รสชาติไทยในเค้ก อร่อยอัศจรรย์

โดย...เพ็ญแข สร้อยทอง

เพราะเห็นว่าสำคัญ ... หนึ่งวันในหนึ่งปีจึงมีผู้คนยกให้เป็นวันของ “เค้ก”

กลายมาเป็น International Cake Day เพื่อเฉลิมฉลองให้กับของหวานที่รู้จักและชอบกินกันทั่วโลกทุกวันที่ 20 ก.ค.ของปี โดยปีนี้กลุ่มผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ได้ร่วมเฉลิมฉลองวันเค้กนานาชาติด้วยการจัดเทศกาล “อินเตอร์เนชั่นแนล เค้ก เดย์ 2012 แอท ราชประสงค์” เพื่อให้ทุกคนได้ส่งต่อมิตรภาพและความรัก “I Cake You” ให้แก่กันและกัน

งานนี้ 4 โรงแรมใจกลางกรุงเทพฯ คือ เซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์, แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ, อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ และเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ ร่วมกันสร้างสรรค์ขนมเค้กรสชาติพิเศษจากส่วนผสมที่มีความเป็นไทยภายใต้คอนเซปต์ “Magical Taste of Thai” เพื่อให้คนรักเค้กลิ้มชิมรสและมอบแทนความรักความปรารถนาดีให้แก่กันและกัน ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงสิ้นเดือน ก.ย.

 

Magical Taste of Thai

กับโจทย์ Magical Taste of Thai ดูจะเป็นเรื่องท้าทายสำหรับพ่อครัวขนมหวาน ผลลัพธ์อันแสนมหัศจรรย์ปรากฏออกมาเป็นเค้กหลายสีสันและหลากรสชาติ ล้วนยวนเย้าให้อยากลิ้มลอง

เอริก กอชาร์ หัวหน้าพ่อครัวเบเกอรีแห่งเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ กล้าหาญที่จะนำราชาแห่งผลไม้ ซึ่งมีรสและกลิ่นเฉพาะตัวอย่าง “ทุเรียน” มาทำเป็นเค้ก ผสมผสานกับมะม่วง ข้าวเหนียวมูน และมะพร้าว ทำให้เกิดเมนู “เค้กพุดดิงทุเรียนดีไลท์” ขึ้นมา เค้กชนิดนี้แบ่งรสชาติความอร่อยออกเป็น 3 ชั้น ชั้นแรก เป็นชั้นของความหอมหวานนุ่มนวลด้วยครีมทำจากเนื้อทุเรียน นมสด ไข่ไก่ น้ำตาล และวิปปิงครีม ถัดไปเป็นมีรสชาติหวานอมเปรี้ยวของครีมมะม่วงผสมหวานๆ มันๆ ของข้าวเหนียวมูน และมีขนมปังมะพร้าว ตกแต่งมาการูนพริกสีแดงเผ็ดอ่อนๆ สามารถกินแยกชั้นหรือพร้อมกันก็ได้ ของหวานเมนูนี้ เชฟแนะนำให้กินกับไวน์ขาว!!! เค้กพุดดิงทุเรียนดีไลท์มีให้สั่งชิมได้ที่ร้าน ซิงก์ เบเกอรี่ (Zing) ชั้น 1 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ (โทร. 02-100-1234 ต่อ 6485)

ขณะที่กลิ่นหอมแบบตะวันออกที่อวลอยู่ใน “ใบเตย” ก็กลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้ คริสทอฟ วิดเมอร์ พ่อครัวใหญ่ประจำเอราวัณ เบเกอรี่ โรงแรม แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ นำมาสร้างสรรค์เป็นเค้กสูตรใหม่ โดยนำมะพร้าวมาจับคู่เข้าด้วยกัน ได้เมนู “เค้กใบเตยมะพร้าว” ออกมา โดยนำใบเตยไปทำเป็นครีมสีเขียวเนียนนุ่มหอมหวาน ส่วนสปองจ์เค้กผสมด้วยมะพร้าวหวานมัน ก่อนจะตกแต่งด้วยลูกชุบผลไม้ ทำให้ขนมฝรั่งมีกลิ่นอายไทยอย่างชัดเจน อยากลองบ้างต้องแวะไปที่ ร้านเอราวัณ เบเกอรี่ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ (โทร. 02-254-1234)

 

ด้วยรสชาติหวานอมเปรี้ยวและสีสันของมะม่วงสุกดั่งทองนั้น สะท้อนถึงส่วนเสี้ยวของความเป็นเมืองร้อนอย่างไทยได้เป็นอย่างดี ทำให้ เซบาสเตียน ฮูแกแวร์ฟ เอกเซ็กคิวทีฟ พาสทรี เชฟ แห่งอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ ผลิตผลงานสุดอร่อยเมนู “ครันช์เค้กไวต์ช็อกโกแลตและมะม่วง” ออกมา เขาได้นำตะวันออกคือมะม่วง และตะวันตกคือช็อกโกแลตขาวมาพบกัน ชั้นแรกของเค้กเป็นเจลลีมะม่วงแช่แข็ง รสหวานอมเปรี้ยว ต่อมาเป็นเนื้อมูสไวต์ช็อกโกแลตหวานฟูนุ่ม ชั้นสุดท้ายเป็นความอร่อยกรุบกรอบของครันชีช็อกโกแลต เมื่อกินพร้อมกันทั้ง 3 ชั้นจะทำให้ได้รสชาติมากยิ่งขึ้น เมนูครันช์เค้กไวต์ช็อกโกแลตและมะม่วงนี้รับประทานได้ที่ร้านเดอะ เดลี่ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ (โทร. 02-656-0444)

อีกหนึ่งเมนูเค้กที่ให้กลิ่นอายไทยมากมาย และคงได้รับความนิยมอย่างสูงเมื่อเทศกาลวันแม่ที่ผ่านมา เพราะนอกจากจะอร่อยแล้วยังมีความหมาย เพราะมีมะลิดอกไม้แห่งวันแม่เป็นส่วนผสม นั่นคือ “เค้กช็อกโกแลตกลิ่นมะลิสอดไส้เจลลีมะม่วง” เป็นผลงานจาก เดช แสงศรีจันทร์ หัวหน้าพ่อครัวเบเกอรี่ โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นนายกสมาคมเบเกอรี่แห่งประเทศไทยอีกด้วย เค้กเมนูนี้คือการผสานโลกตะวันตกกับตะวันออกเข้าด้วยกัน ช็อกโกแลตชั้นดีจากสวิตเซอร์แลนด์นำมาทำเป็นมูสที่เติมกลิ่นหอมของมะลิ (ที่ผ่านการเลือกสรรมาแล้วอย่างดี) เข้าไป กลายเป็นหนึ่งชั้นของเค้กที่เคียงอยู่กับเจลลีมะม่วงสีเหลืองหอมหวานเจือเปรี้ยวนิดๆ รับประทานพร้อมกันทุกชั้นจะได้รสชาติครบรส ขนมอร่อยนี้รับประทานกัน “จัสมิน วนิลา ลาเต้” เครื่องดื่มเย็นที่เข้ากันได้ดีทั้งคู่ พร้อมรอให้ชิมที่ร้านเดอะ วัน บาย เรเนซองส์ ด้านหน้าโรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ (โทร. 02-125-5111)

 

ทั้ง 4 เมนูเค้กล้วนมีรสชาติอัศจรรย์ เพราะเสน่ห์ในการผสมผสานของตะวันออกและตะวันตก

ศาสตร์ศิลป์แบบไทยๆ ในเค้ก

เค้กเป็นของหวานของชาวตะวันตก ซึ่งปัจจุบันเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมไปทั่วโลก ไม่เว้นแม้ในประเทศไทย เชฟเดช แสงศรีจันทร์ บอกว่า ปัจจุบันคนไทยนิยมรับประทานเค้กมากขึ้นจนกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต

จากที่เคยรู้จักแต่เค้กเนย ซึ่งแต่งหน้าด้วยครีมหนาๆ วันนี้เรารู้จัก ชิฟฟอนเค้ก, สปันจ์เค้ก, มูสเค้ก, ชีสเค้ก และอีกสารพัดเค้กที่มีในโลก ทุกวันนี้มีเบเกอรีเล็กๆ น้อยๆ ผุดขึ้นมากมาย บ้างก็เกิดขึ้นมาแล้วก็หายไปในระยะเวลาอันสั้น เพราะวงการขนมหวานไม่ได้หวานอย่างที่หลายคนคิด ด้วยมีการแข่งขันสูง ทั้งยังเป็นวิชาชีพที่ละเอียดลออต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ ต้องมีทั้งฝีมือในการทำขนม เข้าใจตลาด และรู้จักลูกค้า นั่นทำให้เขารวมตัวเพื่อนร่วมอาชีพในนามสมาคมเบเกอรี่แห่งประเทศไทยเพื่อยกระดับวิชาชีพนี้ให้ดีขึ้น รวมทั้งเตรียมพร้อมสำหรับตลาดที่จะขยายตัวมากยิ่งขึ้น เพราะคนไทยรู้จักและรักเค้กมากขึ้น

หลายสิบปีในแวดวงนี้ทำให้เชฟเดชเห็นการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะความนิยมในเค้กและขนมหวานนั้นก็เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ก่อนหน้านี้บ้านเราฮิตมาการูนสีหวานสวย โดยมีร้านเลอโนตเป็นผู้สร้างกระแสเป็นเจ้าแรกๆ ก่อนที่จะเป็นเวลาของคัพเค้ก ขนมหวานหน้าตาน่ารักน่าชังและสามารถตกแต่งสร้างสรรค์ได้หลากหลาย

 

“คนชอบมาการูนกับคัพเค้กเพราะว่าหน้าตาสวย แต่รสชาติอาจจะไม่ค่อยถูกลิ้นคนไทยนัก เพราะว่าคนไทยจะรับประทานเค้กที่ไม่หวานหรือเลี่ยนมากเกินไป เค้กฝรั่งเศสหรือสวิสจะเน้นครีมมาก ประเทศจีนและเกาหลีก็จะทำเค้กไปทางฝรั่งเศส คือ เน้นครีม แต่คนไทยจะไม่ชอบขนาดนั้น”

เพราะเค้กหรือขนมที่ได้รับความนิยมนั้น ต้องมีหน้าตาสวยไว้ดึงดูดใจและเมื่อได้ชิมก็ต้องเอร็ดอร่อยถูกปาก ถ้าหากจะให้คาดการณ์เทรนด์ที่จะมาในอนาคต เชฟเดช บอกว่า เค้กที่ทำจากส่วนผสมแบบไทยๆ จะมาแรง

“เค้กจากตะวันตกก็อาจจะมีหน้าตาเหมือนๆ กัน ช็อกโกแลตเค้ก หรือบราวนีที่ไหนก็มี แต่ถ้าหากเราได้นำวัตถุดิบที่แตกต่าง อย่างเช่น ผลไม้ ดอกไม้ หรือเครื่องเทศไทยๆ เข้าไปประยุกต์ก็จะทำให้เกิดเค้กสูตรใหม่ๆ รสชาติใหม่ๆ ขึ้น รสชาติไทยๆ ที่อยู่ในส่วนผสมทำให้ทั้งคนไทยและคนต่างชาติชื่นชอบได้” และโลกของเค้กก็จะกว้างออกไป

เพราะเกิดจากความรัก ถูกกลืนกินด้วยความรัก และมอบให้แก่กันด้วยความรัก ... เค้กย่อมไม่ใช่แค่ของหวานชนิดหนึ่ง