posttoday

กรมิษฐ์ ธนิสรธเนศ ของสะสมสุดรัก แสนหวง

20 กุมภาพันธ์ 2562

แรกเริ่มที่ตัดสินใจทาบทามให้ ไทร-กรมิษฐ์ ธนิสรธเนศ นักธุรกิจหนุ่มผู้นำเข้า แอตมอส (Atmos)

แรกเริ่มที่ตัดสินใจทาบทามให้ ไทร-กรมิษฐ์ ธนิสรธเนศ นักธุรกิจหนุ่มผู้นำเข้า แอตมอส (Atmos) ร้านรองเท้าชื่อดังจากญี่ปุ่นมาเปิดสาขาในไทย เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้ที่ชื่นชอบสะสมรองเท้ารุ่นหายาก ไม่ต้องบินไปตามหาถึงต่างประเทศอีกต่อไป มาโชว์ของสะสมแสนรัก ก็แอบเดาเล่นๆ ในใจว่า ไทรคงจะขนสนีกเกอร์รุ่นหายากมาอวดโฉมให้ได้อิจฉาเล่น แต่หลังจากไทรค่อยๆ ลำเลียงของสะสมที่ออกมาให้ดูทีละชิ้น กลับพบว่านอกจากสนีกเกอร์แสนรัก เขายังเป็นนักสะสมทั้งของเล่นและงานศิลปะตัวยง

“ผมชอบสะสมอะไรที่เป็นลิมิเต็ด เอดิชั่น เป็นความชอบส่วนตัวมาตั้งแต่เด็กอายุ 11 ขวบ ก็เริ่มสะสมของเล่นแล้ว เริ่มจากพวกหุ่นสตาร์วอร์สก่อน มีทั้งซื้อจากที่ร้านและที่ซื้อตามอีเบย์บ้าง สมัยเด็กผมไม่ได้คิดอะไรมาก แค่รู้ว่าราคาของเล่นที่ผมชอบอาจจะแพงกว่าของเล่นทั่วไป แต่ที่ซื้อเพราะผมไม่อยากมีของเล่นเหมือนกับคนอื่น” ไทรบอกเล่าอย่างอารมณ์ดี ถึงจุดเริ่มต้นที่ทำให้หันมาสะสมของเล่น

“สมัยก่อนเมืองไทยไม่ได้มีร้านของเล่นมากมาย เวลาจะหาซื้อแต่ละทีก็อาจจะยาก แต่โชคดีที่ผมเรียนที่สิงคโปร์ เลยไม่ค่อยมีปัญหา จากจุดเริ่มต้นที่สะสมพวกสตาร์วอร์ส ผมค่อยๆ เปลี่ยนมาสะสมพวกดีไซเนอร์ทอย ศึกษาค้นคว้ามาเรื่อยๆ ก็กลายเป็นพวกแพ้คำว่า คอลเลกชั่นพิเศษ หรือมีจำนวนจำกัด แต่ทุกชิ้นผมซื้อเพราะเริ่มต้นจากความชอบก่อน มีบ้างที่ซื้อเพราะมองไปถึงการลงทุนในอนาคต แต่ก่อนซื้อก็ต้องศึกษาดูก่อนว่าศิลปินที่ออกแบบเป็นใคร เรื่องราวเบื้องหลังเป็นอย่างไร ถ้าสรุปแล้วยังชอบก็ซื้อ อย่างน้อยบางตัวซื้อเก็บไว้ มูลค่าเพิ่มขึ้นกว่านำเงินไปฝากไว้กับธนาคารอีก”

จวบจนวันนี้ความชอบในวัยเด็กก็ยังคงเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของไทร เพียงแต่ขอบข่ายความชอบขยายมาสู่ความรักในงานศิลปะ โดยเฉพาะพวกงาน Contemporary Art ด้วย ซึ่งไทรบอกว่างานศิลปะพวกนี้ ถ้าจะมองว่าเป็นการลงทุนแบบหนึ่งก็ได้ เพราะสามารถนำไปเปิดประมูลตามบริษัทจัดการประมูล (Auction House) ได้เหมือนกัน

งานนี้ไทรไม่พูดเปล่า แต่นำภาพ Running Chum ของศิลปินสตรีทอาร์ตที่ชื่อ คอวส์ (Kaws) ที่เจ้าตัวแสนหวงมาโชว์

“รูปนี้มีแค่ 36 ชิ้นในโลกเท่านั้น ของผมเป็นภาพพิมพ์ที่มีลำดับเลข 31/36 ได้มาเมื่อ 2 ปีก่อน ผมชอบคอวส์มาตั้งแต่เขายังไม่ดัง ซึ่งส่วนใหญ่ผลงานของเขาจะผลิตไม่เยอะอยู่แล้ว ผมชอบไอเดียของเขาที่สามารถดึงเอาของเล่นหรือภาพวาดมาทำเป็น 3 มิติ (3D) ได้อย่างน่าสนใจ อย่างรูปนี้ผมซื้อที่นิวยอร์ก โชคดีได้เพื่อนช่วยหาให้ น่าจะเป็นหนึ่งชิ้นที่หายาก และราคาค่อนข้างสูง ไม่ใช่ว่าแค่มีเงินพร้อมจ่ายก็ซื้อได้ เพราะคนที่เป็นเจ้าของส่วนใหญ่ก็คงไม่อยากขาย อย่างรูปนี้ผมว่าที่เมืองไทยก็ไม่น่ามีใครมีครับ”

เรียกน้ำย่อยด้วยการเกริ่นถึงความเป็นแรร์ไอเท็มของภาพแล้ว ไทรยังอัพมูลค่าของผลงานศิลปะชิ้นนี้ขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการนำไปใส่กรอบไกลถึงฮ่องกง

“ที่ต้องข้ามน้ำข้ามทะเลไปใส่กรอบถึงฮ่องกง เพราะที่เมืองไทยไม่มีร้านที่รับใส่กรอบรูปที่เป็นอะครีลิก มิวเซียมเกรด ซึ่งมีจุดเด่นคือ น้ำหนักของตัวกรอบจะเบากว่ากระจก ที่สำคัญ ด้วยกรรมวิธีของเขา ทำให้รูปเรามีตำหนิน้อยที่สุด ได้มาตรฐานเดียวกับงานที่เก็บรักษาในพิพิธภัณฑ์ ถึงเรียกว่า มิวเซียมเกรด เพราะราคาต่อ 1 ตารางเมตรก็ค่อนข้างสูง เฉพาะค่ากรอบก็เกือบ 4 หมื่น ตอนนั้นผมเอารูปไปทำ แล้วอีก 14 วันค่อยบินไปรับ ทุกวันนี้ผมแขวนรูปนี้ไว้ที่ออฟฟิศ”

เปิดฉากด้วยงานศิลปะไปแล้ว ชิ้นต่อมา ไทรเลือกนำสเกตบอร์ดจากแบรนด์ ดิออร์ ออมม์(Dior Homme) มาให้ได้ชม

“ผมซื้อมาทั้งเซตพร้อมกัน เพราะส่วนตัวผมชอบแบรนด์ ดิออร์ ออมม์ อยู่แล้ว พอเห็นว่า ชิ้นนี้เป็นการหลอมรวมความเป็นแฟชั่นเข้ากับความเป็นสตรีทก็ยิ่งชอบ ผมซื้อจากที่ ดิออร์ ออมม์ เมืองไทยนี่แหละ ซึ่งอันนี้ถึงจะเป็นคอลเลกชั่นที่ 2 แต่ก็ค่อนข้างเป็นไอเท็มที่หายาก ผลิตออกมาไม่มาก เจาะตลาดนิชมากๆต้องเป็นคนที่ชอบสเกตบอร์ดและ ดิออร์ ออมม์ด้วย ซึ่งผมคือ หนึ่งในนั้น ตอนนี้ก็เอามาเป็นของตกแต่ง ตั้งโชว์ที่บ้าน”

ผ่านของรักของหวงมาครึ่งทางแล้ว มาถึงรองเท้าผ้าใบคู่ใจที่ไทรขนมาให้ได้ยลกัน 2 คู่ เริ่มจากรองเท้า Animal Pack 2.0 Nike Air Max 1 เป็นรุ่น Atmos Exclusive ผลิตขึ้นหลังจากเปิดร้านแอตมอส แบ็งค็อก (Atmos Bangkok) ได้ 2 สัปดาห์

“ทั่วโลกน่าจะมีอยู่ 3-5 หมื่นคู่ แต่เราได้มาขายที่ไทย 120 คู่ ส่วนคู่นี้ผมซื้อที่ญี่ปุ่นก่อนจะนำเข้ามา ผมชอบคู่นี้เพราะเทกเจอร์ของรองเท้าดูเหมือนเป็นขนสัตว์หลายๆ ชนิดมาประกอบกัน ทั้งยีราฟ ม้าลาย และเสือ ส่วนใหญ่เวลาผมได้รองเท้ามาใหม่ต่อให้เป็นรุ่นหายากผมก็ใส่นะ ใส่ลุยทุกคู่ ผมไม่ใช่แนวซื้อมาเก็บสะสมไว้ ตอนนี้ผมมีรองเท้าผ้าใบรวมๆ น่าจะประมาณ 80 คู่ มีทั้งรุ่นธรรมดาและรุ่นหายาก คละกันประมาณครึ่งๆ”

เปิดตัวด้วยการคัดรองเท้ารุ่นหายากมายั่วใจนักสะสมแล้ว ไทรขอเขย่าหัวใจนักสะสมอีกคู่ ด้วย Nike Air Max 1 ATMOS Elephant ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2007 แต่คู่ที่เอามาโชว์เป็นเวอร์ชั่นสองที่ทำออกมาวางจำหน่ายเมื่อปี 2017 ซึ่งไทรได้ครอบครองตอนที่รองเท้าคู่นี้มาเปิดตัวที่ญี่ปุ่น ซึ่งมีประมาณ 5 หมื่นคู่ทั่วโลกเท่านั้น

ชวนคุยพอเป็นน้ำจิ้มมาถึงตรงนี้ ไทรถือโอกาสหักมุมด้วยการอวดโฉมของรักแสนหวงที่เอาอะไรมาแรกก็ไม่ยอม นั่นคือ กองทัพ Secret Base’s “X-Ray MC Supersized” ของสะสมที่คนนอกวงการมองแล้วอาจเผลอหลุดปากเรียกว่า นี่มั่นโมเดลแมคโดนัลด์ชัดๆ

“จะเรียกว่าอย่างนั้นก็ได้ครับ” ไทรตอบด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “วันนี้ผมขนมาแค่ 15 ตัว จริงๆ ที่บ้านผมมีสะสมไว้ 60 กว่าตัว มีทั้งที่เป็นลิมิเต็ด เอดิชั่น ที่มีแค่ไม่เกิน 100 ชิ้นบนโลก บางตัวมีขายที่ญี่ปุ่น หรือนิวยอร์กเท่านั้น เท่าที่เริ่มสะสมมา 4 ปี ได้ขนาดนี้ก็ถือว่าไม่น้อยครับ ผมค่อยๆ สะสม เวลาเดินทางไปไหนก็ไปเดินหา บางครั้งเจอตัวที่คล้ายๆ ที่มีอยู่ ผมก็ยอมซื้อนะ แล้วค่อยกลับมาเทียบทีหลัง เพราะบางทีอาจจะมีจุดที่แตกต่างกันแค่เล็กน้อย อย่างน้อยซื้อมาก่อน ถ้าซ้ำค่อยมาขาย อย่างเมืองไทยเท่าที่รู้ก็มี มาริโอ้ เมาเร่อที่สะสมเหมือนกัน”

ถามว่าการจะได้เป็นเจ้าของลิมิเต็ด พีซแบบนี้ ต้องเป็นเจ้าบุญทุ่มขนาดไหน ไทรเฉลยแบบไม่กั๊กว่า ก็ต้องสู้ราคาในระดับหนึ่ง แต่ก็ต้องศึกษาข้อมูลด้วยว่าในอนาคตซื้อแล้ว ของชิ้นนี้มีแนวโน้มจะขึ้นมั้ย

“ถ้าขึ้นก็ซื้อ แต่ถ้าไม่ขึ้นมาก แถมราคาสูงแบบโอเวอร์เกินไปก็อาจจะไม่ซื้อ เพราะต้องบอกก่อนว่า ของทุกชิ้นที่ซื้อ ผมไม่ได้คิดว่าจะขาย แต่ซื้อเพราะความชอบ แต่ด้วยความชอบตั้งต้นนี่แหละ ทำให้ผมสนุกกับการค้นคว้า ศึกษาหาข้อมูล คอยอัพเดทตลอด ทำให้การสะสมของผมเหมือนเป็นการลงทุนไปในตัว ผมเองตื่นเช้ามาต้องเข้าไปดูเว็บที่เกี่ยวข้องกับของเล่นก่อนว่าวันนี้มีใครเอาอะไรมาขาย อย่างตอนนี้ผมเริ่มสนใจพวกวินเทจทอย สภาพอาจจะไม่ 100% แต่เสน่ห์ของมันก็อยู่ตรงนั้น ตอนนี้แหล่งเก็บของสะสมผมที่เป็นของเล่นอยู่ที่ออฟฟิศทั้งหมด เพราะเราใช้เวลาอยู่ตรงนั้นเยอะ”

อย่างไรก็ตาม สำหรับมือใหม่ที่คิดว่าอยากจะสะสมของเล่น เหมือนเป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง ไทรแนะนำว่า ก่อนอื่นให้มองหาดีไซเนอร์ของเล่นที่คิดว่าชอบสไตล์ก่อน จากนั้นจึงเริ่มสะสม อย่าใช้ราคาเป็นตัววัด เพราะอย่างน้อยถ้าซื้อจากความชอบ ในอนาคตต่อให้ราคาจะขึ้นหรือไม่ขึ้นก็ไม่ใช่ปัญหา ที่สำคัญอย่าซื้อโดยไม่มีความรู้เด็ดขาด

“ความสุขของผมในการสะสมของพวกนี้ คือ มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนอยู่อีกโลกที่มีเสน่ห์ ได้ใช้เวลาและความอดทนในการเก็บของแต่ละชิ้นที่มีเรื่องราวให้เรียนรู้ ที่สำคัญไม่ใช่มีเงินอย่างเดียวแล้วจะหาซื้อได้” ไทรทิ้งท้าย

กรมิษฐ์ ธนิสรธเนศ ของสะสมสุดรัก แสนหวง

กรมิษฐ์ ธนิสรธเนศ ของสะสมสุดรัก แสนหวง

กรมิษฐ์ ธนิสรธเนศ ของสะสมสุดรัก แสนหวง