posttoday

Heat illness ออกกำลังกายให้ปลอดภัยในหน้าร้อน

24 เมษายน 2562

ในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ ต้องบอกว่าอากาศส่งผลกระทบกับหลากหลายกิจกรรมในแต่ละวันค่อนข้างมากเลยทีเดียว แต่สุขภาพร่างกายโดยเฉพาะการออกกำลังกายก็ละเลยไม่ได้ แล้วเราจะทำอย่างไรจึงปลอดภัยจากอากาศที่ร้อนๆ

ในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ ต้องบอกว่าอากาศส่งผลกระทบกับหลากหลายกิจกรรมในแต่ละวันค่อนข้างมากเลยทีเดียว ไม่ว่าจะออกจากบ้านไปธุระ ขยับตัวไปไหน ทำกิจกรรมอะไร ก็รู้สึกร้อนอบอ้าวไม่สบายตัวไปเสียหมด รวมไปถึงคนรักสุขภาพทั้งหลาย การออกกำลังกายในหน้าร้อนเป็นเรื่องที่ต้องระวัง และควรปรับรูปแบบการออกกำลังกายให้เข้ากับสภาพอากาศ เพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากความร้อน หรือที่เรียกว่า Heat illness ด้วยวิธีเหล่านี้

จิบน้ำบ่อยๆ

ในช่วงหน้าร้อนที่สภาพอากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าว และมีอุณหภูมิสูงแบบนี้ ร่างกายต้องสูญเสียน้ำมากกว่าปกติอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น การออกกำลังกายในช่วงหน้าร้อน ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติอีกเท่าตัว ดังนั้น การออกกำลังกายในช่วงหน้าร้อนจึงควรดื่มน้ำมากๆ ก่อนออกกำลังกายประมาณครึ่งชั่วโมง และจิบน้ำบ่อยๆ ทุก 5-10นาที ระหว่างการออกกำลังกาย เพื่อป้องกันการขาดน้ำ และรักษาอุณหภูมิของร่างกายไม่ให้สูงเกินไป อย่าปล่อยให้รู้สึกกระหายแล้วจึงดื่มน้ำ เพราะนั่นคือสัญญาณว่าร่างกายกำลังขาดน้ำ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดตะคริว หน้ามืด หรือวิงเวียนศีรษะได้

สวมเสื้อผ้าที่ระบายความร้อนได้ดี

เสื้อผ้าที่สวมใส่ออกกำลังกายในช่วงหน้าร้อนควรมีสีสว่าง ขนาดพอดีตัว ไม่รัดรูปหรือฟิตจนเกินไป และเนื้อผ้าควรระบายอากาศได้ดี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความร้อนสะสมในร่างกาย นอกจากนั้น การที่เหงื่อออกมากๆ จากการออกกำลังกาย ยิ่งทำให้อับชื้นได้ง่าย อาจเกิดการสะสมของแบคทีเรียจนก่อให้เกิดกลิ่นที่ทำให้สูญเสียความมั่นใจ อีกสิ่งสำคัญ ควรทาครีมกันแดดที่มีค่าการปกป้องอย่าง SPF 50 PA+++ สูตรกันน้ำ สำหรับการออกกำลังกายกลางแจ้ง เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดด

เลือกเวลาออกกำลังกาย

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับออกกำลังกายในช่วงหน้าร้อน คือช่วงเช้า และช่วงเย็นหลังเลิกงาน น่าจะเหมาะกว่าช่วงบ่ายๆ ที่มีแดดจัด และควรเลือกออกกำลังกายในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี

อบอุ่นร่างกายก่อน-หลังออกกำลังกาย

ทุกครั้งที่ออกกำลังกายควรอบอุ่นร่างกาย เพื่อเป็นการเตรียมพร้อม โดยยืดกล้ามเนื้อในท่าต่างๆ เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย และค่อยๆ เพิ่มความหนักหน่วงในการออกกำลังกายอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศ และป้องกันไม่ให้ความร้อนในร่างกายสูงเกินไป