4 ระยะของริดสีดวง กับ 3 สมุนไพรที่ใช้ได้ผล
4 ระดับความรุนแรงที่เพิ่มมากขึ้นตามระยะของโรคริดสีดวงทวารหนัก กับ 3 สมุนไพรไทยที่ช่วยให้อาการทุเลาลงอย่างเห็นผล
4 ระดับความรุนแรงที่เพิ่มมากขึ้นตามระยะของโรคริดสีดวงทวารหนัก กับ 3 สมุนไพรไทยที่ช่วยให้อาการทุเลาลงอย่างเห็นผล
โรคริดสีดวงทวารหนัก (Hemorrhiods) คือการที่หลอดเลือดดำที่ลำไส้ใหญ่และทวารหนักมีอาการบวม โป่งพอง และมีหลอดเลือดบางส่วนยื่นออกมาจากทวารหนัก โดยเกิดขึ้นไดจากหลายสาเหตุ เป็นโรคที่พบได้บ่อยและก่อให้เกิดความยากลำบากในการดำเนินชีวิตประจำวัน แต่สามารถรักษาให้หายได้ตั้งแต่เริ่มแรกของโรค
สาเหตุหลักของโรคริดสีดวงทวาร มีได้หลายสาเหตุโดยเฉพาะพฤติกรรมการขับถ่ายของแต่ละคน อาทิ ภาวะท้องผูกเรื้อรัง ท้องเสียบ่อย พฤติกรรมชอบเบ่งอุจจาระอย่างแรง ชอบนั่งถ่ายอุจจาระเป็นเวลานาน โดยเฉพาะคนที่ชอบเล่นมือถือในขณะขับถ่าย ใช้ยาสวนอุจจาระหรือยาระบายบ่อยเกินความจำเป็น มีภาวะโรคตับแข็ง ซึ่งมีผลทำให้เลือดดำอุดตัน จนบริเวณเส้นเลือดดำบริเวณทวารโป่งพอง อายุที่มากขึ้นทำให้กล้ามเนื้อหย่อนยาน จนทำให้เบาะรองเลื่อนลงมาจนยื่นออกมาจากทวารหนัก บุคคลในครอบครัวมีประวัติ เคยเป็นโรคริดสีดวงทวารหนัก หรือพฤติกรรมที่ต้องยกของหรือออกแรงเบ่งมากๆ
AFP
อาการของโรคริดสีดวง แบ่งออกเป็น 4 ระยะ โดยความรุนแรงจะเพิ่มตามระยะที่เป็น ดังนี้
ระยะที่ 1: มีเส้นเลือดดำโป่งพองในทวารหนัก จะมีเลือดไหลออกมาเวลาเบ่งถ่ายอุจจาระ และถ้าท้องผูก เลือดก็จะออกมากขึ้น
ระยะที่ 2: หัวริดสีดวงทวารโตมากขึ้น เริ่มโผล่ออกมาพ้นทวารหนัก เวลาเบ่งอุจจาระจะออกมาให้เห็นมากขึ้น และหดกลับได้เองหลังการขับถ่าย
ระยะที่ 3: หัวริดสีดวงทวารจะโผล่ออกมามากกว่าเดิม เวลาไอจาม หรือยกของหนักๆ ที่ต้องเกร็งท้อง จะเกิดการเบ่ง ให้หัวริดสีดวงทวารออกมาข้างนอก และไม่สามารถหดกลับเข้าไปได้เอง ต้องใช้นิ้วช่วยดันกลับเข้าไป
ระยะที่ 4: หัวริดสีดวงโตมากขึ้น สามารถมองเห็นจากภายนอกได้ชัดเจน มีอาการบวม อักเสบและอาการแทรกซ้อนที่รุนแรงมาก โดยมีเลือดออกมาเสมอ อาจเป็นน้ำเหลืองเมือกลื่น และมีอุจจาระออกมาได้ ทำให้เกิดความสกปรกและเปียกชื้นตลอดเวลา อาจมีอาการคันที่ขอบปากทวารร่วมด้วย บางครั้งอาจเน่าและอักเสบมากขึ้น นำมาซึ่งการติดเชื้อได้ง่าย และถ้ามีเลือดออกอยู่เรื่อยๆ จะทำให้ซีด อ่อนเพลีย น้ำหนักตัวลดลง และเกิดอาการหน้ามืดได้
สมุนไพรที่ใช้รักษาโรคริดสีดวง
การรักษาโรคริดสีดวงสามารถรักษาให้หายขาดโดยการใช้ยาหรือการผ่าตัด แต่ก็ยังมีวิธีการรักษาด้วยสมุนไพรไทย ดังนี้
เพชรสังฆาต
วิธีการใช้ ให้นำเพชรสังฆาตสด 1 ปล้อง หั่นเป็นข้อเล็กๆ แล้วหุ้มด้วยกล้วยสุกหรือมะขามเปียก แล้วรับประทานวันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้าและเย็น ให้รับประทานติดต่อกันเป็นเวลา 10-15 วัน อาการของริดสีดวงจะค่อยๆ บรรเทาและสามารถหายเองได้
ขลู่
ใบของต้นขลู่นั้นมีกลิ่นหอมและมีคุณสมบัติในการรักษาโรคริดสีดวงทวารหนักได้ โดยนำใบขลู่มาต้มรับประทานเป็นชา และสามารถใช้เปลือกของต้นขลู่ต้มในน้ำแล้วใช้ไอรมทวารหนัก ก็จะช่วยบรรเทาอาการอักเสบได้ นอกจากนั้น ขลู่ยังเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณในการรักษาที่หลากหลาย เช่น ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ แก้นิ่วในไต ช่วยย่อยอาหาร และยังสามารถนำมารักษาโรคริดสีดวงจมูกได้ด้วยเช่นกัน
ว่านหางจระเข้
ก่อนอื่นควรทำความสะอาดทวารหนักให้แห้งและสะอาดก่อน โดยแนะนำให้ทำหลังจากอุจจาระเสร็จหรืออาบน้ำเสร็จแล้ว หรืออาจทำก่อนนอนก็ได้ ส่วนวิธีใช้ ให้นำว่านหางจระเข้มาปอกเปลือกส่วนนอกออกให้หมด แล้วเหลาให้ปลายแหลมเล็กน้อย เพื่อความสะดวกในการเหน็บเข้าไปในช่องทวารหนัก ซึ่งหากต้องการให้เหน็บง่ายมีข้อแนะนำว่า ให้นำว่านหางจระเข้ไปแช่ในตู้เย็นเพื่อทำให้เกิดการแข็งตัวจะทำให้สอดได้ง่ายขึ้น และควรทำให้ได้วันละ 1-2 ครั้ง จนกว่าจะหาย
ขอบคุณข้อมูลบจาก honestdocs.co
ภาพ freepik / AFP