posttoday

ฟื้นฟูภูมิคุ้มกันให้กลับมากันเถอะ

12 กุมภาพันธ์ 2562

ช่วงนี้คนป่วยเป็นจำนวนมากจากสภาพอากาศที่ไม่ปกติ โดยเฉพาะผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องอยู่แล้ว

เรื่อง บีเซลบับ ภาพ คลังภาพโพสต์ทูเดย์

ช่วงนี้คนป่วยเป็นจำนวนมากจากสภาพอากาศที่ไม่ปกติ โดยเฉพาะผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องอยู่แล้ว มองไปทางใดจึงได้พบได้เห็นผู้คนที่มีปัญหาเรื่องระบบภูมิคุ้มกันที่หนักหนาสาหัสแตกต่างกันไป โอ้ ไม่นะ ถ้าภูมิคุ้มกันลดต่ำลง ระบบตรวจจับความผิดปกติของเซลล์ก็บกพร่องตามไปด้วย ส่งผลให้เซลล์ผิดปกติรอดมาได้และขยายจำนวนมากขึ้นไปเรื่อยๆ ภูมิคุ้มกันร่างกายต้องแข็งแรง เพื่อหน้าที่กำจัดเซลล์ผิดปกติออกไป เอาล่ะ ลองมาหาวิธีเพื่อฟื้นฟูภูมิคุ้มกันให้กลับคืนมากันดีกว่า

1.อย่ากินของที่ไม่มีในธรรมชาติ

ของกินที่ผ่านกระบวนการผลิตต่างๆ เป็นตัวทำลายระบบภูมิคุ้มกัน โดยการใช้ชีวิตทุกวันนี้เต็มไปด้วยสิ่งผิดธรรมชาติ ที่คอยทำลายภูมิคุ้มกันให้ต่ำลง นอกเหนือจากอาหารผ่านกระบวนการผลิตต่างๆ แล้วยังมีน้ำตาล โดยเฉพาะน้ำตาลแปรรูปที่ขัดจนขาว น้ำตาลเหล่านี้แฝงอยู่ในกาแฟสำเร็จรูป เครื่องดื่มบรรจุกระป๋อง น้ำอัดลม เบเกอรี่และขนมต่างๆ

นอกจากนี้ยังมีสารสังเคราะห์อีกมากมาย ได้แก่ สารกันบูด สารเคมีในระบบเกษตรกรรม ที่ต้องระวังด้วย

2.อย่าปล่อยให้ (ท้อง) อิ่มอยู่ตลอดเวลา

เมื่อร่างกายได้รับคาร์โบไฮเดรต ซึ่งเปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้น้อยลง ระบบต่างๆ ก็ถูกกระตุ้นให้กลับมาทำงานได้ดีขึ้น การกินให้ท้องอิ่มอยู่ตลอดเวลา ซึ่งทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงคงที่เป็นผลเสีย ไม่ต่างจากการกินแบบไม่บันยะบันยังตอนท้องว่าง ที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

3.เคี้ยวของแข็งให้มากๆ

เวลารับประทานอาหาร

การเคี้ยวอาหารไม่ใช่กระบวนการบดอาหารให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเท่านั้น หากสมองกำลังทำงานอีกหลายส่วนควบคู่ไปด้วย ได้แก่การส่งสัญญาณไปยังอวัยวะในระบบย่อยและดูดซึมอาหาร เช่น กระเพาะอาหาร และตับอ่อน ให้รู้ว่าอาหารกำลังมา ศูนย์ควบคุมความอิ่มในสมองจะเริ่มส่งสัญญาณ หากเราเคี้ยวน้อยหรือเร็วเกินไป สัญญาณนี้จะส่งออกมาช้า ทำให้เราไม่หยุดทั้งที่อิ่มแล้ว

อาหารที่โฆษณาว่านุ่มจนแทบละลายในปาก จึงไม่ส่งผลดีต่อร่างกายเลย หากเป็นไปได้เลือกรับประทานอาหารที่ค่อนข้างแข็ง หรือมีเนื้อหยาบ จะฟื้นฟูภูมิคุ้มกันได้ดีกว่า เช่น ถั่ว ผักที่มีเส้นใยสูง เนื้อแดง และปลาตัวเล็กตัวน้อย

4.กินสาหร่ายเพื่อรักษาสมดุล

ของจุลินทรีย์ในลำไส้

อาหารชั้นดีของจุลินทรีย์ในลำไส้ คือเส้นใยอาหารที่ละลายน้ำได้ พบมากในสาหร่ายต่างๆ หัวบุก วุ้นที่ทำจากสาหร่ายแดง เป็นต้น หากต้องการรักษาสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ต้องบริโภคอาหารเหล่านี้ให้เพียงพอ ส่วนการรับประทานอาหารที่มีเส้นใยไม่ละลายน้ำเองก็จำเป็นไม่น้อยกว่ากัน เพราะช่วยเพิ่มปริมาณอุจจาระซึ่งจำเป็นต่อการกำจัดของเสียในร่างกาย

5.จัดห้องนอนให้เหมาะกับ

การนอนหลับที่มีคุณภาพ

การสร้างบรรยากาศที่ส่งเสริมให้การนอนมีคุณภาพ เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องใส่ใจอย่างมาก การเตรียมห้องนอนเพื่อฟื้นฟูภูมิคุ้มกันนั้นอย่างไร ห้องนอนต้องสะอาด เครื่องนอนสะอาดและหอมละมุน ไร้เสียงรบกวน มีอากาศถ่ายเทบริสุทธิ์ (เอิ่ม)

การปรับปรุงห้องนอน เริ่มจากการสำรวจห้องนอนของตัวเองว่ามีจุดไหนที่ต้องปรับปรุงบ้าง จดบันทึกไว้และค่อยๆ ปรับไปทีละน้อย อาจเริ่มจากการทำความสะอาดก่อน ทำไปทีละน้อยแต่ต้องทำทุกวัน จนได้ห้องนอนที่เหมาะสมกับการนอนหลับที่สามารถ “บูสต์” พลังภูมิคุ้มกัน

6.การออกกำลังกายที่เหมาะสม

ไม่มีอะไรที่ดีไปกว่าการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับตัวเอง ซึ่งจะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันร่างกายให้ค่อยๆ กลับมาเป็นปกติ อาจเริ่มจากการยืดกล้ามเนื้อ ยืดแขนซ้ายออกมา พาดไปด้านขวา และพับแขนขวาดันตรงศอกซ้ายเอาไว้ ไม่ต้องออกแรงต้าน หายใจออกช้าๆ พร้อมกับดึงแขนขวาเข้าหาตัว สูดหายใจเข้าพร้อมกับปล่อยกลับที่เดิม ให้สังเกตว่าข้อต่อต้นแขนซ้ายถูกยืดออก ทำสลับข้างกัน

บางคนใช้โยคะเพื่อการออกกำลัง ก็ใช้ได้และดีมากๆ ทั้งนี้ การฝึกโยคะที่ดี พึงต้องมีท่าทางที่สอดคล้องกับลมหายใจ การหายใจเข้า-ออกให้ลึกพอจะช่วยกระตุ้นระบบประสาทพาราซิมพาเทติกได้ ทำให้ร่างกายและจิตใจเข้าสู่ภาวะสงบ ซึ่งช่วยให้คุณภาพของภูมิคุ้มกันดีขึ้น n

ข้อมูล : สุดยอดวิธีกินดีไม่มีป่วย

สำนักพิมพ์ : อมรินทร์สุขภาพ