posttoday

เตรียมฉลองรักก่อนใคร สไตล์ไทย/ญี่ปุ่น

25 มกราคม 2556

วันวาเลนไทน์หมุนเวียนมาทุกปี จะตื่นเต้นทำไมรึ? คนไม่มีคู่คงจะเกิดอารมณ์เซ็ง (อีกและ) ส่วนพวกที่เป็นคู่กันมานานแล้ว มันก็งั้นๆ แหละ

โดย...ปณิฏา สุวรรณปาล / ภาพ ทวีชัย ธวัชปกรณ์ (ร้านซูม่า) ภาพ วิศิษฐ์ แถมเงิน (บลูเอเลเฟ่นต์)

วันวาเลนไทน์หมุนเวียนมาทุกปี จะตื่นเต้นทำไมรึ? คนไม่มีคู่คงจะเกิดอารมณ์เซ็ง (อีกและ) ส่วนพวกที่เป็นคู่กันมานานแล้ว มันก็งั้นๆ แหละ จะฉลองมั้ย ก็แล้วแต่ “เธอ” ละกัน (อิอิ) แต่ครั้นหันมาเป็นคู่แรกปิ๊ง คู่แรกแต่ง อารมณ์มันช่างแตกต่างกันจริงจริ๊ง...

อ่ะ... งั้นมาเอาใจกันหน่อยก็ได้...

ก่อนอื่นมาเล่าตำนานวาเลนไทน์สักนิด เผื่อใครลืม วันวาเลนไทน์มีรากมาจากศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก จากเซนต์วาเลนไทน์ ผู้เสียชีวิตลงในวันที่ 14 ก.พ. ค.ศ. 269 เนื่องเพราะการแน่วแน่ในความรักที่มีให้ต่อพระเจ้าและศาสนาคริสต์อย่างไม่ยอมก้มหัวให้นิกายนอกรีต ตำนานเล่าว่า เซนต์วาเลนไทน์เป็นพระในนิกายคาทอลิก สมัยจักรพรรดิเคลาดิอุส ท่านถูกจับขังคุก เนื่องเพราะต่อต้านพระองค์ โดยท่านได้ส่งจดหมายลาตายถึงบุตรสาวของผู้คุมขัง ซึ่งเป็นเพื่อนของเขาเอง โดยลงท้ายว่า “From Your Valentine”

การฉลองวันวาเลนไทน์ในฐานะที่เป็น “วันแห่งความรัก” เริ่มมาตั้งแต่ ค.ศ. 496 โดยพระสันตะปาปาเกลาซีอุสเป็นผู้ที่ประกาศให้วันที่ 14 ก.พ. เป็นวันแห่งเซนต์วาเลนไทน์ ซึ่งเป็นเซนต์แห่งความรัก ผู้คนเริ่มส่งจดหมาย บัตรอวยพร และดอกไม้ให้แก่คนรักในวันนี้ของทุกปี

ในบางสังคมยังมีการจัดปาร์ตี้ งานเต้นรำเพื่อฉลองวันวาเลนไทน์ ก่อนที่จะมีการพัฒนา “วันวาเลนไทน์” มาตามระยะของกาลเวลา บ้างให้ดอกไม้ ให้ช็อกโกแลต และส่วนมากนิยมไปจ้องตากันกลางแสงเทียนของโต๊ะดินเนอร์...

ใครรสนิยมแบบนี้ เรามีมาฝาก 2 แบบ 2 สไตล์ ไทย (หรือ) ญี่ปุ่น

วาเลนไทน์สุดฮิปที่ซูม่า

ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์อิซากายะที่สุดฮิป กิ๊บเก๋ที่สุดในขณะนี้ จัดเมนูวาเลนไทน์ไฉไลไม่ใช่เล่น (ท่านละ 3,800 บาท++ โทร. 02-25-2470-7)

เริ่มเสิร์ฟจานแรกแบบสดชื่นๆ ด้วย Kumamoto Kaki To Umeshu หอยนางรมพันธุ์คุมาโมโตจากญี่ปุ่น เสิร์ฟพร้อมเยลลีรสบ๊วย เปรี้ยวๆ หวานๆ ตามด้วย Suzuki No O Sashimi ปลากะพงขาวแล่บางๆ คุลกเคล้ามาในซอสยูซุและน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิล กินม้วนกับไข่ปลาแซลมอน อร่อยกำลังเหมาะ

คอร์สสตาร์ตเตอร์ยังมี Mizuna Salada No Onsen Tomago Zoe สลัดมิสุนะเสิร์ฟพร้อมไข่ลวกออนเซนและเกล็ดปลาแห้ง ที่เชฟแพตทริก มาร์เทนส์ จะมาพร้อมเครื่องขูดปลาแห้ง ขูดสดๆ คลุกใหม่ๆ ให้รับประทานทันทีที่โต๊ะ

มาถึงคอร์สที่ 2 เป็นเรื่องของปลาดิบ มี Kinmedai, Shima Aji and Ika Sashimi ปลาดิบโกลเดนอาย ชิมาอาจิ และปลาหมึก ตามด้วยซูชิ มี Zuma Nigiri Sushi ข้าวปั้นหน้าแซลมอนลนไฟพร้อมไข่ปลาและหนังปลาย่างกรอบ Salmon Avocado Maki ข้าวห่อปลาแซลมอนและอโวคาโด พร้อมเกล็ดเทมปุระ แล้วก็ Spicy Tuna Roll ข้าวห่อสาหร่ายไส้สไปซีทูนา

คอร์สที่ 3 พบกับ Yaki Hotate No Ringo To Wasabi หอยเชลล์ฮอกไกโดย่าง เสิร์ฟพร้อมซีอิ๊วหวานและซอสแอปเปิลวาซาบิ รสชาติเหมือนจะละลายในปาก กับ Taraba Gani No Tempura เทมปุระปูอะแลสกาเสิร์ฟกับดาชิซอส

และแล้วก็มาถึงเมนคอร์ส เชฟเตรียม Kamichiku Wagyu No Sumibiyaki เนื้อวางุย่าง เสิร์ฟพร้อมวาซาบิสดและเกลืออาร์ทิซานหลากรสจากญี่ปุ่นและฮาวาย มาพร้อม Shiro Miso No Hamaguri หอยวีนัสในซุปมิโซขาว

ที่รักกันยังหวานไม่พอ ต้องปิดท้ายด้วยของหวานเด็ดๆ อย่าง Valentine’s Day Dessert ประกอบด้วย ราสพ์เบอร์รีช็อกโกแลตมูส เสิร์ฟพร้อมข้าวพองอบกรอบและไอศกรีมนมสด กับสตรอเบอร์รีครีมทาร์ต เสิร์ฟมากับไอศกรีมโยเกิร์ต จะแบ่งกันกินหรือแยกกันของใครของมันไม่มีใครว่า...

แปลงกายเป็นขวัญเรียม @ บลู เอเลเฟ่นต์

13/14/15 ก.พ. เป็นวันวาเลนไทน์ของบลู เอเลเฟ่นต์ เซตเมนูต่อไปนี้จะเสิร์ฟให้ไปหวานชื่นกันสองต่อสองได้ 3 วัน 3 คืนไปเลย (4,400 บาท++ สำหรับ 2 ท่าน โทร. 02-673-9353-8 พร้อมร่วมสนุกชิงโชคมากมาย สำหรับคนที่ไปรับประทานตรงกับวันวาเลนไทน์)

แปลงกายเป็นขวัญเรียม (ไม่ต้องถึงกับใส่คอสเพลย์ไปหรอกนะ) ด้วยเมนู 6 คอร์ส รสชาติจัดจ้าน เป็นรักร้อนแรงแบบไทยไทย เริ่มที่คอร์สแรก เชฟนูรอ โซ๊ะมณี สเต็ปเป้ จัดมาในจานดินเผา 3 อย่าง Desire & Emotion ไก่ดำตุ๋นโสมตังกุยและเก๋ากี้ ให้บำรุงเต็มที่ มาพร้อมกับ Heart Beating เหล้าขาวจากจั่นมะพร้าวกับเครื่องเคียง เพิ่มกำลังคึกคัก แล้วก็ Whisper From My Heart หอยนางรมซ่อนกลิ่นใบกระถิน รสชาติจัดจ้านติดลิ้น

ตามด้วยคอร์ส 2 สตาร์ตเตอร์ กับพาเหรดอาหารหน้าตาเก๋ๆ My Feeling Inside ช่อชมพูไก่ดำ หนึ่งคำแห่งความอร่อย Red Romance ไข่ตุ๋นตับห่านซอสสตรอเบอร์รี รสชาติเปรี้ยวหวานมันเค็มครบ Fulfill My Love วุ้นรูปหัวใจรสกุ้งต้มยำกับมูสน้ำพริกเผา นุ่มอร่อย ละลายในปาก Exotic Love ยำไก่ย่างแจ่วดอกไม้และปลาร้า ที่เชฟนูรอนำไก่ไปหมักน้ำกะทิ ก่อนไปต้มกับน้ำซุปดอกไม้ แล้วค่อยมาย่าง ส่วนปลาร้าอย่างดีทำจากปลาชะโดของสุพรรณบุรี รสชาติ “เจ้มจ้น” ปิดท้ายคอร์สนี้ด้วย My Heart Is Yours หมกหอยแมลงภู่กระชายดำ

คอร์สที่ 3 เสิร์ฟซุป 2 แบบ Torn Between Two Lovers ซุปรังนกแปะก้วยและเนื้อปูในเผือกกับต้มจิ๋วเนื้อ เลือกไม่ถูกจะรับประทานอันไหนก่อน เชฟนูรอบอกให้เริ่มที่ถ้วยแรก เพื่อที่จะให้ต้มจิ๋วที่อุดมไปด้วยสมุนไพรรสชาติจัดจ้านมาตัดเลี่ยนภายหลัง

มาถึงเมนคอร์สกันแล้ว บลู เอเลเฟ่นต์ เสิร์ฟกับข้าวมาแบบสำรับไทย Energizing Love มีทั้งแกงตุ๋นแพะสมุนไพร แพะเนื้อนุ่มในน้ำแกงรสเข้มข้น ปลาหิมะย่างโสมเกาหลีห่อใบขิง เคียงน้ำปลาหวานและสะเดา เด็ดมากๆ ชอบเป็นส่วนตัว แล้วก็ กุ้งเมารัก ใช้กุ้งตัวยักษ์ผัดแบบผัดขี้เมา เติมด้วยเหล้าสาโทเข้าไปอีก

แถมมากับเมนคอร์ส ได้แก่ Come and Love Me Again ข้าวอบเซเลอรีกับเห็ดหลินจือ แล้วก็ผัดผักปวยเหล็งจากโครงการหลวงไว้แก้เผ็ดร้อน (แต่รักร้อนๆ แก้ไม่ได้นะ อิอิ)

มาถึงของหวานเสียที พาเหรดมาใน Sweetest Love มีทั้ง ช็อกโกแลตมูสและนมผึ้ง รสนวลเนียน ข้าวเหนียวหีบ เมนูพิเศษประจำงานแต่งงานแบบไทยแท้ๆ วุ้นกะทิมะพร้าวอ่อนกลิ่นกุหลาบและบัวลอยงาดำกับไข่นกกระทา เสิร์ฟมาในกะลามะพร้าวอ่อน

รับประทานท่ามกลางบทเพลงรักหวานซึ้งแบบไทยๆ สมัยขวัญเรียม ฮิ้วววววว...