posttoday

How to หนึ่งวันต้านโรคแบบเวชศาสตร์ชะลอวัย

20 กรกฎาคม 2562

คุณภาพชีวิตที่ดี สุขภาพที่แข็งแรงไร้โรคา จิตใจที่แจ่มใส เป็นสิ่งที่ใครๆ ต่างถวิลหา ลองมาดู How to หนึ่งวันต้านโรคแบบเวชศาสตร์ชะลอวัย วิธีปฏิบัติตัวง่ายๆ ที่มีแต่ได้กับได้พร้อมๆ กัน

คุณภาพชีวิตที่ดี สุขภาพที่แข็งแรงไร้โรคา จิตใจที่แจ่มใส เป็นสิ่งที่ใครๆ ต่างถวิลหา ลองมาดู How to หนึ่งวันต้านโรคแบบเวชศาสตร์ชะลอวัย วิธีปฏิบัติตัวง่ายๆ ที่มีแต่ได้กับได้พร้อมๆ กัน

How to หนึ่งวันต้านโรคแบบเวชศาสตร์ชะลอวัย

ตั้งแต่ตื่นนอนควรดื่มน้ำเปล่าที่อุณหภูมิห้องปกติ 1 แก้ว (250 ซีซี) เพื่อกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหารให้ขับถ่ายได้ดี ส่วนในระหว่างวันควรมีวินัยในการดื่มน้ำเปล่าเป็นประจำอย่างน้อย 2 ลิตร (8 แก้ว)/วัน ยกเว้นคนที่มีปัญหาโรคไต ควรจำกัดน้ำตามคำแนะนำของแพทย์ประจำตัว และควรฝึกขับถ่ายให้เป็นเวลาในตอนเช้า

ฝึกชั่งน้ำหนักทุกเช้า เราควรควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานตามองค์การอนามัยโลก โดยดัชนีมวลกาย (BMI) ไม่ควรเกิน 23 (kg/mยกกำลัง 2) ในคนเอเชีย สูตรคำนวณ BMI=น้ำหนักตัว/ส่วนสูงยกกำลัง 2 ดูแลอย่าให้พุงใหญ่เกินไป ควรลดพุงตามเกณฑ์ของ WHO โดยกำหนดให้เพศชายมีเส้นรอบเอว 102 ซม. และหญิง 88 ซม.

ออกกำลังกายและฝึกการหายใจ เพื่อสุขภาพหัวใจและปอด อย่างน้อย 3-5 ครั้ง/สัปดาห์ ครั้งละอย่างน้อย 30 นาที จะออกกำลังตอนไหนก็ได้ที่มีเวลาว่าง โดยใน 1 สัปดาห์จะต้องประกอบด้วยออกกำลังกายแบบแอโรบิค เช่น วิ่ง เดินเร็ว ว่ายน้ำ สลับกับออกกำลังกายแบบยืดหยุ่น

How to หนึ่งวันต้านโรคแบบเวชศาสตร์ชะลอวัย

กินอาหารให้ตรงเวลา โดยเฉพาะอาหารเช้าที่สำคัญ การไม่กินตอนเช้าจะทำให้ร่างกายนำเอาอาหารที่สะสมไว้ที่ตับและไขมันออกมาใช้ ซึ่งจะทำให้เกิดกรดแลคติคที่จะไปทำลายอวัยวะต่างๆ ให้เสื่อมทีละน้อย

อาหารมื้อเย็นอย่าให้เกินเวลา 19.00 น. และไม่ควรกินมากเกินไป เพราะหลังจากกินอาหารแล้วบางคนอาจเอนตัวลงนอนดูทีวี ทำให้เกิดภาวะกรดไหลย้อนและทำให้อ้วนลงพุง โดยควรลุกขึ้นเดินย่อยอาหารสัก 15 นาที ก็จะเป็นการช่วยให้กระเพาะอาหารและลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น

How to หนึ่งวันต้านโรคแบบเวชศาสตร์ชะลอวัย

ควรเข้านอนตั้งแต่ 22.00 น. เพราะกว่าเราจะนอนหลับสนิทต้องใช้เวลาประมาณ 2 ชม. ก็จะเข้าสู่เวลาประมาณเที่ยงคืน ซึ่งเวลานี้เป็นเวลาที่เริ่มมีการผลิตฮอร์โมนต่างๆ ที่จะป้องกันการแก่ชรา การนอนหลับสนิทก่อนเที่ยงคืนจึงเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้เกิดความสมดุลของฮอร์โมนต่างๆ

ไม่ควรปล่อยให้ร่างกายเกิดการอักเสบหรือมีการติดเชื้อเรื้อรัง เช่น เป็นหวัดบ่อยๆ อาการภูมิแพ้กำเริบ ท้องเสีย หรือกระเพาะปัสสาวะอักเสบบ่อยๆ ควรเสริมภูมิต้านทานจากการกินผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงๆ เช่น ฝรั่ง เสาวรส มะขามป้อม ส้ม และพุทรา

การฝึกคิดในแง่บวก จะมีผลในการต่อต้านความชราได้เป็นอย่างดี เพราะเราก็จะเป็นคนใจเย็น ไม่โกรธง่าย ส่งผลให้ไม่แก่เร็ว ช่วยให้ห่างไกลโรคภัยอีกด้วย

 

ภาพ freepik