เล่าเรื่องโจ๊ก (ฮ่องกง)

โดย...รอยนวล

ว่ากันว่าไม่มีชนชาติใดคลั่งไคล้และเชี่ยวชาญเรื่องโจ๊กมากเท่ากับชาวกวางตุ้งและชาวฮ่องกงอีกแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าร้านไหนขึ้นป้ายแล้วมีคำว่า “ฮ่องกง” ล่ะก็ ชาวโจ๊กเลิฟเวอร์จะต้องหาโอกาสไปลองดูสักครั้ง หลังจากลองโจ๊กฮ่องกงที่กรุงเทพมาตลอดๆ วันนี้ก็ขอพาไปชิมกันที่แหล่งกำเนิดซะเลย

โจ๊ก ก็คือข้าวต้มชนิดหนึ่งซึ่งนำปลายข้าวมาต้มจนนุ่มเนียนละเอียด ภาษาอังกฤษใช้คำว่า congee หรือ rice porridge ส่วนบ้านเราเรียกว่า โจ๊ก ซึ่งน่าจะมาจากภาษาจีนกวางตุ้งคำว่า จุ๊ก โจ๊กมีให้รับประทานในหลายประเทศย่านเอเชีย บางที่รับประทานเป็นอาหารเช้า บ้างเป็นอาหารค่ำ บ้างก็มีให้รับประทานได้ทั้งวันทั้งคืน

เมื่อมีโอกาสไปเยือนฮ่องกงอีกครั้งก็ไม่อยากจะย่ำซ้ำรอยเดิมที่ร้าน Tong Kee, Sang Kee หรือ Fuk Kee ซึ่งลองมาแล้ว ทริปที่ รอยนวล ได้เดินทางไปกับทีมของ เกรย์ฮาวน์ด คาเฟ่ และ พับบลิค ฮิต ก็ได้ไปลองชิมโจ๊กฮ่องกงที่ร้าน Wo Mei Congee หรือ Nice / Delicious Congee ร้านโจ๊กสไตล์กวางตุ้ง ซึ่งตั้งอยู่ที่เลขที่ 75 วูซังสตรีท, จอร์แดน, ฮ่องกง โทร: +852-2783-0935

ร้านเก่าแก่เปิดขายมาหลายสิบปีแล้ว เป็นร้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางตึกรามเก่าๆ นั่งรับประทานง่ายๆ ภายในปูพื้นและผนังด้วยกระเบื้อง ส่วนเมนูก็แปะที่ผนัง มีภาพประกอบด้วย ใครอ่านภาษาจีนไม่ออกก็อาศัยชี้ที่รูปนี่ได้เลย ใกล้ๆ กันเป็นภาพของเซเลบฮ่องกงมาชิมร้านนี้กันมากหลาย เห็นแล้ว รอยนวล ก็ยากจะคาดเดาว่าเป็นใครกันบ้าง เพราะว่าไม่รู้จัก 555

 

โต๊ะเก้าอี้ร้านนี้ก็เรียบๆ ง่ายๆ สะอาดสะอ้าน เห็นเป็นห้องแถวเล็กๆ อย่างนี้ก็ดูท่าจะจุลูกค้าได้หลายสิบอยู่ จานยอดนิยมของร้านนี้คือ โจ๊กหัวปลา หางปลา หรือเนื้อปลาคาร์ปจีน โจ๊กปลาหรือโจ๊กอาหารทะเลนี่เป็นอาหารซึ่งหารับประทานไม่ง่ายนักที่บ้านเรา รอยนวล ก็เลยจัดการสั่งโจ๊กใส่ปลากับเครื่องในหมูมา 1 ชาม ตอนแรกก็กลัวว่าจะคาวหรือเปล่า แต่เมื่อได้ชิมก็ต้องชมว่าเขาทำดีจริงๆ ไม่มีกลิ่นคาวเลยสักนิด ปลากับเครื่องในเขาก็เต็มใจให้ชิ้นใหญ่ๆ โตๆ เต็มปากเต็มคำมากๆ เนื้อโจ๊กทำจากปลายข้าวที่เคี่ยวมาอย่างดี เนียนละเอียด ซึ่งใช้เวลานานนับหลายชั่วโมงกว่าจะเสร็จ บวกกับเครื่องปรุงสดใหม่ (ในชามโจ๊กจะมีผักกาดใส่มาด้วย) เคียงด้วยปาท่องโก๋ตัวโต๊โต หรือจะเป็นหนังปลาทอดกรอบก็ให้รสชาติที่แปลกต่างดี รอยนวล ที่เป็นคนแพ้ผงชูรสรู้ได้ว่า อาแปะ (พ่อครัวคนเดียวของร้านที่ทำคนเดียวทู๊กกกอย่าง ยกเว้นเสิร์ฟ) ไม่ใส่ MSG หรือถ้าจะใส่ก็น้อยมากกก 555 เพราะไม่รู้สึกเลย

ถึงจะมีชื่อว่าร้านโจ๊กอร่อย แต่ที่นี่ยังมีเมนูอื่นๆ อย่างเช่น ติ่มซำ ก๋วยเตี๋ยว และผัดผักให้เลือกสั่ง หมี่ผัดของเขาอร่อยจริง ผัดแห้งๆ ไม่ต้องใส่อะไรนอกจากโรยงา แต่อร่อยเวอร์ ... ต้องสั่ง ส่วนเครื่องดื่มก็มีนมถั่วเหลือง ไม่หวานมันและเข้มข้นนักแต่ก็กลมกล่อมทีเดียว นับว่า... ไม่เสียแรงที่ตื่นมารับประทานแต่เช้า (มากๆ)

 

ค่าเสียหายที่ร้านนี้ก็นับว่าสมเหตุสมผล โจ๊กชามธรรมดาราคาประมาณ 4050 เหรียญฮ่องกง คิดเป็นเงินไทยก็อาจจะตกใจ เพราะเป็นเงิน 150-200 บาท ขณะที่โจ๊กบ้านเราขายประมาณ 40 บาท แต่ราคานี้ที่ฮ่องกงถือว่าไม่แพงเพราะว่าค่าเงินบ้านเรากับบ้านเขาต่างกัน ร้านนี้เขาเปิดกันแต่เช้าตรู่ประมาณ 6 โมงเช้าเรื่อยไปถึงดึกดื่นคือตี 2

หากไปไกลถึงฮ่องกงไม่ได้ ที่กรุงเทพฯ มีหลายเจ้าที่พะยี่ห้อว่าเป็นโจ๊กฮ่องกง ในอารมณ์ไฮโซอยากให้แวะไปชิมโจ๊กแลนด์มาร์ก เป็นโจ๊กสไตล์ฮ่องกงอยู่ที่โรงแรม แลนด์มาร์ก ถนนสุขุมวิท โจ๊กของเขามีเครื่องหลากหลายให้เลือกไม่ว่า หมู เนื้อ ไข่เยี่ยวม้า ฯลฯ อาหารโรงแรมชามละ 100 กว่าบาท (ถ้าชามพิเศษก็อาจจะถึง 300–400 บาท) ถือว่าไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับความอร่อยขนาดนี้

ถ้าหากโจ๊กฮ่องกงรับประทานไม่ได้ก็แบบธรรมดาจีนๆ ไทยๆ เนี่ยแหละร้านโปรดของผู้เขียน (เพราะใกล้บ้าน) คือ ...โจ๊กบรรทัดทอง (จรัสเมืองเจ้าเก่า) บนถนนบรรทัดทอง ใกล้สี่แยกสะพานอ่อน เขามีทั้งโจ๊กหมู เครื่องในหมู เป๋าฮื้อเส้น ไข่เยี่ยวม้า ฯลฯ ข้าวละเอียดเนียม หมูสับอร่อยนุ่มๆ หนึบๆ เวลากลับบ้านดึกๆ (มากๆ) ก็จะแวะสักหน่อย ส่วนโจ๊กสามย่านนั้นไม่ได้แวะไปนานแล้วไม่รู้ยังอร่อยอยู่ไหม หรือถ้าไปไหนไม่ไกลมากก็โจ๊ะที่ตลาดคลองเตยใกล้ออฟฟิศโพสต์นี่ล่ะ ขาย 24 ชั่วโมง (คู่แข่งกับโจ๊กในเซเว่นฯ 555) เสร็จงานตอนไหนก็ไปกินได้เลย

โจ๊กนับเป็นอาหารง่ายๆ ไม่เรื่องมากแต่อุ่นและอิ่มท้อง ใครไปฮ่องกงก็อย่าลืมไปลองที่ Wo Mei ดู นอกจากจะได้รับประทานของอร่อยแล้วยังจะได้ประสบการณ์พื้นถิ่นด้วย