posttoday

อร่อยเหนือชั้น เชฟแบทเทิล

01 มีนาคม 2556

จับ 2 เชฟแถวหน้ามาปะทะกัน มันส์ยิ่งกว่านั่งดูวัวชนกันซะอีก

โดย...โจ เกียรติอาจิณ &<2288;

จับ 2 เชฟแถวหน้ามาปะทะกัน มันส์ยิ่งกว่านั่งดูวัวชนกันซะอีก

หนึ่งตัวแทนจากฝรั่งเศส “ฌอง แบ๊บติสท์ นาตาลี” มิชลินสตาร์เชฟ เจ้าของร้านอาหารขวัญใจไฮโซ “นาตาลี” ในเมืองเล็กๆ Colombey les Deux Eglises

อีกหนึ่ง ไม่ใช่ใครที่ไหน เชฟกระทะเหล็กหญิงคนแรกของไทย “ปูริดา ธีระพงษ์” แห่งห้องอาหารไทยร่วมสมัย “สุธารส” โฮเต็ลมิวส์ แบงคอก หลังสวน

ทั้งคู่โคจรมาเจอกันในวาระพิเศษที่จัดขึ้นในบรรยากาศแบทเทิลแบบไม่มีใครยอมใคร ใครดีใครเริ่ด ใครเจ๋งก็คือคนที่จะคว้าใจนักชิมได้อยู่หมัด

โจทย์การแบทเทิลแทบไม่ต่างจากโชว์ในรายการเชฟกระทะเหล็ก เพราะ 2 เชฟต้องใช้วัตถุดิบ 4 อย่างเหมือนกัน หอยเชลล์ กุ้งแม่น้ำ ปลาหิมะ สุดท้ายก็เป็นขนมหวานที่ทำจากมะม่วง

วัตถุดิบ 4 อย่าง ถูกนำมาสร้างสรรค์ในแนวทางอาหารที่เชฟถนัด เชฟปูริดาเลือกนำเสนออาหารไทย ส่วนเชฟฌองก็ขออวดอาหารฝรั่งเศส

พลันที่เสียงระฆังดังลั่น นั่นจึงเป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่า การแบทเทิลของเชฟทั้งสองกำลังเริ่มขึ้นแล้ว

จานแรกเชฟปูริดาเสิร์ฟหอยเชลล์คาร์ปักซิโอสไตล์ไทยในถ้วยค็อกเทล พร้อมน้ำจิ้มรสแซบปานกลาง กินแกล้มร็อกเก็ตสดกรอบ ส่วนเชฟฌองก็ไม่น้อยหน้า จัดเต็มด้วยหอยเชลล์ย่าง ได้ความหวานของหอยผสานกับความนุ่มของซอส แถมยังมีโดนัตมันฝรั่งเคี้ยวละมุนลิ้น

จานต่อมาเป็นเมนูซุปที่ใช้วัตถุดิบหลักคือกุ้งแม่น้ำ ความสดความหวานที่ได้จากกุ้งตัวไม่ใหญ่มาก นำมาซึ่งรสชาติซุปที่กลมกล่อม เชฟฌองทำเก๋ ซุปกุ้งคาปูชิโน ประหนึ่งกำลังดื่มด่ำกาแฟและพรายฟองที่ลอยอยู่ด้านบน ฟากเชฟปูริดาขอสู้สักตั้ง ด้วยซุปกุ้งรสชาติออกต้มยำน้ำข้น กลิ่นเครื่องเทศไทยหอมฟุ้งยั่วน้ำลาย ได้ใจคนไทยตรงที่มีความเผ็ดนิดๆ ซดได้เพลินๆ ไม่เลี่ยนเกินไป

การแบทเทิลยังคงดำเนินต่อ เราแอบลอบมองสีหน้าเชฟ ทั้งคู่ก็ยังดูยิ้มแย้มกันดี ไม่ถึงขั้นแยกเขี้ยว หรือคิดจะปามีดใส่กัน เพื่อให้อีกฝ่ายตายคาตัก (โหดไปมั้ย 555) จานที่ 3 พระเอกคือปลาหิมะ ปกติปลาหิมะก็มีเนื้อหวานนุ่มชุ่มฉ่ำลิ้นอยู่แล้ว แต่จานนี้ 2 เชฟทำสุดไอเดียบรรเจิด เชฟกระทะเหล็กหญิงนำความเป็นไทยกลิ่นอายจีนมาดัดแปลงให้กลายร่างเป็นปลาหิมะห่อผักกาดขาวนึ่งพริกไทยกับขิง เสิร์ฟกับข้าวอัญชันสีสวยน่าหม่ำ มิชิลินสตาร์เชฟ ใช้ปลาหิมะทำเป็นฟิเลต์ชิ้นหนาพอประมาณ เพิ่มลูกเล่นตรงที่เสิร์ฟคู่ราวิโอลีและซอสรสนุ่ม อร่อยจนลืมเกลียดปลาไปเลยละ

จานส่งท้าย ใช้มะม่วงน้ำดอกไม้เป็นจุดขาย เอาใจคนเลิฟมะม่วงโดยเฉพาะ คนไม่ชอบมะม่วงอาจจะรู้สึกเฉยๆ แต่ไม่ใช่เราแน่นอน เพราะมะม่วงคือลมหายใจของเรา (เวอร์ไปนู่น?!!) อะอย่ามัวรีรอ ไปชิมขนมหวานจานเด็ดดวงของ 2 เชฟดีกว่า มะม่วงของเชฟฌองนั้นเป็นซอร์เบต์สีเหลืองอ๋อย เคียงด้วยชอร์ตเบรดและมะม่วงสด เต็มอิ่มกับมะม่วงจริงๆ ถูกใจแมงโกมาเนีย ขณะที่เชฟปูริดา ใช้มะม่วงมารวมกันทำเป็นพูรีเนื้อนุ่ม รสสัมผัสมะม่วงให้ความสดชื่นไม่เบา แถมด้วยสาคูน้ำกะทิดอกอัญชัน หอมหวานมัน อร่อยเกินที่จะวางช้อนได้

หลังเสิร์ฟครบทุกจาน 2 เชฟก็มีเวลาเล็กน้อยเปิดใจความรู้สึก เชฟปูริดาบอกงานนี้ท้าทายดี ยิ่งได้เจอคนเก่งๆ ก็ยิ่งได้พัฒนาฝีมือ ส่วนเชฟฌองมองว่าการแบทเทิลมันคือการแข่งกับตัวเอง หาใช่แข่งอย่างเอาเป็นเอาตายกับอีกฝ่าย ที่สำคัญยังทำให้ตัวเชฟไม่หยุดนิ่งที่จะสร้างสรรค์เมนูอร่อย

สำหรับผลการแบทเทิล หวยออกที่เชฟปูริดา สามารถชนะเชฟฌองไปแบบฉิวเฉียด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะทำเมนูโดนใจนักชิมคนไทย ทว่าบางเมนูของเชฟฌองก็กินขาด ได้คะแนนไปเต็มๆ ถึงอย่างนั้นนี่ก็ไม่ใช่สิ่งชี้วัดว่าใครเหนือใคร ด้วยทั้งสองเชฟต่างก็มีดี แนวถนัดและเอกลักษณ์คนละทาง