posttoday

ปาณิสรา อารยะถาวร สาวน้อยหัวใจไม่แพ้

17 กุมภาพันธ์ 2562

ไม่แปลกหากคุณจะตัดสินสาวน้อยตากลมตรงหน้าเพียงผิวเผินว่าเธอเป็นสาวสวย มั่นใจ

ไม่แปลกหากคุณจะตัดสินสาวน้อยตากลมตรงหน้าเพียงผิวเผินว่าเธอเป็นสาวสวย มั่นใจ สมกับเป็นตัวแทนของเด็กรุ่นใหม่ แต่หากได้รู้จัก วัน-ปาณิสรา อารยะถาวร นิสิตชั้นปีที่ 3 คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลงไปอีกนิด คุณจะพบว่านอกจากใบหน้าที่สะสวยแล้วหัวใจของเธอยังสวยเหลือเกิน

เพราะหากไม่บอกอาจไม่รู้ ไม่สังเกตอาจไม่เห็นว่า ภายใต้รอยยิ้มแสนหวานนี้ แอบซ่อนหัวใจที่แข็งแกร่งของเด็กหญิงที่เกิดมาพร้อม “มือขวาผิดปกติตั้งแต่กำเนิด”

ฝันร้ายตั้งแต่ลืมตาดูโลก

ปาณิสรา อารยะถาวร สาวน้อยหัวใจไม่แพ้

วัน สาววัยใส พาย้อนวันวานถึงวินาทีที่ลืมตาดูโลกมาพร้อมความผิดปกติของร่างกายด้วยน้ำเสียงสดใสที่สะท้อนจากใจ หาได้เจือความเจ็บช้ำ หรือตัดพ้อต่อโชคชะตาแม้แต่น้อย

“วันเกิดมาโดยที่มือขวาไม่มีนิ้ว แต่มีเป็นตุ่มๆ ซึ่งวันและครอบครัวเรียกว่า ‘นิ้วน้อย’ พอคุณพ่อวันซึ่งเป็นหมอกระดูกรู้ว่าลูกเกิดมาพร้อมความผิดปกติ ก็ใช้วิธีผ่าเอากระดูกจากนิ้วนางเท้าซ้ายและนิ้วกลางจากเท้าขวามาต่อที่นิ้วมือให้ เลยเหมือนที่นิ้วมีติ่งเล็กๆ ออกมา แต่ก็ขยับไม่ได้ จนทุกวันนี้วันก็ยังไม่รู้นะว่าอาการผิดปกตินี้เกิดจากอะไร เพราะตอนท้องคุณแม่วันซึ่งเป็นสูตินรีแพทย์ก็ดูแลอย่างดี ตอนท้องคุณแม่ก็ไม่รู้ จนกระทั่งคลอดออกมา ซึ่งวันก็คลอดตามกำหนดไม่ได้มีปัญหา”

ในเวลานั้น ทารกน้อยยิ้มให้กับการเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างไร้เดียงสา กระทั่งเมื่อเริ่มจำความได้ โลกใบเดิมของเธอไม่ได้มีแต่คุณพ่อคุณแม่ และคนที่เข้าใจในสิ่งที่เธอเป็นอีกต่อไป แต่โลกใบใหม่ได้มอบประสบการณ์ชีวิตที่มีรสขมนิดๆ ให้เธอลิ้มลอง

“ตอนเด็กๆ วันก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองมีปมด้อย เพราะวันโชคดีที่คุณพ่อคุณแม่ก็ให้ความรัก เลี้ยงดูอย่างดีไม่ได้ปิดบังหรือแอบซ่อน ท่านเลี้ยงวันเหมือนเป็นเด็กปกติ จนกระทั่งเข้าโรงเรียน ก็มีโดนเพื่อนล้อบ้างว่ามือกุด ตอนแรกวันก็เสียใจนะ กลับมาบ้านร้องไห้ แต่คุณแม่ก็ปลอบว่า สิ่งที่วันเป็นไม่ใช่เรื่องน่าอาย วันไม่ได้ทำอะไรผิด วันไม่ได้ทำให้ตัวเองหรือคนรอบข้างเดือดร้อน ที่สำคัญมือน้อยของวันก็ยังทำอะไรได้หลายอย่าง สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่สอนวันตลอด คือ อย่าไปโกรธเพื่อนที่เขาถามก็เพราะเขาสงสัย ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ พอโตขึ้นก็ไม่มีใครล้อหรือสงสัยอีก”

นอกจากคุณพ่อคุณแม่จะมีบทบาทสำคัญในการสร้างเกราะกำบังจิตใจที่เข้มแข็งให้ลูกสาวคนโตของครอบครัวแล้ว วันเองก็สร้างกำลังใจที่เข้มแข็งให้ตัวเองตั้งแต่เด็ก

“วันคิดเสมอว่า เราก็คือเรา เราไม่จำเป็นต้องแอบซ่อน เราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะเป็นได้ วันพยายามพัฒนาตัวเอง เพื่อจะเป็นทุกอย่างที่อยากเป็น อย่างสมัยเด็กมีวิชาการงานอาชีพ แล้วต้องตอกตะปู ตอนแรกวันก็ทำไม่ได้ ก็มีงอแงว่าทำไมทำไม่ได้ แต่วันก็พยายามฝึกจนในที่สุดก็ทำได้ หรืออย่างกินข้าว วันก็ฝึกจนจับช้อนส้อมได้ถนัดทั้งมือซ้าย-ขวา ยกดัมบ์เบลก็ได้ แรกๆ อาจจะมีทรงตัวลำบาก แต่วันก็ค่อยๆ ฝึก ทำบ่อยๆ ก็ทำได้

วันบอกตัวเองเสมอว่า ไม่ว่าอะไรเป็นข้อจำกัดก็แล้วแต่ เราแค่ยอมรับและพัฒนาให้เราเป็นเราที่ดีขึ้น อย่าให้ข้อจำกัดเล็กๆ กลายเป็นขีดจำกัดของชีวิต วันอาจจะใช้มือขวาเขียนหนังสือได้ไม่ดี เขียนแล้วอ่านได้ไม่รู้เรื่อง วันก็แค่หาตัวช่วยอื่น ด้วยการฝึกมือซ้ายในการเขียนแทน ขณะเดียวกันวันยังว่ายน้ำ ตีแบดได้ สุดท้ายก็ย้อนกลับมาที่ว่าวันโชคดีที่คุณพ่อคุณแม่สนับสนุน อยากทำอะไร ก็หาทางช่วย ไม่ใช่แค่ให้เงินไปเรียน แต่ให้เวลา เป็นกำลังใจ รวมทั้งคนรอบข้างวัน สมัยเด็กวันอยากเป็นดรัมเมเยอร์ คุณครูและเพื่อนๆ ก็ช่วย จนได้เป็น ต่อให้ต้องถือไม้ดรัมเมเยอร์ด้วยมือซ้ายแทนก็ไม่เป็นไร”

ไม่มีคำว่า“เป็นไปไม่ได้” ในพจนานุกรมชีวิต

ปาณิสรา อารยะถาวร สาวน้อยหัวใจไม่แพ้

ฟังเสียงใสๆ ของวันที่ค่อยๆ ถ่ายทอดเรื่องราวพร้อมใบหน้าเปื้อนยิ้ม นอกจากจะทำให้ชุ่มชื้นหัวใจแล้ว ยังอดปรบมือให้ความมุ่งมั่นของสาวเก่งไม่ได้ เพราะตั้งแต่เล็ก เธอไม่เพียงเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียนให้คุณพ่อคุณแม่ภาคภูมิใจ แต่ยังเป็นนักกิจกรรมตัวยง

“วันฝันอยากเป็นผู้พิพากษามาตั้งแต่เด็ก เพราะครั้งหนึ่งเคยมีโอกาสติดตามคุณพ่อไปศาล แล้วเกิดแรงบันดาลใจว่าอยากทำหน้าที่ตรงนั้น วันจึงเลือกเรียนกฎหมาย เพราะคิดว่ากฎหมายเป็นเรื่องใกล้ตัว การทำหน้าที่ผู้พิพากษาทำให้เราได้ช่วยใครหลายๆ คน ทั้งคนถูกและคนผิด ซึ่งเขาจะได้เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายเพื่อกลับมาเป็นคนดีอีกครั้ง ตั้งแต่เด็กเวลามีใครถามว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร วันจะตอบว่า อยากเป็นผู้พิพากษา ถึงส่วนตัววันจะเอนมาทางสายคณิตศาสตร์ เคยเป็นตัวแทนประเทศไปแข่งคณิตศาสตร์หลายรายการก็ตาม เพราะสำหรับวันเวลาทำข้อสอบกฎหมาย ก็เหมือนทำโจทย์เลข ได้แก้ไปทีละขั้น”

ตั้งแต่เด็กวันถือเป็นเด็กหัวแถว เรียนดี สอบได้ที่ 1 มาตั้งแต่สมัยเรียนโรงเรียนอนุบาลนครสวรรค์ได้รับคัดเลือกเป็นผู้แทนนักเรียนไทยไปแข่งขันคณิตศาสตร์นานาชาติ Wizard at Mathematics International Competition (WIZMIC 2009) ณ ประเทศอินเดีย ได้รับรางวัลเหรียญทองแดงประเภทบุคคล และรางวัลเหรียญเงิน ประเภททีม และยังได้รับคัดเลือกเป็นผู้แทนนักเรียนไทยไปแข่งขันคณิตศาสตร์ ในการแข่งขันคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ International Mathematics and Science Olympiad For Primary School 2010(IMSO 2010) ณ ประเทศอินโดนีเซีย ได้รับรางวัลเหรียญเงิน

พอขึ้นมัธยมต้น เธอสามารถทำคะแนนสอบได้เป็นอันดับ 1 ของโรงเรียนนครสวรรค์ ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจังหวัด โดยเข้าเรียนในห้องโครงการดาวรุ่งมุ่งโอลิมปิก ได้รับรางวัลเหรียญทอง ชนะเลิศ กิจกรรมอัจฉริยภาพทางด้านคณิตศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ภาคเหนือ ครั้งที่ 62 ปีการศึกษา 2555 รางวัลเกียรติบัตรเหรียญทอง ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น การแข่งขันความสามารถทางด้านคณิตศาสตร์ ชิงถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งที่ 10 ปีการศึกษา 2555 และรางวัลเหรียญทอง ระดับประเทศ การแข่งขันชิงแชมป์การคิดและแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ ครั้งที่ 13 มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น

“ช่วงมัธยมนอกจากจะได้รับเลือกเป็นประธานนักเรียน วันยังได้เข้าแข่งขันหลายรายการ สำหรับวันผลแพ้หรือชนะ ไม่สำคัญเท่ากับการที่ได้มีโอกาสพัฒนาตัวเองในทุกรอบการแข่งขัน รู้สึกว่าตัวเองเติบโตขึ้นในทุกการแข่งขัน คุณพ่อกับคุณแม่สอนเสมอว่า อย่าประมาท ตอนเตรียมตัวไม่ว่าจะทำอะไรเราตั้งใจตอนเตรียมตัวทำให้ดีที่สุด ถ้าเราเตรียมพร้อม เมื่อถึงเวลาลงมือทำ ก็ไม่ต้องเครียด กดดันตัวเอง แค่เป็นตัวของตัวเอง ทำให้ดีที่สุด แล้วเราจะไม่เสียใจทีหลัง ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรก็ภูมิใจ”

ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเข้ามหาวิทยาลัย วันสอบเข้าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา สายการเรียนวิทย์-คณิต โดยเธออยู่ในโครงการพัฒนาศักยภาพทางด้านคณิตศาสตร์ (GIFTED MATH) และยังเดินสายกิจกรรมด้วยการเป็น 1 ใน 5 Speech Freshy ผู้นำวาทีแห่งเตรียมอุดมศึกษา รุ่นที่ 11 เป็นคณะกรรมการนักเรียน และยังรับหน้าที่เป็นพิธีกรในงานต่างๆ ของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา

ก้าวสู่โลกอีกใบในรั้วมหาวิทยาลัย

ปาณิสรา อารยะถาวร สาวน้อยหัวใจไม่แพ้

ชีวิตสมัยวัยใสว่าสนุกครบรสแล้ว เมื่อเข้ามหาวิทยาลัย วันก็ยังคงมุ่งมั่นทั้งเรื่องเรียนและกิจกรรมไปควบคู่กันตั้งแต่เป็นเฟรชชี่ เธอได้รับคัดเลือกเข้าร่วมทีมโต้วาทีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และได้รับรางวัลชนะเลิศ ระดับประเทศ การแข่งขันโต้วาทีอุดมศึกษา ชิงโล่พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งที่ 23 นอกจากนี้ยังเป็น MC of CHULA ภาคพิธีการ รุ่นที่ 3 รับหน้าที่พิธีกรในงานต่างๆ ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เช่น พิธีปฐมนิเทศและถวายสัตย์ปฏิญาณตนเข้าเป็นนิสิตใหม่ งานปิยมหาราชาภิสดุดี เนื่องในวันปิยมหาราช งานสยามานุสสติ เนื่องในวันมหาธีรราชเจ้า งานรับน้องก้าวใหม่ที่ฐานรับขวัญณ ศาลาพระเกี้ยว งานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 72 ณ กิจกรรมลาน MBK, พิธีกรการแสดงดนตรี เนื่องในวันแม่แห่งชาติ งานรับขวัญนิสิตใหม่ พิธีเปิดและปิด CU freshy games2018 ฯลฯ

ล่าสุด เธอได้รับเลือกให้เป็นกลุ่มผู้อัญเชิญพระเกี้ยวแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประจำงานฟุตบอลประเพณีธรรมศาสตร์-จุฬาฯ ครั้งที่ 73 โดยเธอได้รับตำแหน่งผู้อัญเชิญพระเกี้ยว

“ถามว่าใครมาสมัครได้บ้าง จริงๆ เวทีนี้เปิดกว้างสำหรับนิสิตทุกคน มาเข้าสู่กระบวนการคัดเลือก ตอนที่มาสมัคร วันไม่ได้คิดว่า เพราะร่างกายเราเป็นแบบนี้ จะเป็นข้อจำกัดไม่ให้เราทำ วันนั้น วันไม่รู้หรอกว่าปลายทางเป็นข้อจำกัดไหม แต่อย่างที่บอกว่าวันทำทุกอย่างเต็มที่ ถ้าผิดหวัง วันก็แค่ลุกขึ้นมาใหม่ วันไม่เคยเจออะไรที่ทำไม่ได้ แล้วรู้สึกเศร้า หรืออาจจะเคยเจอ แต่ลืมไปแล้ว (หัวเราะ) วันว่าทุกประสบการณ์ที่เราเจอ มันทำให้เราเติบโตขึ้น อย่างตอนมาคัดเลือกเป็นกลุ่มผู้อัญเชิญพระเกี้ยว ถ้าสุดท้ายเพราะสิ่งที่วันเป็นมีผลให้วันไม่ได้ไปต่อ วันยอมรับการตัดสินของกรรมการ วันแค่เตรียมตัวและทำทุกรอบคัดเลือกอย่างเป็นตัวของตัวเอง ไม่ว่าจะตัดด้วยเหตุผลอะไรก็ยอมรับได้ ถ้ามือขวาของวันจำเป็นจริงๆ ก็รับได้ เพราะมือขวาก็คือตัววัน

สาวสวยพลังบวกล้น ยังถือโอกาสใช้พื้นที่ตรงนี้ ขอบคุณทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ที่เคียงข้างเธอมาตลอด ไม่เคยทำให้เธอรู้สึกแย่กับสิ่งที่เป็นเลยสักครั้ง

ปาณิสรา อารยะถาวร สาวน้อยหัวใจไม่แพ้

“ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ที่เลี้ยงวันอย่างดี ขอบคุณอาจารย์ตั้งแต่เด็ก เพื่อนๆ ทุกคน ทำให้วันเป็นวันในวันนี้ ทุกคนไม่เคยมองว่าวันต่างจากคนอื่น ขอบคุณทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต อย่างการเป็นกลุ่มผู้อัญเชิญพระเกี้ยว วันซึ้งใจทุกคน โดยเฉพาะตอนที่รู้ว่าตอนที่จะถ่ายรูปรวม ทุกคนจะเปลี่ยนท่าโพสมาเป็นใช้มือซ้ายทับมือขวา ซึ่งต่างจากปีก่อนๆ ที่ทุกคนจะยืนมือขวาทับซ้าย จริงๆ วันไม่ติดเลยต่อให้ใช้มือขวาทับซ้าย วันก็ไม่อาย แต่พี่ๆ เขาคิดเผื่อเรา ซึ่งแม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่มีความหมายเหลือเกิน” วันกล่าวด้วยดวงตาเป็นประกาย

นิสิตคนเก่งยังทิ้งท้ายด้วยการส่งต่อพลังบวกให้กับทุกคนที่กำลังมองหาแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตว่า วันไม่อยากให้หลายคนปิดกั้นตัวเอง แต่จงเลือกที่จะให้โอกาสตัวเอง

“ตั้งแต่เด็กวันบอกตัวเองเสมอว่า ขอบคุณที่วันเป็นวันในวันนี้ วันไม่รู้หรอกว่า เราคิดแบบนี้เพื่อเป็นการให้กำลังใจ หรือเข้าข้างตัวเองไปมั้ย แต่อย่างน้อยถ้าวันนั้นเราเกิดมาเหมือนคนอื่น แต่เราอาจจะไม่ได้เป็นลูกคุณพ่อคุณแม่ วันก็คงเลือกที่จะเป็นแบบนี้ ซึ่งวันยังสามารถทำกิจกรรมได้หลายอย่าง วันดีใจที่เกิดเป็นวัน ไม่ได้อยากมีครบ สำหรับวันตอนนี้ก็ดีที่สุดแล้ว” วันทิ้งท้าย