posttoday

พัชรี แซ่พุ้น ทุกความสุขความสำเร็จ...สร้างได้

12 กุมภาพันธ์ 2562

ผู้บริหารการขายมากความสามารถ บุคลิกหลากหลาย หากในมิติที่ชัดเจนที่สุดคือความเข้มแข็งเด็ดเดี่ยว

เรื่อง วันพรรษา อภิรัฐนานนท์ ภาพ อมรเทพ โชติเฉลิมพงษ์

ผู้บริหารการขายมากความสามารถ บุคลิกหลากหลาย หากในมิติที่ชัดเจนที่สุดคือความเข้มแข็งเด็ดเดี่ยว เธอเป็นหญิงสง่างามที่ฉายชัดถึงความมั่นใจ พัชรี แซ่พุ้น ผู้บริหารการขายลูกค้าบุคคลธนกิจ สาขาหลังสวน ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย วัย 37 ปี กับตำแหน่งสุดยอดนักขาย ผู้กวาดรางวัลท็อปเซลส์ทั้งในประเทศและระดับภูมิภาค

ทำความรู้จักกับพัชรีผ่านรางวัลของเธอไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะสาวสวยคนเก่งคว้ารางวัลมาแล้วมากมาย ล่าสุดกับรางวัลใหญ่ 2 ปีซ้อน Principal International Asia Sales 2017 และ 2018 ที่กรุงไทเปและนครโฮจิมินห์ ตามลำดับ

ขณะที่ปี 2016 รับรางวัลยอดขายเบี้ยประกันภัย OL สูงสุดอันดับ 1 จากงาน Bancassurance Award 2016 จัดโดยธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย และ Top Preferred Banking Team Head 2016 ถัดมาในปี 2017 ได้รับรางวัล Regional CEO’s Challenge จัดโดย CIMB Group ที่ลังกาวี ประเทศมาเลเซีย

เดินทางมาถึงจุดนี้ อะไรหนอที่ผลักดันหญิงแกร่ง...

พัชรี เล่าถึงตัวเองว่า เป็นชาวฝั่งธนบุรี เกิดเติบโตและเรียนหนังสือจากย่านเมืองเก่า ครอบครัวของเธอเป็น “ตึ่งหนั่งเกี้ย” หรือครอบครัวชาวไทยเชื้อสายจีน พ่อซึ่งพัชรีผูกพันมากได้จากไปตั้งแต่พัชรียังเรียนหนังสือไม่จบ เธอเป็นลูกคนที่ 5 จากทั้งหมด 6 คน นิสัยหาเงินเก่งขายของเก่งมีมาตั้งแต่เด็ก ส่วนหนึ่งอาจซึมซับมาจากพ่อ เพราะตั้งแต่จำความได้ ก็เห็นพ่อขยันทำงาน ทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว

หญิงสาวจบปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจ สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต และจบปริญญาโท คณะการตลาด มหาวิทยาลัยรังสิต เริ่มทำงานตั้งแต่ยังเรียนหนังสือไม่จบ หัวไวแต่สมาธิสั้น ขณะที่เรียนได้เป็นตัวแทนกลุ่มทำหน้าที่นำเสนอโครงงานต่างๆ เสมอ

“เรียนหนังสือแบบไม่ตั้งใจ แต่ทำได้ดี อาศัยว่าหัวไว ก็ขายไอเดีย ขายวิธีคิด ใช้ความเร็วเป็นกลยุทธ์ สนุกกับการเป็นตัวแทนกลุ่ม ทำคะแนนและสู้เพื่อกลุ่ม กระทั่งเรื่องกิจกรรมหรือกีฬา ก็เป็นทั้งประธานกีฬาสี และประธานนักเรียนในเวลาเดียวกัน”

การศึกษาสำหรับพัชรีแล้ว เธอมองว่า คือพื้นฐานสำหรับการไปต่อ เรื่องของอนาคตคิดไว้ตั้งแต่เด็กว่า ต้องการทำงานที่ท้าทาย ในวัยกำลังศึกษาก็เปิดหูเปิดตาไว้ คิดกับตัวเองว่า ถ้าวันหนึ่งรู้ชัดว่าอยากทำอะไรก็จะหาทางเรียนรู้เอา เพราะทุกอย่างเรียนรู้ใหม่ได้หมด เริ่มต้นใหม่ได้เสมอถ้าต้องการ

เส้นทางนักขายมือทองเริ่มต้นตั้งแต่สมัยเรียน เพื่อนซึ่งไปขายบัตรเครดิตให้กับธนาคารแห่งหนึ่งได้ชักชวนเธอให้ลองไปขายสนุกๆ ด้วยกัน ทำอยู่ไม่ถึงหกเดือนดี พัชรีก็ทำยอดได้ตามเป้าและทะลุเป้าไปหลายขุม จนสถาบันการเงินต้นสังกัดออกปากขอให้รับตำแหน่งงานประจำ โดยขณะนั้นเพียงขายบัตรเครดิต 3 วัน/สัปดาห์ ก็ได้เงินเดือนกว่า 2.5 หมื่นบาทแล้ว ถือว่าสูงมากสำหรับนักศึกษาที่ยังเรียนปี 4 ไม่จบ

“ชอบงานขายมาก ดิฉันขายได้ทุกอย่าง จะพูดว่าขายทุกอย่างในโลกนี้ก็ได้ ท้าทายตัวเอง และสนุกกับการทำแบบนั้น”

บางครั้งใช้วิธีรับคำท้าของตัวเอง สิ่งใดอะไรขายง่ายจะไม่ทำ ขอทำและขอขายแต่ผลิตภัณฑ์ที่ทำยอดได้ยาก ยิ่งการขายทำได้ลำบากยากแค้นเพียงไหน พัชรีก็ยิ่งสนุกกับเป้าหมายและการไปให้ถึงเป้าหมายของตัวเองเท่านั้น ถามว่าชอบอะไรในการขายนักหนาหรือ ตอบว่า “ฟีลลิ่ง” ชอบความรู้สึกของการเป็นนักขายนั่นเอง

วลี “มันเป็นไปไม่ได้หรอก” ถูกใช้เป็นเงื่อนไขในการรับงานของพัชรี บางที “ลูกทีม” ไปคุยมาแล้ว-ไม่ได้ พัชรีตะครุบเดี๋ยวนั้น อะไรที่เป็นไปไม่ได้ นั่นละคือสิ่งที่เธอจะทำ เวลาได้ไปคุยกับลูกค้า “ยากๆ” จะรู้สึกรีแลกซ์หรือผ่อนคลายอย่างประหลาด แน่นอนที่เธอต้องวางแผนให้เหมาะสมกับลูกค้าและงัดใช้กลยุทธ์ที่ออกแบบมาอย่างพิเศษสำหรับลูกค้าแต่ละราย

ทุกดีลที่สำเร็จลงได้คือของหวาน เคล็ดลับความสำเร็จ คือการคิดแบบใหม่ๆ แก้ไขที่ตัวเอง และการไม่ยอมให้ตัวเองคิดแบบเดิมหรืออยู่ที่เดิมนานๆ ก่อนหน้านี้พัชรีเป็นนักขายระดับบริหารของสถาบันการเงินมีชื่อหลายแห่ง ตั้งแต่ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ ธนาคารยูโอบี

“ดิฉันชอบเอาชนะ ถ้าไม่ชนะจะคิดหาหนทาง วิธีนี้นำมาใช้และปลุกปลอบลูกทีมในทีมด้วย นั่นเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมทีมเราถึงแข็งแกร่ง รางวัลมากมายที่ได้รับ นำมาซึ่งความภูมิใจ หากความสุขความดีใจ ภาคภูมิใจที่สุดนั้น เกิดขึ้นอย่างเต็มที่แล้วตั้งแต่ตอนที่ขายได้”

นอกจากชัยชนะที่เป็นของชอบ พัชรีกล่าวถึงตัวเองว่า หากให้อธิบายก็เห็นจะเป็นความชอบในอิสระ เธอทำงานไม่ได้ หากเจ้านายไม่มีสิ่งนี้ให้ ความสุขในการทำงานคือการตอบโจทย์ความรักความเมตตาในชีวิต ทั้งจากหุ้นส่วนทีมงาน ลูกค้าผู้มีพระคุณ และที่สำคัญก็คือความเข้าอกเข้าใจจากผู้บังคับบัญชา

พัชรี แซ่พุ้น ทุกความสุขความสำเร็จ...สร้างได้

“เจ้านายของดิฉันคนหนึ่ง เคยกล่าวถึงดิฉันไว้ว่าเหมือนม้าพยศ เป็นม้าพยศตัวหนึ่ง เป็นม้าดี เป็นม้าเก่ง แต่ต้องรู้จักวิธีกุมบังเหียน ต้องรู้ธรรมชาติของม้าตัวนี้ คือต้องให้เรามีอิสระ ต้องให้พื้นที่ให้เราวิ่ง ต้องให้คนเก่งกับเรา และต้องพร้อมที่จะแก้ปัญหาให้เรา”

ความสามารถในการขายตีเป็นมูลค่าได้หรือไม่ พัชรีตอบว่า ความมีค่าของเรา คนจะเห็นเอง และไม่ได้เห็นจากมูลค่าราคาของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ขายได้เพียงอย่างเดียว แต่เห็นได้จากความซื่อสัตย์และความทะเยอทะยาน ความอยากไปต่อ ทุกวันนี้ความสุขความสำเร็จในชีวิตถือว่าสร้างได้ด้วยตัวเองหมด ทั้งเงินทองของมีค่า แต่ทั้งหมดตั้งอยู่บนพื้นฐานของความกตัญญู

“ดิฉันเติบโตจากความกตัญญู เติบโตมาได้ทุกวันนี้จากลูกค้าและเจ้านายทุกคน นี่คือชีวิตและการทำงานของเราที่จะไม่ทำร้ายผู้มีพระคุณ”

ปัจจุบันใช้ชีวิตเดี่ยวๆ คนเดียว สาวสวยคนเก่งตอบว่า สนุกกับชีวิตโสดที่ยังไม่มีพันธะ ไม่ต้องแบกภาระหรือความรับผิดชอบใดๆ รู้สึกดีมากกับสถานะและความพร้อมของตัวเอง ที่พร้อมสำหรับทุกอย่างหรืออะไรก็ตามที่จะเข้ามา ชีวิตไม่มีอะไรต้องห่วง ไม่มีใครให้ต้องคิดถึง ปลดล็อกตัวเองจากพันธะความผูกพันใดใด

“โนลูก โนสามี ดิฉันไม่ได้แรง แต่มันคือความชัดเจน สักวันหนึ่งเคยคิดเหมือนกันว่าคงจะมีลูก อาจทำกิฟต์ ทำเด็กหลอดแก้ว ข้ามเรื่องแต่งงานไปมีลูกเลย”

เหนื่อย กดดันแต่มีความสุข นี่คือคำจำกัดความที่พัชรีให้กับตัวเอง สำหรับธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ดีใจที่ได้อยู่ที่นี่ ก็เพราะที่นี่ให้สิ่งที่เป็นธรรมชาติของเธอแก่เธอ ตั้งแต่ความรัก ความเข้าใจ ความเป็นตัวของตัวเอง ความสุขความเป็นอิสระ รวมทั้งแนวทางการทำงานที่เกื้อหนุนให้บุกจับขยายในทุกงานทุกผลิตภัณฑ์ในมือ

“ต้องขายต้องลุย สู้และบุกไปข้างหน้าพร้อมกับซีไอเอ็มบี ไทย พร้อมกับแบ็กอัพชั้นเลิศ ในชีวิตของเรา จะมีโอกาสอย่างนี้สักกี่ครั้ง อนาคตอยากผลักดันทีมให้พวกเขาเป็นเหมือนดิฉัน เป็นนักสู้พันธุ์เดียวกัน ที่ใช้ชีวิตเต็มที่ และเติมเต็มตัวเองด้วยเป้าหมายที่สูงสุด”