี่กลับถูกทับตายอย่างน่าแปลกใจ

ผมเก็บความสงสัยเอาไว้ในใจว่าทำไม ผีเสื้ออุทยานแห่งชาติไทรทองจึงไม่เปรียวเหมือนที่อื่นๆ

ถ่ายรูปผีเสื้อแล้วก็วิ่งไปจ่ายเงินค่าเข้าอุทยานเพื่อไปยัง “ผาหำหด” อันเป็นจุดหมายแรกที่นักท่องเที่ยวต้องผ่านไปเพื่อถ่ายรูปกับแผ่นหินที่ยื่นออกไปในอากาศที่หุบเหวเบื้องล่างห่างเป็นร้อยๆเมตร หลายๆคนที่ไม่กลัวความสูงก็ออกไปยืนเพื่อให้เพื่อนหรือแฟนถ่ายรูป ส่วนผมกลัวความสูงก็ได้แต่ถ่ายรูปคนอื่นเขาอยู่ไกลๆ ชั้นความสูงห่างกันขนาดนั้นถ้าเกิดพลัดตกลงไป ไม่เพียงแต่หำจะหดเท่านั้น หำจะเหลืออยู่กับตัวหรือไม่ก็ยังต้องคิดกันหนักทีเดียว

ท่องป่าโปร่งไปดูดอกกระเจียวสีขาวซึ่งขึ้นเพียงไม่กี่ดอกแล้วก็ละเหี่ยใจ เจ้าหน้าที่และชาวบ้านบอกตรงกันว่า ปีที่ผ่านมาส่วนต่อชัยภูมิลพบุรีแล้งมากๆ ทำให้ดอกกระเจียวขาว (ที่ออกช้ากว่าดอกกระเจียวสีชมพูประมาณ 1 อาทิตย์) ไม่ออกดอก

แม้จะกลับลงมาด้วยความผิดหวังแต่คนที่ไปเยือนป่าหินงามมาแล้วก็มาให้ความหวังว่า ที่ป่าหินงามดอกกระเจียวสีชมพูออกสวยทีเดียว

รีบกลับออกจากอุทยานไทรทองผ่านเส้นทางผีเสื้อเกาะกินน้ำเกลือแร่อีกครั้ง ไปแล้วก็ต้องแปลกใจหนักขึ้นไปมากกว่าเดิม เพราะเหล่าผีเสื้อที่ผมถ่ายรูปก่อนหน้านี้นอนตายกันเกลื่อนถนน ที่เหลือก็พะงาบๆใกล้จะตาย สันนิษฐานเอาเองว่าผีเสื้อที่เสียชีวิตและเข้าขั้นโคม่าอยู่นั้น สันนิษฐานว่าผีเสื้อคงไปกินน้ำเจือสารพิษที่ไหลลงมาตามน้ำนั่นเอง เพราะถ้ามันหมดอายุขัยก็คงไม่ลงมาตายพร้อมๆกันชนิดหลากหลายพันธุ์อย่างนี้

นอนที่หมู่บ้านทางขึ้นอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม 1 คืนเพราะออกจากอุทยานแห่งชาติไทรงามแล้วแวะคุยกับชาวบ้านตามทางเพื่อความเข้าใจในถิ่นที่ไปเที่ยว อีกอย่างก็ไม่อยากรีบร้อนนัก ที่ไม่รีบก็เพราะอยากเสพบรรยากาศทุ่งดอกกระเจียวตอนเช้ามากกว่าตอนเย็น เห็นหน้านักการเมืองติดอยู่ข้างหน้าทางขึ้นแล้วแทบจะหมดอารมณ์ เดี๋ยวนี้นักการเมืองไม่ว่าทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติ ข้าราชการไม่ว่าจะทหาร ตำรวจหรือพลเรือน โชว์หน้าที่คัทเอาท์เหมือนกันหมด เงินของพวกนายหรือเงินภาษีของประชาชนกันนะ!

วันธรรมดาๆที่ไม่ใช่วีคเอนด์ทำให้ร้านรวงแถวนั้นปิดร้านหนีความเหงากันไปหมดทั้งบางหมด อากาศที่ตีขึ้นหลังจากชนหน้าผาและไหลไปตามร่องเขาแบบเดียวกับที่วังน้ำเขียว บวกกับป่าอุทยานที่ซับความร้อนให้จึงทำให้บริเวณนี้มีอุณหภูมิที่ไม่สูงเมื่อเทียบกับที่ราบภาคกลาง รีสอร์ทแถวนี้จึงใช้แค่พัดลม เคยมาที่นี่มาก่อนแต่ไม่เคยนอน จึงเลือกที่จะนอนห้องที่รีสอร์ทเขาเรียกกันว่า “ห้องแอร์” ที่เลือกเช่นนั้นก็เพราะกลัวว่าห้องพัดลมจะมีแมลงเข้ามารบกวน แต่เข้าไปแล้วก็แทบจะเป็นลมเพราะห้องแอร์ที่เขาว่าเป็นแอร์ที่ใช้พัดลมเป่าผ่านน้ำ ไม่ใช่แอร์อย่างที่รีสอร์ททันสมัยเขาใช้กัน รู้อย่างนี้จ่ายราคาห้องพัดลมดีกว่า

เดี๋ยวนี้ต้องจอดรถไว้ที่ลานจอดแล้วจ่ายค่ารถขนส่งของชาวบ้านขึ้นไป มันเป็นวิธีการจัดการปัญหาความขัดแย้งระหว่างอุทยานกับชาวบ้านด้วยการแบ่งปันที่ดีวิธีหนึ่งและคิดต่อไปอีกว่า “ภูกระดึง” ซึ่งเป็นอุทยานของทุกๆคนในชาติก็ควรจะใช้วิธีการแบบนี้เช่นเดียวกัน

ผมสนับสนุนการทำกระเช้าขึ้นภูกระดึง เพราะภูกระดึงไม่ใช่ภูเขาของคนแข็งแรงหรือของคนที่คัดค้านการทำกระเช้าแต่เป็นภูเขาของคนแก่และเด็กๆด้วย

หลายคนบอกกับผมว่าถ้าสร้างกระเช้านอกจากจะทำลายสิ่งแวดล้อมแล้ว เราจะเอาลูกหาบที่แบกของจนหลังบุ๋มลงไปเหล่านั้นไปอยู่ที่ไหน หรือจะให้ไปทำมาหากินอะไร ผมก็ตอบว่าก็เอาลูกหาบเหล่านั้นเป็น “หุ้นส่วน” ของบริษัททำกระเช้าเสียสิ เป็นหุ้นส่วนนอกจากจะได้เงินปันผลตามสิทธิ์แล้ว ยังจะสามารถทำงานอย่างอื่นได้อีก แบ่งปันกันอย่างนี้ก็ไม่ใช่เรื่องของการทำลายอาชีพแบกของจนไหล่ยู่ของราษฎรแต่ประการใด และถ้ากลัวว่าคนจะขึ้นไปเที่ยวมากเกินกำลังที่ป่าจะรับได้ก็จำกัดคนขึ้นเสียก็ไม่เห็นจะยากอะไร

ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เรื่อง “วิธีการ” (ในการจัดการต่อปัญหา) แต่เป็นปัญหาเรื่อง “หลักการ” ว่าพวกที่คัดค้านทำไมจึงรอนสิทธิ์คนแก่และเด็กๆเจ้าของประเทศต่างหาก

มีปัญหาอะไรกับคนแก่และเด็กหรือเปล่า?

ดอกกระเจียวสีชมพูที่เดินลงจากรถไปดูออกจะสดชื่นในยามเช้า หมอกที่พัดผ่านยอดหญ้ายามตะวันยอนแสงมาทางทิศตะวันออกอาจจะเป็นอุปสรรคต่อการถ่ายภาพไปบ้าง แต่ถ้ารอให้หมอกผ่านพ้นไป ภาพที่ถ่ายออกมาก็สวยได้ดั่งใจทีเดียว

คนที่ไปเที่ยวทุ่งดอกกระเจียวมีทั้งคนหนุ่มสาวและมากันแบบครอบครัวทั้งเด็กและคนแก่ก็สามารถเดินไปตามทางได้อย่างปลอดภัย

บรรยากาศยามเช้าของทุ่งดอกกระเจียวสดชื่นเพราะปราศจากไอน้ำมันจากท่อไอเสียรถยนต์ ขอบคุณเจ้าหน้าที่อุทยานที่ไม่ให้นำรถขึ้นไปเหมือนในอดีต

ใครจะไปเที่ยวทุ่งดอกกระเจียวก็ไปเสียตอนนี้ เพราะหลังจากนี้ไปดอกมันก็จะโรยลงไปตามอายุขัยมัน ไปแล้วก็อย่าลืมไปเที่ยวลานหินงามที่อยู่อีกด้านหนึ่งที่มีหินหำตั้งอยู่ ผมไปทั้งผาหำหดและหินหำตั้ง ไม่รู้ว่าใครนะที่ตั้งชื่อ สอบถามสถานการณ์ดอกกระเจียวได้ที่ททท.โคราชเบอร์ 044-213-030 หรือที่อุยานแห่งชาติผาหินงามเบอร์ 044-890-105 ครับ!