posttoday

บริหารการทำงาน ฉบับชาวฟรีแลนซ์

08 ตุลาคม 2561

วันนี้เรามีวิธีการทำงานหนักแต่ไม่เหนื่อยและใช้เวลาอย่างคุ้มค่ามากที่สุดมาฝากกัน

เรื่อง กั๊ตจัง ภาพ pixabay

การทำงานหนักเป็นสิ่งที่ดีแต่การทำแบบไม่มีการบริหารที่ดีนั้นอาจทำให้คุณเหนื่อยเกินความจำเป็น วันนี้เรามีวิธีการทำงานหนักแต่ไม่เหนื่อยและใช้เวลาอย่างคุ้มค่ามากที่สุดมาฝากกัน

1.ชั่วโมงแรกของวันสำคัญที่สุด

ในแต่ละวันของการทำงานชั่วโมงแรกสำคัญที่สุด เพราะเป็นชั่วโมงที่คุณจะได้ทบทวนสิ่งที่ต้องทำตลอดทั้งวันนี้ว่าคุณจะต้องทำอะไรบ้าง หากมีการติดต่อนัดหมายก็ควรใช้เวลา 1 ชม.นี้ให้เป็นประโยชน์เพื่อทำให้การทำงานของคุณตลอดทั้งวันนั้นราบรื่น ซึ่งส่วนใหญ่
เวลาในการทำงานชั่วโมงแรกจะหมดไปกับการเปิดอีเมล อ่านข้อความในแอพพลิเคชั่นไลน์ และอาจจะมีบ้างที่อยากเปิดเฟซบุ๊กดูความเคลื่อนไหวของเพื่อนๆ ซึ่งคุณสามารถทำได้หากเคลียร์สิ่งที่ต้องทำทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว

2.สร้างช่วงพักเบรกให้กับตัวเอง

สร้างเวลาช่วงพักเบรกให้กับตัวเองอย่างน้อย 10-15 นาที ทุก 2 ชั่วโมง เพราะไม่มีใครสามารถทำงานต่อเนื่องได้ติดต่อกันนานเกินกว่า 2 ชั่วโมง ดังนั้นคุณจึงต้องมีช่วงเวลาพักสมองเพื่อให้กลับไปทำงานอย่างมีประสิทธิภาพเหมือนเดิม แต่การพักเบรกที่ดีก็ต้องมีเหมือนกัน

สถานที่ที่เราจะไปนั่งพักควรมีต้นไม้ให้พักสายตา การใช้เวลาพักบางคนอาจใช้เกมหรือเล่นโซเชียลมีเดีย ซึ่งควรระวังเรื่องการใช้เวลาพักและการเสพข่าวสาร หากพบข่าวสารหรือเล่นเกมที่มีความเครียดมากเกินไป ไม่ได้เป็นการพักที่แท้จริง คุณอาจจะใช้เวลาไปกับการดื่มกาแฟ ดื่มน้ำเปล่า และเปิดอ่านในสิ่งที่ทำให้รู้สึกดีมากกว่า

3.ทำให้เป็นกิจวัตร

ไม่ว่าคุณจะทำงานฟรีแลนซ์หรืองานประจำ ควรมีกิจวัตรประจำวันที่ชัดเจน ฟังดูอาจเป็นเรื่องน่าเบื่อสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการอิสระในการทำงาน แต่การมีอิสระมากเกินไปจะทำให้คุณขาดการฝึกสมาธิในการทำงาน ซึ่งคุณจะพบว่าคุณมีความขยันในการทำงานแค่ช่วงก่อนส่งงานไม่กี่วัน ทั้งที่บางทีงานนั้นอาจให้เวลาคุณมาเป็นเดือน นั่นคือปัญหาของการทำงานอิสระแต่ขาดวินัยในการทำงาน และกำหนดช่วงเวลาในการทำงาน

การทำงานซ้ำๆ ในเวลาเดิมและที่เดิมไม่ได้เป็นสิ่งที่น่าเบื่อเสมอไป เพราะผลดีอย่างหนึ่งก็คือคุณสามารถทำงานรูปแบบเดิมได้ในเวลาที่เร็วขึ้น ไม่รู้สึกเหนื่อยและต้องใช้ความพยายามในการตั้งสมาธิในการทำงานในสภาพแวดล้อมที่แตกต่าง มีเสียงผู้คนพลุกพล่าน เช่น บรรยากาศในร้านกาแฟ

บริหารการทำงาน ฉบับชาวฟรีแลนซ์

4.กำหนดเวลาห้ามรบกวน

เสียงโทรศัพท์ เพื่อนร่วมงาน หรือแม้กระทั่งทำงานที่บ้าน ล้วนส่งผลถึงสมาธิในการทำงานได้ทุกเวลา สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ แต่คุณสามารถกำหนดเวลาที่จะเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ได้ ด้วยการบอกให้คนรอบข้างรู้ว่าคุณกำลังทำงานสำคัญอยู่ บางครั้งการปิดเสียงโทรศัพท์ เปิดรับแต่เสียงข้อความสำคัญก็จำเป็นสำหรับการทำงานที่ต้องการใช้เวลาให้มีประสิทธิภาพ

โดยเฉพาะการทำงานที่บ้านที่มีสมาชิกในครอบครัวอยู่บ้านทุกวันนั้นดูเหมือนจะดีในแง่ของการไม่เสียเวลาในการเดินทางแต่ไม่ดีในแง่ของการถูกรบกวนจากสมาชิกในครอบครัว ซึ่งคุณควรมีห้องทำงานแบบปิดเพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาเข้ามารบกวนคุณมากเกินไป

5.เผื่อเวลาตรวจสอบงานตัวเอง

ไม่มีใครที่ทำงานแล้วได้ผลอย่างที่ต้องการในทันที แม้คุณจะใช้เวลาตรวจงานหลังทำเสร็จ แต่ข้อผิดพลาดบางจุดที่เราอาจมองข้ามด้วยความล้าจากการทำงานต่อเนื่องหลายชั่วโมง ดังนั้นเมื่อทำงานเสร็จแล้วอย่าเพิ่งรีบส่งในทันที ควรพักงานเอาไว้ก่อน วันรุ่งขึ้นเมื่อกลับมาตรวจงานอีกครั้ง คุณอาจจะพบข้อผิดพลาดในงานที่คุณมองข้ามไป หรือคุณอาจจะมีไอเดียปรับแต่งที่ทำให้งานชิ้นนั้นออกมาดูดีกว่าเดิม

6.อย่าลืมจัดการเรื่องเงิน

เรื่องเงินเรื่องทองเป็นเรื่องสำคัญในการเป็นฟรีแลนซ์ คุณควรเผื่อโอกาสในการได้เงินจากลูกค้าล่าช้ากว่ากำหนด ประมาณ 1-3 เดือน โดยเฉพาะกับลูกค้าใหม่ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน นี่คือเรื่องจริงของชาวฟรีแลนซ์ที่มีโอกาสเจอกันทุกคน นอกจากนี้ควรแบ่งเวลาในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์สัก 1 ชั่วโมง ทบทวนงานและรายได้ของคุณเอง รวมทั้งการวางแผนการลงทุนเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของคุณเองอีกด้วย