posttoday

จุลเทพ บุณยกรชนก คุณชายผักสลัดแห่งเมืองอ่างทอง

17 มีนาคม 2562

เรื่อง: วรธาร ทัดแก้ว

เรื่อง: วรธาร ทัดแก้ว


ถ้าเอ่ยชื่อเกษตรกรรุ่นใหม่ไฟแรงอนาคตไกล หยก-จุลเทพ บุณยกรชนก หรือคุณชายผักสลัด วัย 21 ปี เจ้าธุรกิจผักสลัดออร์แกนิกมาตรฐาน Earth Safe แบรนด์ “มังกรหยก คุณชายผักสลัด” ต.บางพลับ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง น้อยคนที่จะไม่รู้จัก และก็เชื่อว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยคงเคยได้ลิ้มลองผักสลัดที่มีขายอยู่ในท็อปส์ มาร์เก็ต ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์ และเซ็นทรัลฟู้ดฮอลล์ ทุกสาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งในจังหวัดเศรษฐกิจอีกหลายจังหวัด อาทิ เชียงใหม่ ชลบุรี เป็นต้น

ชื่อเสียงของหยก หรือคุณชายผักสลัด ไม่ได้ดังแค่ใน จ.อ่างทอง และจังหวัดใกล้เคียง แต่โด่งดังไปทั่วประเทศ ตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 โรงเรียนสตรีอ่างทอง เขาได้รับรางวัลชนะเลิศเกษตรอินทรีย์ดีเด่น จากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อปี 2559 ด้วยผลงาน “ตำราพิชัยยุทธพิชิตผักสลัดอินทรีย์วิถีไทย” ที่เขาเขียนขึ้นเองจากประสบการณ์และการเรียนรู้การปลูกผักด้วยตัวเองตั้งแต่อายุ 17 ปี โดยอาศัยต้นทุนความรู้ส่วนหนึ่งที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากพ่อของเขา และในปีเดียวกันนั้น ก็ได้รับรางวัลคนค้นฅน อวอร์ด ครั้งที่ 8 เมตตาธรรมค้ำจุนโลก สาขาเยาวชนต้นแบบ

จุลเทพ บุณยกรชนก คุณชายผักสลัดแห่งเมืองอ่างทอง

จากนั้นเป็นต้นมา หนังสือพิมพ์ สื่อออนไลน์ รายการทีวีต่างไปขอสัมภาษณ์ชีวิตและการทำเกษตรอินทรีย์ของเขาที่ ต.บางพลับ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง อาทิ รายการเกษตรซ้าด ทางช่อง New TV ตอนผักสลัดทำเงิน ซึ่งมี เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ เป็นพิธีกร และเป้ อารักษ์ นี่เองที่ตั้งชื่อ “คุณชายผักสลัด” ให้เขา ต่อมาหยกได้นำชื่อคุณชายผักสลัดไปตั้งชื่อเฟซบุ๊กแฟนเพจและชื่อแบรนด์ธุรกิจผักสลัดของเขา “มังกรหยก คุณชายผักสลัด” ส่วน “มังกรหยก” นั้นเป็นคำที่พ่อใช้เรียกเขาในวัยเด็ก ซึ่งเป็นการเอาชื่อเล่นของเขากับชื่อเล่นของพ่อคือ “ก๊วยเจ๋ง” ซึ่งเป็นชื่อพระเอกในหนังจีนเรื่องมังกรหยกมาอยู่ในชื่อเดียวกัน

เรียนไม่เก่ง แต่ปลูกผักเก่งเป็นเลิศ

ต้องยอมรับว่าคนเราเกิดมามีความเก่งด้วยกันทุกคน อยู่ที่ว่าใครจะเก่งทางด้านไหน เก่งมาก เก่งปานกลาง หรือเก่งน้อย สำหรับหยกแล้วเขาออกตัวว่าเรียนไม่เก่งมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ผลการเรียนที่ออกมาแต่ละเทอมต่ำตลอด ถ้าพูดอย่างชาวบ้านคือหัวไม่ให้แม้ว่าใจจะรักเรียน แต่ในด้านเกษตรต้องถือว่าเป็นทางของเขา เนื่องจากครอบครัวพ่อแม่ทำเกษตร และเขาเองก็ช่วยครอบครัวมาตลอดตั้งแต่เริ่มเรียนมัธยม

“ตอนอยู่ ม.4 และ ม.5 เคยไปสอบโรงเรียนนายสิบทหารสองครั้งสองคราแต่สอบไม่ติด ทั้งที่ก่อนสอบได้ไปติวพิเศษที่กรุงเทพฯ ทุกสัปดาห์ หนังสือก็ขยันอ่าน แต่สุดท้ายสอบไม่ติด ตอนนั้นรู้สึกเครียดมากจนต้องเข้าโรงพยาบาลและคิดสั้น แต่โชคดีที่แม่คอยให้สติ ซึ่งคำพูดของแม่ครั้งนั้นทำให้ผมคิดได้ พยายามตั้งสติ ค่อยๆ คิด ในที่สุดก็เห็นว่าการทำเกษตรน่าจะเป็นทางของผม และมั่นใจในศักยภาพตัวเองที่จะทำตรงนี้ เพราะครอบครัวผมก็ทำเกษตรทำปุ๋ยอินทรีย์ขายอยู่แล้ว ผมคิดว่าการทำเกษตรจะทำให้ครอบครัวหลุดพ้นจากความจน และทำให้พ่อแม่มีชีวิตที่สุขสบายได้ในอนาคต ผมจึงตั้งใจว่าหลังจบ ม.6 ตั้งใจจะทำเกษตรไปเรื่อยๆ”

จุลเทพ บุณยกรชนก คุณชายผักสลัดแห่งเมืองอ่างทอง

หลังจากสภาพจิตใจกลับเข้าสู่โหมดปกติ การเรียนมัธยมปลายยังดำเนินต่อไป แต่สิ่งหนึ่งที่หยกมุ่งมั่นมากคือหันมาเอาจริงกับการทำเกษตร เริ่มต้นด้วยการปลูกผักสลัดพร้อมกับการเขียนตำราพิชัยยุทธพิชิตผักสลัดอินทรีย์วิถีไทยขึ้นมาเล่มหนึ่ง โดยองค์ความรู้ในการเขียนตำราได้รับการบ่มเพาะจากพ่อส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งมาจากการศึกษา ค้นคว้า เรียนรู้ด้วยตัวเองและการลงมือปลูกผักด้วยตัวเองจนได้ผลเป็นอย่างดี ซึ่งตำรานี้ต่อมาได้ส่งเข้าประกวดและได้รับรางวัลชนะเลิศเกษตรอินทรีย์ดีเด่น จากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อปี 2559

“เนื้อหาของตำราพิชัยยุทธพิชิตผักสลัดอินทรีย์วิถีไทยของผม จะพูดถึงสายพันธุ์ผักสลัด การปรุงดิน การเพาะกล้า การลงปลูก การดูหน้าดินในแต่ละวัน การดูแลผักสลัด การให้ปุ๋ย เวลาการรดปุ๋ย รดสมุนไพร รดป้องกันเชื้อราแต่ละวัน การป้องกันเชื้อรา ป้องกันแมลงศัตรูพืช การทำปุ๋ยอินทรีย์น้ำ การทำสมุนไพรป้องกันเชื้อรา การทำปุ๋ยสูตรขนมชั้น การปลูก เก็บ เมล็ดพันธุ์ แหล่งซื้อวัสดุอุปกรณ์

ปัจจุบันผมได้เปิดอบรมการปลูกผักให้กับผู้ที่สนใจในการทำเกษตรมาแล้วทั้งหมด 97 รุ่น รวมประมาณ 3,000 คน รุ่นต่อไปเป็นที่ 98 แต่จะรับจำนวนจำกัดไม่เกิน 12-20 คน และจัดอบรมเดือนละครั้ง เพราะที่ผ่านมาใครมาสมัครเราก็รับ บางรุ่นจำนวนจึงมากถึง 50-60 คน ถือว่ามากเกินไป เพราะฉะนั้นใครจะมาเรียนในรุ่น 98 ก็อยากให้ติดตามในเพจคุณชายผักสลัด กับมังกรหยก Mungkornyok ผมจะประกาศให้ทราบ” คุณชายผักสลัดกล่าว

จุลเทพ บุณยกรชนก คุณชายผักสลัดแห่งเมืองอ่างทอง

อยากให้คนไทยได้กินของดีก่อนชาติอื่น

หยก กล่าวว่า แรงบันดาลใจในการทำเกษตรอินทรีย์นอกจากต้องการทำในสิ่งที่ใช่สำหรับตัวเองและต้องการหลุดพ้นไปจากความยากจนแล้ว อยากให้คนไทยได้กินของที่มีคุณภาพ สะอาด ปลอดภัย โดยเป็นของที่เขาดูแลจากใจจริงๆ

“เดิมพื้นที่ปลูกผักสลัดของผมมีอยู่ประมาณ 1 ไร่ครึ่ง แต่ความต้องการของผู้บริโภคมีมากขึ้น ออร์เดอร์เข้ามาต่อเดือนอยู่ที่ 10 ตัน แต่เรารับเท่าที่ผลิตได้ ดังนั้นปีนี้ผมจึงเช่าที่ดินอีก 6 ไร่ติดกับที่เดิมเพื่อปลูกเพิ่ม ตอนนี้กำลังลงเมลอนและจะลงมะเขือเทศราชินีด้วย ผมกล้าพูดได้เลยว่าผักที่ปลูกในสวนผม ทุกต้นจะต้องผ่านมือผมในกระบวนการใดกระบวนการหนึ่งหรือทุกกระบวนการ เช่น ผมอาจจะเคยเพาะเมล็ด เคยลงต้น เคยให้ปุ๋ย ฯลฯ เพราะทุกเช้าผมจะต้องเข้าไปดูแลตลอดซึ่งผมทำมา 3 ปีแล้ว

ขณะที่ในการแปรรูปสินค้าผมเองก็มีโรงแพ็กเกจจิ้งที่ได้มาตรฐาน อย.จีเอ็มพี โดยได้มาตั้งแต่ปีที่แล้ว เหนืออื่นใดผักสลัดของผมยังได้รับตรารับรอง Organic Thailand หรือระบบการรับรองมาตรฐานการผลิตพืชอินทรีย์ จากกรมวิชาการเกษตร ในขณะที่ยังเรียนไม่จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 และยังได้มาตรฐาน Earth Safe ที่ยืนยันว่าผักปราศจากสารเคมีอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ผมเองมองถึงการส่งออกต่างประเทศอยู่เหมือนกัน แต่วันนั้นถ้าจะมาถึงคงอีกนาน เพราะที่ผมตัดสินใจทำตรงนี้ก็อยากให้คนไทยเราได้กินก่อนคนชาติอื่น ขนาดพวกฝรั่งยังให้คนในประเทศเขาได้กินของดีก่อนส่งออกเลย ผมเองก็เช่นกันต้องการให้คนไทยได้กินผักสะอาด อร่อยและปลอดภัยก่อนใคร จะได้มีสุขภาพและคุณภาพที่ดีขึ้น”

จุลเทพ บุณยกรชนก คุณชายผักสลัดแห่งเมืองอ่างทอง

ใครก็ประสบความสำเร็จได้แค่หาตัวเองให้เจอ

ใครจะคิดว่าจากเด็กหลังห้องที่ไม่ค่อยประสบผลสำเร็จด้านการศึกษา แต่วันนี้เขาผลักดันตัวเองให้ขึ้นมาอยู่แถวหน้า กลายมาเป็นเจ้าของธุรกิจที่มั่นคงและมีอนาคตที่สดใสในวัยแค่ 21 ปี เหนืออื่นใดคือเขาได้นำความภาคภูมิใจมาสู่พ่อแม่

“บางคนอาจจะคิดว่าผมหมดอนาคต หมดหนทาง ไม่มีแม้ความสามารถ แต่ใครจะรู้ว่าธรรมชาติมักมอบความสามารถและสติปัญญาให้มนุษย์ทุกคนเสมอเช่นเดียวกับผม ที่ได้กลับมาคิดใหม่จากเรื่องราวในอดีตที่เป็นทั้งเด็กเรียนหนังสือไม่เก่ง ไม่มีอนาคต และไม่มีเงินทุน แต่สิ่งที่ผมมี คือ ต้นทุนชีวิตในด้านการเกษตร

พ่อแม่ผมเป็นเกษตรกร ทำให้ผมได้ซึมซับวิชาความรู้เกี่ยวกับการเกษตรมากมาย ผมจึงนำต้นทุนชีวิตที่ได้รับจากพ่อแม่มาศึกษาเรียนรู้ ควบคู่กับการทดลองจากการปฏิบัติงานจริง ซึ่งแม้ไม่ได้เรียนทฤษฎีในห้องเรียน แต่สิ่งที่สอนผมมาก็คือห้องเรียนธรรมชาติ รู้จักอดทนที่จะรอโอกาสและการอดออมเพื่อต่อยอดธุรกิจ จนถึงตอนนี้ต้นทุนชีวิตที่ได้ลงทุนไปงอกเงยเป็นผลกำไรแห่งความสุขที่ผมได้รับ

ผมเชื่อว่าเรื่องเหล่านี้ก็เกิดขึ้นกับคุณได้เพียงแค่คุณคิดใหม่ใช้เงินเป็น คุณก็จะเห็นความสุขแบบผมแน่นอน ท้ายสุดนี้ผมอยากเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครก็ตามที่เรียนไม่เก่งอย่างผม หรือใครที่กำลังท้อแท้ใน
ชีวิต ผมเชื่อว่าทางที่ใช่ของทุกคนมี เพียงแต่ต้องหาให้เจอ เหมือนอย่างผม แล้วก้าวเดินไปอย่างมุ่งมั่นและมั่นคง” คุณชายผักสลัดกล่าวทิ้งท้าย