posttoday

กรรณิการ์ วนะเกียรติกุล โทโทโระเพื่อนรัก ลิมิเต็ดเอดิชั่น

10 ตุลาคม 2561

อดีตนักร้องสาววัยทีน เจ้าของเพลงฮิตติดหูอย่าง “อย่าโกรธได้ไหม”

เรื่อง พุสดี สิริวัชระเมตตา ภาพ วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี

ได้ยินชื่อ ทราย-กรรณิการ์ วนะเกียรติกุล สาวกวงการเพลง ยุค 90 อาจเริ่มคุ้นๆ แต่ถ้าเอ่ยชื่อ กรรณิการ์ ทราย หลายคนต้องรู้จักร้องอ๋อ เพราะเธอคือ อดีตนักร้องสาววัยทีน เจ้าของเพลงฮิตติดหูอย่าง “อย่าโกรธได้ไหม” (พระเอกเอ็มวีคือ สงกรานต์ เตชะณรงค์) และเพลง “อึ๋ย...ย...ย !”

ปัจจุบันเธอผันตัวมาเป็นครีเอทีฟไดเรกเตอร์สาวฝีมือเฉียบแห่งแบรนด์ “เชอ-ซี” (Cher’Z) แบรนด์เสื้อผ้าที่เธอปลุกปั้นจากแบรนด์ออนไลน์ที่ทำกับเพื่อน กระทั่งก้าวสู่การเป็นแบรนด์เสื้อผ้าสตรีที่มีดีไซน์ อันเป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นด้วยซิลลูเอตของชุดจากงานศิลปะการเดรปปิ้ง (Draping) ที่บรรจงตัดเย็บอย่างประณีต โดยช่างฝีมือมากประสบการณ์

กรรณิการ์ วนะเกียรติกุล โทโทโระเพื่อนรัก ลิมิเต็ดเอดิชั่น

นอกจากจะผันตัวเองมาสู่การเป็นดีไซเนอร์ซึ่งหลายคนอาจคิดไม่ถึงแล้วเธอยังมีความหลงใหลในเจ้าโทโทโระ (Totoro) ภูตแห่งป่า ตัวอ้วนกลมโต ขนฟู คล้ายแมวผสมกระต่าย ซึ่งใครที่เป็นแฟนของสตูดิโอจิบลิ (Studio Ghibli) ต้องรู้จัก เพราะเป็นคาแรกเตอร์ที่โด่งดัง
จากเรื่องโทโทโระเพื่อนรัก (My Neighbor Totoro) ชนิดที่ว่าใครไม่เคยปวารณาตัวเองเป็นแฟนพันธุ์แท้อาจไม่เข้าใจ

“ทรายเรียนคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตรเอกการแสดงและกำกับการแสดง หนึ่งในหนังที่ต้องดูเพื่อใช้ในการเรียน คือ สุสานหิ่งห้อย (Grave of the Fireflies) ซึ่งเป็นภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชั่นของสตูดิโอจิบลิ ทำให้ทรายได้มีโอกาสติดตามผลงานของสตูดิโอนี้มาเรื่อยๆ จนได้มาดูเรื่อง My Neighbor Totoro ซึ่งเนื้อเรื่องพูดถึงเด็กผู้หญิงที่บ้านอยู่ใกล้ๆ ป่าที่โทโทโระ ซึ่งเป็นสัตว์วิเศษผู้พิทักษ์ป่าอาศัยอยู่

กรรณิการ์ วนะเกียรติกุล โทโทโระเพื่อนรัก ลิมิเต็ดเอดิชั่น

ความพิเศษของโทโทโระนอกจากจะมีแต่เด็กที่สามารถมองเห็นได้เท่านั้น ยังปรากฏตัวเฉพาะตอนฝนตก เอาจริงๆ ตอนดูครั้งแรกทรายก็ไม่เข้าใจสิ่งที่หนังต้องการสื่อ จนพอดีรอบ 2 เริ่มเข้าใจมากขึ้น และหลงรักในความน่ารักของโทโทโระ”

ทุกวันนี้ ไม่เพียงโทโทโระกลายเป็นหนังเรื่องโปรดที่หยิบมาดูบ่อยๆ จนนับครั้งไม่ถ้วน ยังเป็นจุดเริ่มต้นให้เธอเริ่มสะสมของที่ระลึกของโทโทโระ เพราะสำหรับเธอทุกครั้งที่เห็นโทโทโระก็ทำให้ยิ้มได้ และรู้สึกอารมณ์ดีอย่างบอกไม่ถูก

“ชิ้นแรกที่ซื้อคือ ตุ๊กตาโทโทโระ มีทั้งหมดสามสี คือ ขาว ฟ้า เทา ตอนนั้นเราซื้อมาสีเดียวคือ สีเทา ซื้อตั้งแต่สมัยไปญี่ปุ่นครั้งแรก จำได้ว่ามีมิชชั่นเลยว่าต้องไปซื้อให้ได้ แต่ตอนนั้นด้วยความที่ยังเด็ก เราไม่ได้มีเงินเยอะ ก็ซื้อตุ๊กตากลับมาตัวเดียวพร้อมของจุกจิก อย่างพวงกุญแจ” ทรายบอกเล่าด้วยแววตาเป็นประกายที่บ่งบอกถึงความชื่นชอบที่มีต่อคาแรกเตอร์อย่างไม่อาจแอบซ่อน

จากวันนั้น แม้จะไม่ได้มีโอกาสไปญี่ปุ่นอีกเลยนับ สิบปี กระทั่งแต่งงาน แต่ความชอบนี้ก็ไม่เคยจางหาย จนเมื่อมีแผนจะไปเยือนถิ่นกำเนิดของโทโทโระอีกครั้งเมื่อ 4 ปีก่อน เธอจึงเตรียมการอย่างดี

“ครั้งนี้เราทำการบ้านตั้งใจไปพิพิธภัณฑ์จิบลิให้ได้ ซึ่งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้อยู่ที่เมืองมิทากะ ไปทางตะวันตกของกรุงโตเกียว ตอนนั้นจำได้ว่ากว่าจะได้ตั๋วเข้าต้องฝากรุ่นพี่ที่ญี่ปุ่นช่วยซื้อตั๋วให้ เพราะพิพิธภัณฑ์นี้จำกัดจำนวนคนเข้าในแต่ละวัน เพราะช่วงหลังๆ คาแรกเตอร์ของสตูดิโอจิบลิฮิตมาก ต้องซื้อตั๋วล่วงหน้าเป็นเดือน แถมยังต้องลุ้นว่าจะมีตั๋วในวันที่เราไปหรือเปล่า แต่ถึงจะยากก็ไม่ใช่อุปสรรค เพราะพอได้เข้าไปจริงๆ มันฟินอย่างบอกไม่ถูก”

กรรณิการ์ วนะเกียรติกุล โทโทโระเพื่อนรัก ลิมิเต็ดเอดิชั่น

แม้จะไปถึงแหล่ง แต่ก็ใช่ว่าจะสามารถได้ทุกสิ่งที่ต้องการ เพราะด้วยความนิยมของโทโทโระ บางครั้งไปถึงก็อาจได้เพียงชื่นชมกับความน่ารักของการตกแต่ง บรรยากาศของพิพิธภัณฑ์ แต่ถ้าจะหวังเป็นเจ้าของไอเท็มที่ถูกใจต้องอาศัยคำว่า “ดวง” เท่านั้น

“ของสะสมที่ทรายมีส่วนใหญ่ได้มาจากการไปตระเวนหาตามเมืองอื่น คือ เวลาจะไปเมืองไหนของญี่ปุ่นเราต้องอาศัยทำการบ้าน ค่อยๆ ไปหาตามลายแทง ถ้าโชคดีก็จะได้เจอชิ้นน่ารัก อย่างฟูกุโอกะก็ได้มาหลายชิ้น หรืออย่างชิ้นที่เป็นนาฬิกาได้มาจากร้านขายของข้างๆ วัดอาซากุสะ แต่ถ้าไปที่พิพิธภัณฑ์ส่วนใหญ่จะได้ของจุกจิกมากกว่า

ตอนนี้ถ้าถามถึงชิ้นที่อยากได้ที่สุด คือ ชิ้นที่เป็นน้ำตก อยากได้มาก ทรายไปเจอมา จริงๆ ราคาก็ไม่เบา แต่เห็นแล้วก็สู้นะคะ จริงๆ ตอนที่เจอก็เกือบจะซื้อแล้วนะคะ แต่คุณสามีสะกิดเตือนว่าจะเอากลับมายังไง เลยตัดใจก่อน เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงที่ทรายกำลังจะย้ายบ้านด้วย กลัวว่าไม่สะดวกหลายอย่างแต่ตั้งแต่กลับมาจนตอนนี้ก็ยังคิดถึงอยู่ และบอกกับตัวเองว่า ถ้าไปครั้งหน้า ซึ่งวางแผนว่าประมาณเดือน ม.ค. แล้วเจอยังไงก็ต้องซื้อให้ได้”

นอกจากความพยายามที่จะตามหาชิ้นที่ถูกใจแล้ว ทรายบอกว่า บางครั้งถึงไม่เจอชิ้นที่ถูกใจก็ต้องยอมซื้อ เพราะไม่เช่นนั้นก็ไม่มีของใหม่ให้ซื้ออยู่ดี

กรรณิการ์ วนะเกียรติกุล โทโทโระเพื่อนรัก ลิมิเต็ดเอดิชั่น

“คือของที่ออกมาไม่ได้เยอะ บางทีไปเจอชิ้นนี้ครั้งแรกไม่ซื้อ เพราะไม่ถูกใจมาก แต่ปรากฏไปครั้งหน้าก็เจออันเดิม จนบางทีเราก็ตัดใจซื้อมา (หัวเราะ) มิชชั่นในการตามหาโทโทโระของทรายไม่ใช่เฉพาะเวลาไปญี่ปุ่นนะคะ บางทีไปเที่ยวประเทศอื่นก็ต้องทำการบ้านเผื่อ
มีอยู่ครั้งหนึ่งสตูดิโอจิบลิจัดงานครบรอบ 30 ปี งานมีทั้งที่ไต้หวันและญี่ปุ่น ซึ่งเป็นช่วงที่เราไปไต้หวันพอดี พอรู้ก็รีบไปเลยไปเข้าแถวรอซื้อตั๋วร่วมชั่วโมง แต่พอเข้าไปก็คุ้มค่า อารมณ์เหมือนเวลาผู้หญิงเห็นป้ายลดราคา อยากได้ทุกอย่าง จำได้ว่าครั้งนั้นได้มาหลายชิ้นเหมือนกัน ที่สำคัญบางชิ้นที่ได้มาก็เป็นชิ้นหายาก ไม่เคยเห็นร้านไหนมีขายอีกเลย”

หนึ่งในชิ้นที่ทรายภาคภูมิใจมากๆ ที่ได้ครอบครอง นอกจากซีดีเพลงที่เป็นเวอร์ชั่นมิวสิคบ็อกซ์ ยังมีของที่ระลึกที่ทำเป็นห่อข้าวญี่ปุ่น ถ้าเปิดออกมาจะเป็นหินสีที่มีโทโทโระอยู่ด้านใน

“ทรายทยอยซื้อมาเรื่อยๆ เพราะเขาจะวางขายตรงใกล้ๆ แคชเชียร์ในราคาน่ารักๆ เชื่อมั้ยว่าจนถึงตอนนี้ทรายยังไม่กล้าเปิดดูเลย เพราะกลัวว่าถ้าเปิดมาแล้วเจอสีซ้ำ หรือได้ไม่ครบจะทำให้จิตตก อยากตามหาให้ครบ (หัวเราะ) ตอนนี้เลยได้แต่มโนไว้ว่าเรามีครบแล้ว” ทรายบอกเล่าอย่างอารมณ์ดี

“ตอนนี้ทรายเพิ่งย้ายมาอยู่บ้านหลังใหม่ ตั้งใจไว้แล้วว่าจะต้องมีมุมหนึ่งที่เป็นสเปซของโทโทโระ ใจจริงอยากวางทุกมุมในบ้านเลยค่ะ เพราะอย่างที่บอกเป็นคาแรกเตอร์ที่เราเห็นแล้วสดชื่นมีความสุขบางคนอาจจะมองว่าเป็นของไม่จำเป็น แต่สำหรับทรายเป็นของที่มีคุณค่าทางใจ มองเห็นแล้วรู้สึกว่าเป็นกำลังใจ เหมือนมีเพื่อนที่รักอยู่ในบ้าน”