posttoday

วรนันท์ จันทรัศมี สวย+เก่ง ครบสูตรผู้บริหารยุคใหม่

22 มกราคม 2562

แม้จะเพิ่งเปลี่ยนสถานะจากสาวโสด มาเริ่มต้นชีวิตครอบครัวไปหมาดๆ สำหรับ จุ้มจิ้ม-วรนันท์ จันทรัศมี ทายาทเจ้าของศูนย์การค้าไดอาน่า หาดใหญ่

เรื่อง พุสดี สิริวัชระเมตตา ภาพ วิศิษฐ์ แถมเงิน

แม้จะเพิ่งเปลี่ยนสถานะจากสาวโสด มาเริ่มต้นชีวิตครอบครัวไปหมาดๆ สำหรับ จุ้มจิ้ม-วรนันท์ จันทรัศมี ทายาทเจ้าของศูนย์การค้าไดอาน่า หาดใหญ่ ในเครือพิธานกรุ๊ป และนักแสดงที่มีผลงานแจ้งเกิดในวงการบันเทิงมากมาย แต่ผู้บริหารสาวเก่งยังคงคอนเซ็ปต์เวิร์กกิ้งวูแมนคนเก่งได้อย่างไม่มีตกหล่น ถึงจะต้องเดินทางกรุงเทพฯ-หาดใหญ่เป็นว่าเล่นก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะถือว่าได้ทำงานที่รัก และสานต่อธุรกิจที่ผูกพันมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งตัวเธอเองหมายมั่นปั้นมือจะต้องกลับมาเพื่อพัฒนาธุรกิจนี้ให้ยั่งยืนตั้งแต่ไหนแต่ไร

“งานหลักของจุ้มจิ้มตอนนี้คือ เข้ามาช่วยบริหารศูนย์การค้าไดอาน่า หาดใหญ่ ซึ่งเป็นธุรกิจที่คุณพ่อแตกไลน์ออกมาจากเครือพิธานกรุ๊ป ซึ่งเป็นธุรกิจจำหน่ายรถยนต์ รถจักรยานยนต์รายใหญ่ครอบคลุมหลายจังหวัดทางภาคใต้ นอกจากศูนย์การค้าไดอาน่า หาดใหญ่ ซึ่งถือเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่แห่งแรกของหาดใหญ่ ที่ยืนหยัดมากว่า 30 ปี เรายังมีซูเปอร์มาร์เก็ตแบบสแตนด์อะโลนอีก 4 สาขา ที่สงขลา ปัตตานี (2 แห่ง) และนราธิวาส ซึ่งจะเปิดต้นปีหน้า

จุ้มจิ้มเกิดและโตที่หาดใหญ่ เรียนจบคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่เลือกเรียนสายนี้ เพราะคุณพ่อล้างสมองมาตั้งแต่เด็กว่า เป็นลูกสาวคนโต ต้องกลับมาสืบทอดธุรกิจครอบครัว (ยิ้ม) เราเองแต่ก่อนก็เคยคิดแบบเด็กๆ ว่าโตขึ้นอยากเป็นนางสาวไทย อยากเป็นแอร์โฮสเตส แต่พอโตขึ้นก็คิดมาตลอดว่า วันหนึ่งต้องกลับมาบริหารธุรกิจของครอบครัว จนเหมือนความคิดนี้ถูกบันทึกลงสมองไปแล้ว ทำให้เราไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง

นอกจากนี้ คุณพ่อยังให้มาฝึกงานที่ห้างตลอด แคชเชียร์ก็เป็นมาแล้ว ดังนั้นพอจะเรียนต่อมหาวิทยาลัยก็คิดว่าน่าจะเลือกเรียนในสายที่ตอบโจทย์กับธุรกิจ อย่างเศรษฐศาสตร์เพื่อช่วยให้มองเห็นภาพกว้างของธุรกิจ เลยสอบตรงเข้าคณะนี้เลย (ยิ้ม)”

ทว่า ระหว่างที่กำลังเดินไปตามเส้นทางชีวิตที่ขีดไว้ ด้วยหน้าตาและบุคลิกที่ชวนมอง ทำให้จุ้มจิ้มได้รับการทาบทามให้เข้ามาชิมลางในวงการบันเทิง ซึ่งถือเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ของชีวิต จากเด็กผู้หญิงขี้อายที่เป็นดรัมเมเยอร์ฟุตบอลประเพณีก็ยังเขิน แต่เมื่อวันหนึ่งต้องมาอยู่หน้ากล้อง เธอกลับสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดบางอย่างและพาตัวเองไปอีกขั้นได้

“ลึกๆ แล้วเป็นคนขี้อาย แต่ทุกครั้งไม่ว่าจะเป็นดรัมเมเยอร์ หรือตอนไปอยู่หน้ากล้อง พอ 5 4 3 2 1 ก็ทำได้ทุกที อาจเพราะเราคิดว่าทุกอย่างที่เข้ามาคือโอกาส และเราไม่อยากปฏิเสธ อย่างตอนที่เข้าวงการ (บันเทิง) เชื่อมั้ยไปแคสต์งานเป็น 10 ครั้งก็ไม่ได้ จนเริ่มท้อ แต่สุดท้ายพอเริ่มได้งาน ก็มีทั้งถ่ายเอ็มวี เล่นโฆษณา จนตอนหลังได้เล่นละคร ถามว่าชอบงานในวงการบันเทิงมั้ย ก็ชอบนะ ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ และมีรายได้เป็นของตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่จุ้มจิ้มภูมิใจมาก”

สาวสวยยอมรับว่า การทำงานในวงการบันเทิงสมัยเรียนนั้น เป็นความสุขอย่างหนึ่ง ซึ่งคุณพ่อก็ยอมไฟเขียว ตราบที่ผลการเรียนไม่เสีย บทที่ได้รับไม่โป๊และไม่มีเลิฟซีน (ยิ้ม) แต่พอเริ่มต้นทำงาน เวลาแทบทั้งหมดก็ต้องทุ่มให้กับงานหลักแทน

“จุ้มจิ้มคิดมาเสมอว่า ธุรกิจห้างทำให้เราเติบโต มีคุณภาพชีวิตที่ดี เลยเหมือนเป็นความกตัญญูลึกๆ ที่อยากจะกลับมาทำ ตอนแรกที่เข้ามาทำงานที่ห้าง เราเริ่มจากแผนกการตลาดอยู่เกือบ 2 ปี ก็ย้ายมาดูลีสซิ่ง ทำงานกับเซลส์ จนตอนนี้จุ้มจิ้มเป็นกรรมการบริหารบริษัท ดูในภาพรวมมากขึ้น มีการนำบริการใหม่ๆ เข้ามาสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ เพราะการทำธุรกิจห้าง ในยุคนี้มีความท้าทายมาก คู่แข่งค่อนข้างเยอะ มีกระแสออนไลน์ทำให้คนมีตัวเลือกมากขึ้นในการตัดสินใจ ฉะนั้นจึงต้องสร้างจุดเด่นให้ห้างของเราเป็นไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์ ที่มีบริการและผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ทุกคนได้อย่างครอบคลุม พยายามจัดกิจกรรมบ่อยๆ เพื่อให้ลูกค้าอยากมาที่ห้าง รวมถึงบุกช่องทางออนไลน์เพื่อเพิ่มช่องทางการซื้อสินค้าให้กับคนมากขึ้น

ด้วยบริการออนไลน์ทำให้เราขยายช่องทางการขายไปยังทั่วประเทศ ที่ไม่ใช่แค่หาดใหญ่ที่เดียว แต่เรามีเว็บไซต์ อินสตาแกรม เฟซบุ๊กแฟนเพจ ไลน์แอท (Line@) เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ในมาร์เก็ตเพลสยอดนิยม ซึ่งหัวใจของการทำตลาดออนไลน์ คือ บริการจัดส่งต้องรวดเร็ว คอนเทนต์ต้องโดดเด่น ดึงดูดให้คนอยากซื้อ เช่น รูปสวย ราคาชัด มีรายละเอียดบอกครบถ้วน รวมถึงมีแอดมินที่พร้อมทำหน้าที่คอยตอบคำถามอยู่ตลอดเวลา”

อย่างไรก็ตาม จุ้มจิ้ม ยอมรับว่า ถึงการทำงานในวงการจะทำให้มีทักษะบางอย่างเพื่อมาต่อยอดธุรกิจ แต่พอเข้าบริหารจริงๆ ในธุรกิจที่เติบโตมาด้วยกัน กลับแตกต่างและยากกว่าที่คิด

“ตอนทำงานในวงการ เรารับผิดชอบแค่ตัวเราเอง ทำการบ้านจำบทให้ได้ พยายามเข้าถึงตัวละครที่เรารับบทบาท แต่พอมาทำธุรกิจ เราต้องรับผิดชอบคนอีกเป็นร้อย ทั้งพนักงาน ลูกค้า และคู่ค้า ช่วงแรกๆ ยอมรับว่ายากมาก แต่ก็เรียนรู้มาเรื่อยๆ จนดีขึ้นมาก”

มาถึงวันนี้ จุ้มจิ้มยอมรับว่า ยังสนุกกับงานที่ทำ แต่ก็ยังรักงานในวงการบันเทิง ถ้ามีโอกาสเข้ามา ก็ยังเปิดรับ “บทบาทที่จุ้มจิ้มอยากลองมากที่สุด คือ บทร้าย จะในรูปแบบไหนก็ตาม (ยิ้ม) อยากรู้ว่าจะร้ายได้มั้ย เพราะหลายคนบอกว่าจุ้มจิ้มคงแสดงบทร้ายไม่ได้ ส่วนเป้าหมายกับธุรกิจศูนย์การค้า ในอนาคตเรามีแผนจะขยายการขายและจัดส่งไปยังประเทศใกล้เคียงอย่างเวียดนามและลาว เพราะเรามองว่าการทำธุรกิจออนไลน์ สามารถเติบโตได้อย่างไม่มีขีดจำกัด”

ในฐานะผู้บริหารหญิงที่ต้องรับบทบาทดูแลอาณาจักรช็อปปิ้ง ที่เป็นหนึ่งในตำนานของหาดใหญ่ แถมยังมีธุรกิจอื่นๆ ที่แตกไลน์ออกมา ถามว่าเธอมีวิธีบริหารความเครียดและความท้าทายที่เข้ามาอย่างไร... “เมื่อก่อนเวลาผิดหวัง เจอปัญหา หรือพบกับความล้มเหลว จะเครียด ร้องไห้ ถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลมาแล้วก็มี แต่หลังๆ พอหันมาปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ สวดมนต์ ก็ช่วยได้เยอะ

ทุกวันนี้เวลาเจอปัญหา หรืออุปสรรค เราท้อยากขึ้น ดราม่าน้อยลง (ยิ้ม) ปัญหาเดิมที่แต่ก่อนเคยเครียดระดับ 10 ตอนนี้เหลือ 3 เพราะเรามีสติ บางครั้งเจอความล้มเหลวก็แค่ปล่อยไป อีกอย่างที่สำคัญมาก คือ การมีคู่ชีวิตที่ดี เหมือนมีที่ปรึกษาที่ดี จากนี้เราไม่ต้องเก็บปัญหาคนเดียว เพราะมีคนที่ไว้ใจเป็นที่ปรึกษา”

สำหรับไลฟ์สไตล์วันว่าง สาวสวยบอกว่าตอนนี้เสพติดออกกำลังกาย จากเดิมไม่ค่อยได้เข้ายิม ตอนนี้กลายเป็นเข้ายิมสัปดาห์ละ 2-3 วัน ส่วนวันว่างที่เหลือ เธออุทิศให้กับการเดินห้าง เพราะสำหรับคนที่อยู่ในวงการห้างอย่างเธอ การเดินห้างไม่ใช่แค่การเดินดูของสวยๆ งามๆ แต่เพื่อศึกษาเทรนด์ใหม่ๆ แนวคิดเบื้องหลังการออกแบบ การจัดวางเลย์เอาต์ของแต่ละห้าง การใช้ไฟ ใช้สี การให้บริหาร การตั้งชื่อแผนกต่างๆ ฯลฯ เพื่อนำไปปรับใช้กับธุรกิจของตัวเอง

“จากประสบการณ์ที่เดินทางมาไม่น้อย จุ้มจิ้มว่า ห้างไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก ห้างไทยเรารวมไลฟ์สไตล์ทุกอย่างมาไว้จุดเดียวอย่างแท้จริง ปกติห้างในประเทศอื่นๆ เขาขายของอย่างเดียว แต่ของเรามีทั้งมีคลินิกทำหน้า ทำฟัน ฯลฯ เรียกว่าเดินเล่นในห้างกรุงเทพฯ เพลินมาก ทุกสัปดาห์มีอะไรใหม่ๆ มาให้ดูตลอด”

สำหรับอนาคต จุ้มจิ้มทิ้งท้ายว่า เธอมีแผนจะทำธุรกิจส่วนตัว อาจจะเป็นธุรกิจเสื้อผ้า จิวเวลรี่ และสกินแคร์ เพิ่มขึ้นมา “ยุคนี้ใครๆ ก็สร้างแบรนด์ได้ ในเมื่อเรามีไอเดียเราก็สามารถสร้างแบรนด์ของตัวเอง แล้วอาจจะวางขายในช่องทางของเรา อย่างห้างไดอาน่าได้ (ยิ้ม) ตอนนี้เราก็กำลังดูๆ อยู่ค่ะว่าจะลงตัวที่โปรเจกต์ไหนก่อน”

วรนันท์ จันทรัศมี สวย+เก่ง ครบสูตรผู้บริหารยุคใหม่

วรนันท์ จันทรัศมี สวย+เก่ง ครบสูตรผู้บริหารยุคใหม่