posttoday

กินแบบอินเดีย นาน จาปาตี โรตี ข้าว

31 พฤษภาคม 2556

“รับประทานนานมั้ยคะ...” พนักงานร้านอาหารอินเดียถาม

“รับประทานนานมั้ยคะ...” พนักงานร้านอาหารอินเดียถาม

ลูกค้าสาวคนสวยสงสัย “เอ๊ะ...ทำไม่ต้องถาม” แต่ก็ตอบกลับไปว่า “ไม่นานหรอกค่ะ ส่วนมากไม่เกินครึ่งชั่วโมง ...”!!!

คุณจะไม่พบกับเรื่องชวนขำและหน้าแตกอย่างนี้ หากรู้ว่า นาน ที่ร้านอาหารอินเดียคือ อาหารชนิดหนึ่ง!!!

เมื่อก้าวย่างเข้าไปสู่ร้านอาหารอินเดีย ทุกคนจะสัมผัสได้กับเอกลักษณ์อันโดดเด่นของอาหารท้องถิ่นนี้ที่มีกลิ่นรสและสีสันของเครื่องเทศเพื่อเพิ่มรสชาติ ทำให้เจริญอาหาร ช่วยย่อย ทั้งยังทำให้ร่างกายอบอุ่นในฤดูหนาว อาหารอินเดียอันเข้มข้นด้วยเครื่องเทศแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ อาหารมังสวิรัติและอาหารที่ปรุงจากเนื้อสัตว์ โดยทั้งสองประเภทต่างมีจุดร่วมคือ รับประทานกับแป้งหรือข้าวเหมือนกัน

คนอินเดียรับประทานแป้งและข้าวเป็นหลัก ทุกมื้อจะต้องมีอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่างในสำรับ อาหารจำพวกแป้งหรือจะเรียกว่าขนมปังของชาวอินเดียก็พอได้ จำแนกเป็นหลายชนิดคือ นาน จาปาตี โรตี ฯลฯ

ขนมปังอินเดียนี้มีประวัติอันยาวนาน สามารถสืบค้นไปได้ถึงต้นตอที่เปอร์เซีย ก่อนจะแพร่กระจายไปทั่วเอเชียใต้อย่าง อินเดีย ปากีสถาน บังกลาเทศ ฯลฯ ขนมปังที่ขาดไม่ได้สำหรับชาวอินเดียคือ นาน

นาน (Naan) เป็นแป้งสีขาว มีเกลือ ยีสต์ โยเกิร์ต หรือนมเป็นส่วนผสม สุกโดยอบในเตาดินหรือโอ่งที่เรียกว่า เตาทันดูร์ บางร้านอาหารอินเดียมีเตาประเภทนี้ไว้โชว์ทำอาหาร หากเป็นเตาที่ใช้ถ่าน เมื่อแป้งสุกก็จะมีกลิ่นถ่านหอมน่ารับประทานมาก เตาประเภทนี้เป็นเครื่องมือในการปรุงอาหารประเภทแรกๆ ของโลก ซึ่งมีใช้กันตั้งแต่ยุคหินใหม่โน่นเลยทีเดียว

นานเป็นแป้งที่ขึ้นฟู ซึ่งต่างกับโรตี เพราะนานทำจากแป้งที่ใส่ยีสต์ จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Balloon Bread แต่ว่าโรตีไม่ใส่ยีสต์หรือผงฟู จากแป้งเปล่าๆ ต่อมานานก็พัฒนาสูตรโดยเพิ่มส่วนผสมต่างๆ เข้าไปอย่างเช่น กระเทียม บ้างก็มีไส้ เช่น คีมานาน ใส่เนื้อแกะหรือแพะลงไปด้วย เป็นต้น แป้งอีกชนิดหนึ่งซึ่งมีลักษณะเหมือนกัน นาน เพียงแต่นำไปทอดจะเรียกว่า ปุรี

สำหรับโรตี (Roti) คำว่า โรตี นี้ใช้ในหลายประเทศแปลว่า ขนมปัง เป็นแป้งที่คนไทยเราคุ้นเคยกันดี ทำจากแป้งผสมไข่ โรตีจะไม่ใส่ยีสต์หรือผงฟู จึงเป็นแผ่นแบนๆ กลมๆ เล็กๆ ทอดด้วยน้ำมันหรือเนย

จาปาตี (Japati หรือ Chapatti) เป็นแป้งสีน้ำตาล เป็นแป้งที่ไม่ใส่ยีสต์ จี่บนกระทะแบนๆ โดยไม่ใช้น้ำมัน ดูภายนอกคล้ายกับแป้งตอร์ติญาของเม็กซิกัน ระหว่างโรตีกับจาปาตีนั้นมีส่วนที่คล้ายกันค่อนข้างมาก ในบางพื้นที่ของอินเดียก็เรียกแทนกันได้ ทั้งสองชนิดนี้จะทอดหรือจี่บนกระทะแบนหรือโค้งเล็กน้อย

ขนมปังของอินเดียยังมี พาราธา (Paratha) แผ่นแบนๆ รูปร่างกลมหรือสามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม ทำจากแป้งโฮลวีตทอดบนกระทะ ตัวแป้งมักผสมเนยใส (กี) หรือน้ำมัน นิยมรับประทานทางภาคเหนือ เช่น ในแคว้นปัญจาบ เป็นต้น

มื้อง่ายๆ ของคนอินเดียจะประกอบด้วยขนมปังหรือแป้งชนิดต่างๆ เหล่านี้กับแกง ไม่ว่าจะเป็นแกงแบบมังสวิรัติอย่างเช่น แกงถั่ว หรือจะเป็นแกงแพะและอื่นๆ บางครั้งรับประทานกับโดยทาบัตเตอร์ หรือเนยใส (Ghee) ของอินเดีย หรือโยเกิร์ตก็ได้ แป้งเหล่านี้จะเสิร์ฟตอนร้อนๆ คนอินเดียจะรับประทานโดยใช้มือ (ตามมรรยาทอันดี ชาวอินเดียใช้มือข้างขวาในการรับประทานอาหารเท่านั้น)

นอกจากขนมปังประเภทต่างๆ แล้วคนอินเดียรับประทานข้าวเหมือนคนไทยและอีกหลายประเทศ เพียงแต่ว่าข้าวของคนอินเดียนั้นแตกต่างออกไป เป็นพันธุ์ข้าว Basmati Rice ข้าวบัสมาติเม็ดใหญ่ ยาว ไม่มียาง หุงออกมาเป็นข้าวร่วนๆ เม็ดเรียวสวยงาม วิธีการนั้นเหมือนกับการหุงข้าวหมก แล้วใส่หญ้าฝรั่น อบเชย ผงขมิ้น ฯลฯ ลงไปด้วย ทำให้ข้าวมีรสชาติในตัว แต่คนอินเดียก็มักไม่รับประทานเปล่าๆ ต้องแนมกับแกง เวลาคลุกกับแกงข้าวบัสมาติก็จะไม่เละ ยังเป็นเม็ดสวยงามต่างกับข้าวของบ้านเรา

ข้าวและขนมปังแบบอินเดียหารับประทานในบ้านเราไม่ยาก โดยเฉพาะโรตี เพียงแต่ว่าบางเจ้าก็นำโรตีมาดัดแปลงเป็นสูตรแบบที่คนไทยชอบจนคนอินเดียนึกไม่ออกทีเดียวว่า นี่แหละโรตี ส่วนขนมปังรวมทั้งข้าวอินเดียนั้นมีให้รับประทานในร้านอาหารอินเดีย ซึ่งเปิดให้บริการอยู่มากมายในกรุงเทพฯ

หากอยากสัมผัสอรรถรสแห่งความอร่อยของอาหารอินเดียแบบต้นตำรับ ตั้งแต่วันนี้ถึงเดือน ส.ค.นี้ ห้องอาหารฟลาว่า โรงแรมดรีม กรุงเทพฯ สุขุมวิท ซอย 15 อาหารอินเดียต้นตำรับจากฝีมือเชฟอินเดียมาให้รับประทาน ไม่ว่าจะแกงเนื้อแกะโรกันโจช บัตเตอร์ชิกเก้น (ไก่หมักด้วยเครื่องเทศ) เมนูมังสวิรัติก็มีอย่างแกงเนยคาดาฮี พาเนียร์ หรือแกงถั่วดัล มัคคานี ทุกจานเสิร์ฟพร้อมกับสลัดแตงกวากับโยเกิร์ต และขนมปังโฮมเมดอย่าง พาราธาและปุรี หรือจะสั่งข้าวบัสมาติและนานเพิ่มก็ได้ เปิดบริการความอร่อยทุกวันตั้งแต่เวลา 11.30-22.30 น. สอบถามโทร. 02-254-8500

อีกหนึ่งร้านอาหารซึ่งเป็นที่นิยมของชาวอินเดียในกรุงเทพฯ คือ ซารัส ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 20 ตอนนี้จัดให้มีโปรโมชั่นต้อนรับซัมเมอร์ “กุชทันดา กุชการัม” เสนอเมนูที่ชาวอินเดียนิยมรับประทานในช่วงฤดูร้อนอย่าง จาเลบีฟันเนลเค้กอินเดียนุ่มๆ สติ๊กกุลฟีไอศครีมรสนมผสมกระวาน กาไรดูดห์นมเคี่ยวกับน้ำตาลผสมหญ้าฝรั่นผลไม้แห้งและถั่ว ฯลฯ ใครที่ไม่เคยลิ้มลองของหวานสไตล์อินเดียก็พลาดไม่ได้ ทุกวันศุกร์อาทิตย์ เวลา 18.00 น.เป็นต้นไป ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 3 ก.ค.นี้ รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อโทร. 02-401-8484

ตลอดเดือน มิ.ย.นี้ เชฟราม หัวหน้าพ่อครัวประจำห้องอาหารโอเอซิสแห่งโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์มิราจบีชรีสอร์ท พัทยา ขอเชิญมาชิมโปรโมชั่นอาหารอินเดียทั้งคาวหวาน จัดเป็นอาหารชุดที่ประกอบด้วย ไก่หมักโยเกิร์ต ซุปขาแกะ มันฝรั่งในน้ำแกรวี่ ข้าวบัสมาติ พร้อมเครื่องเคียง และของหวานลูกชีสกระท่อมแช่ในน้ำเชื่อม หรือจะเลือกรับประทานทันดูรีกุ้ง ไก่ไม่มีกระดูก ขาแกะปรุงกับน้ำแกรวี่ และข้าวบัสมาติพร้อมเครื่องเคียง และเกี๊ยวหวานทอดราดน้ำเชื่อม ร้านนี้เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00-23.00 น. สอบถามรายละเอียด 038-301-234 ต่อ 4260-61

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของโปรโมชั่นถาลี (Thali) อาหารถาดสไตล์อินเดียแบบดั้งเดิม ที่ห้องอาหารธันดูร์ โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ สีลม ฝีมือการปรุงของเชฟชาวอินเดียมีให้เลือกทั้งแบบมีเนื้อสัตว์และแบบมังสวิรัติ ไม่ว่าจะเป็น โรกันโจช (แกงเนื้อแพะตำรับแคว้นแคชเมียร์ ในแกงน้ำข้น หอมเครื่องเทศ และไม่มีกลิ่นสาบเนื้อแพะ) ชิกเก้น ทิคกา มาซาลา (ไก่ผัดในน้ำแกงมะเขือเทศเข้มข้น) และของหวานอย่างกุหลาบจามุน (ครีมชีสแช่ในน้ำเชื่อมรสหวาน) ที่นี่ยังจัดโปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์ซันเดย์บรันช์อาหารอินเดีย ทุกวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 11.30-15.00 น. สนใจสอบถามโทร. 02-238-4300

อีกหนึ่งอาหารยอดนิยมที่คนรักอาหารอินเดียน่าจะได้ไปเยือนคือ รางมาฮาล ในโรงแรมแรมแบรนดท์ ซอยสุขุมวิท 18 ช่วงนี้แนะนำเมนูอาหารค่ำในรูปแบบอาหารอินเดียตอนเหนือ สนใจสอบถาม 02-261-7100 ต่อ 7532

ด้วยเอกลักษณ์อันโดดเด่นของอาหารอินเดีย ลองแล้วจะติดใจ