posttoday

บริหารหนี้ เพื่อความอยู่รอด

11 ธันวาคม 2561

มีใครบ้างที่ไม่เป็นหนี้ แม้กระทั่งเศรษฐียังมีหนี้ที่ต้องชดใช้

เรื่อง : กั๊ตจัง ภาพ : เอเอฟพี

มีใครบ้างที่ไม่เป็นหนี้ แม้กระทั่งเศรษฐียังมีหนี้ที่ต้องชดใช้ แล้วคนเดินดินอย่างเราจะไม่เป็นหนี้ได้อย่างไร เพียงแต่ว่าความแตกต่างระหว่างเศรษฐีกับคนธรรมดาอยู่ที่การบริหารหนี้ให้มีประสิทธิภาพนั่นเอง

อย่าเป็นหนี้เพราะไม่ระวัง

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในการเป็นหนื้คือการใช้จ่ายกู้ยืมอย่างไม่ระมัดระวัง ก่อนที่จะสร้างหนี้ขึ้นมาคุณควรประเมินศักยภาพในการหาเงินของตัวเองว่าสามารถใช้คืนได้อย่างแน่นอน ความผิดพลาดส่วนใหญ่ของคนที่เป็นหนี้เพราะขาดความรู้ในการบริหารหนี้อย่างถูกต้อง เช่น จำนวนหนี้ที่ต้องผ่อนชำระในแต่ละเดือนไม่ควรเกิน 25-30% ของรายได้ต่อเดือน หากมีเงินเดือน 3 หมื่นบาท หนี้ที่ต้องจ่ายต่อเดือนรวมทั้งหมดทั้งบ้านและรถก็ไม่ควรเกิน 7,500-9,000 บาท/เดือน จะทำให้คุณมีเงินเหลือเก็บและใช้จ่ายได้อย่างคล่องตัวไม่เกิดความเครียดมากเกินไป

เลือกเป็นหนี้ที่ให้ดอกเบี้ยต่ำที่สุด 

ก่อนเป็นหนี้สินใดๆ ควรสอบถามดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย หากดอกเบี้ยสูงควรผ่อนให้หมดในระยะเวลาอันสั้น หากดอกเบี้ยต่ำก็สามารถยืดระยะเวลาในการผ่อนออกไปได้ แต่ทั้งนี้การเป็นหนี้สินใดๆ ก็ตามควรเลือกแบบดอกเบี้ยน้อยที่สุดและใช้เวลาสั้นที่สุด จุดที่หลายคนมักพลาดในการเป็นหนี้ก็คือการผ่อนจ่ายดอกเบี้ย 0% ทำให้เกิดความยับยั้งชั่งใจในการรูดบัตรจ่ายสินค้าหลายการและต่อเนื่องทุกเดือน ทำให้จำนวนหนี้ที่ต้องจ่ายต่อเดือนเพิ่มขึ้นจนเกินกำลังจ่าย สุดท้ายก็ต้องเข้าระบบกู้ยืมเสียดอกเบี้ยในอัตราที่สูงกว่าปกติ

หวยและเครื่องดื่มดูดเงิน

ในการสำรวจรายจ่ายของประชาชนในกลุ่มรายได้ปานกลางจนถึงรายได้น้อย แทบทุกสำนักรายงานตรงกันว่ารายจ่ายค่าเล่นหวยและรายจ่ายค่าเครื่องดื่ม อยู่ในเกณฑ์ที่สูงมากประมาณ 4,000 บาท/เดือน คิดเป็นปีละ 4.8 หมื่นบาท เรียกได้ว่าเงินจำนวนขนาดนี้ซื้อมอเตอร์ไซค์รุ่นเล็กได้คันหนึ่งเลยทีเดียว

แต่จุดที่น่ากลัวกว่านั้นคือการกู้เงินมาเล่นหวย ซึ่งเป็นความเสี่ยงสูงที่คุณจะสร้างหนี้โดยไม่มีสร้างกำไรหรือแม้กระทั่งสิ่งของที่จับต้องได้ ดังนั้นหากคุณจะเป็นหนี้ก็ควรเป็นหนี้ที่มีสิ่งของ ตัวเงิน หรือผลกำไรที่จับต้องได้แน่นอนจะดีกว่ากู้ยืมมาลงทุนในสิ่งที่เสี่ยงต่อความสูญเปล่าเช่นหวย

ไม่มีเงินแค่ไหนก็อย่าเป็นหนี้นอกระบบ

ความเสี่ยงสูงที่สุดในการเป็นหนี้ทั้งชีวิตก็คือ การใช้เงินกู้นอกระบบที่คิดดอกเบี้ยเป็นรายวัน โดยเฉพาะที่มีรายได้น้อยจะมีขีดจำกัดในการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ของสถาบันการเงินหลัก จึงหันหน้าเข้าหาหนี้นอกระบบที่คิดดอกเบี้ยสูงกว่าธนาคารเป็น 10 เท่า คุณควรหาแหล่งเงินกู้อื่นที่กู้ยืมได้ง่ายกว่า เช่น การสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ สมาชิกกองทุนชุมชนต่างๆ ที่เปิดให้กู้ยืมเงิน จากนั้นค่อยหาเงินสร้างรายได้ที่มั่นคงพอที่ธนาคารจะให้ความสนใจออกเงินกู้ให้กับคุณในภายหลัง แต่หลักที่ดีที่สุดคือหากไม่มีเงินที่จะซื้อสินค้าได้ในเวลานั้น ก็จงใช้ความอดทนใช้เวลาเก็บเงินจนกว่าจะได้สินค้าที่ต้องการ ดีกว่าได้สินค้าเร็วแต่เป็นหนี้

ออมไว้ไม่มีหนี้

เราควรให้ความสำคัญกับระบบการออมให้มากที่สุด โดยเฉพาะช่วงวัยหนุ่มวัยสาว ที่ค่าใช้จ่ายในครอบครัวและสุขภาพยังไม่มีความจำเป็นมากนัก จะทำให้การออมมีประสิทธิภาพมากกว่า โดยผู้ออมอายุระหว่าง 20-30 ปี ควรออมสัก 10% ของเงินออม ที่เหลือควรจะนำไปลงทุน เปรียบเสมือนกับรถใหม่ ค่าสึกหรอค่าซ่อมบำรุงยังน้อย จึงควรสร้างเงินออมเพื่อการลงทุน มากกว่าเงินออมเพื่อการออมอย่างเดียว

เมื่ออายุมากขึ้น ความรับผิดชอบมากขึ้น ความไม่แน่นอนจากโรคภัยไข้เจ็บเพิ่มขึ้น ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมบำรุง ดังนั้นการสร้างเงินออมในช่วงวัยนี้ จึงควรแบ่งครึ่ง 50:50 ระหว่างเงินออมกับเงินลงทุน เมื่อก้าวย่างเข้าวัยกลางคน ซึ่งเป็นช่วงที่มีรายได้สูงสุด ก็ควรออมมากกว่าลงทุน โดยเน้นการเก็งกำไรที่มีความเสี่ยงไม่มากนัก

เงินออมเหล่านี้คือเงินฉุกเฉินที่คุณสามารถหยิบมาใช้ได้โดยไม่ต้องง้อขอเงินจากใครให้เป็นหนี้ เพราะหนี้สินคือเงินจากอนาคตหากเราอดทนมากพอ รู้จักเก็บ รู้จักใช้ รู้จักออม เราก็จะเป็นหนี้น้อยที่สุดจนถึงไม่มีหนี้สินใดๆ เลย