posttoday

อุรุดา โควินท์ คุณภาพและความถี่ของงานสำคัญมาก

16 กันยายน 2561

เธอมีชื่อเข้าชิงซีไรต์เป็นครั้งแรก หลังจากที่เขียนงานมาเป็นเวลา 17 ปี มีผลงานมาทั้งหมด 15 เล่ม

โดย อณุสรา ทองอุไร ภาพ : วิศิษฐ์ แถมเงิน
 
เธอมีชื่อเข้าชิงซีไรต์เป็นครั้งแรก หลังจากที่เขียนงานมาเป็นเวลา 17 ปี มีผลงานมาทั้งหมด 15 เล่ม โดยเธอมีงานเขียนเล่มแรกเป็นเรื่องสั้นเมื่อปี 2539 ตอนนั้น อุรุดา โควินท์ ยังเป็นพนักงานธนาคาร จนกระทั่งงานเขียนเล่มนี้ที่ได้เข้าชิงซีไรต์ คือเรื่อง หยดน้ำหวานในหยาดน้ำตา ซึ่งเป็นนวนิยายเรื่องล่าสุดของเธอในวัย 48 ปี เนื้อเรื่องว่าด้วยเรื่องราวความสัมพันธ์ของหญิงสาวที่อยากเป็นนักเขียนกับนักเขียนหนุ่มผู้มีชื่อเสียง เป็นนวนิยายซึ่งเป็นความจริงและจินตนาการผสมผสานกันอย่างกลมกลืน เต็มไปด้วยรายละเอียด ของความคิดและอารมณ์ความรู้สึก
 
ตอนนี้ อุรุดา โควินท์ เป็นนักเขียนเต็มตัวลาออกจากงานประจำเพื่อมาเขียนหนังสือนานหลายปีแล้ว ปัจจุบันถือว่าเธอเป็นนักเขียนมืออาชีพ เขียนเรื่องแต่งควบคู่ไปกับนิยาย เรื่องสั้น และการเขียนคอลัมน์เรื่องครัว ก่อนหน้านี้เธอมีรวมเรื่องสั้น 4 เล่ม รวมคอลัมน์ 7 เล่ม และนวนิยายอีก 4 เรื่อง เวลาว่างก็เป็นแม่ครัวในชีวิตประจำวันและเป็นนักวิ่งประเภทเน้นความสม่ำเสมอ
 
เธอบอกว่าหลังจากออกจากงานประจำแล้วก็ต้องวางแผนความพร้อมต่างๆ ไว้มากพอสมควร โดยเฉพาะเรื่องเงินเพื่อจะได้มีความพร้อมเรื่องงานเขียนโดยไม่ให้มีข้อกังวลใดๆ “เรารักงานเขียนอยากทำให้เต็มที่ ไม่มีข้อวิตกกังวล จึงวางแผนเรื่องงานเงินให้รัดกุมเพียงพอ เพื่อที่จะทุ่มเทกับงานเขียนได้อย่างเต็มที่ เรามีความสุขกับการเขียนหนังสือ ถ้าไม่มีความกดดันเรื่องการเงินก็จะเขียนหนังสือได้อย่างสบายใจ” เธอเล่าอย่างสบายใจ
 
สำหรับเรื่องที่ อุรุดา โควินท์ สนใจตอนนี้มักจะเป็นเรื่องราวความสัมพันธ์ในครอบครัว ให้ความสำคัญในเรื่องอารมณ์ความรู้สึก ตอนแรกๆ ที่เริ่มงานเขียนก็จะห่างๆ หน่อยผลงานออกมาจะไม่ค่อยสม่ำเสมอเท่าใดนัก แต่ระยะ 7-8 ปีหลังมานี้งานเขียนเริ่มถี่ขึ้นมีความสม่ำเสมอมากขึ้น โดยได้พล็อตเรื่องมาจากเรื่องที่เธออยากจะสื่อหรือต้องการมีประสบการณ์ร่วมจากชีวิตจริงของเธอ

อุรุดา โควินท์ คุณภาพและความถี่ของงานสำคัญมาก

ความคาดหวังในงานเขียนแต่ละเล่มนั้น ไม่ใช่เพียงแค่การได้รางวัลอย่างเดียว สิ่งที่ต้องการมากที่สุดก็คือ อยากให้ผู้อ่านแฟนประจำ และคนอ่านรุ่นใหม่ๆ ได้งานของเธอให้มากที่สุด เข้าถึงคนอ่านให้มากที่สุด ดังนั้นเธอจึงต้องทำงานให้หนักขึ้น หาข้อมูลให้รอบด้านเพื่อให้เข้าถึงผู้คนให้มากที่สุด มีคนอ่านหลากหลายขึ้น ไม่ใช่มีแค่แฟนประจำกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น เธอว่าไม่ใช่จะแข่งกับใครแต่เป็นการแข่งกับตัวเอง
 
สำหรับการแบ่งเวลาในการทำงานของเธอนั้น เธอให้ความสำคัญกับงานเขียนแบบเต็มเวลา ตอนเช้าจะแบ่งเวลาไปออกกำลังกาย ตอนสายๆ จะเริ่มเขียนหนังสือให้ได้อย่างน้อยวันละ 1 ตอนใช้เวลา 3-4 ชั่วโมง/วัน เพื่อฝึกให้มีวินัย โดยจะวางแผนงานล่วงหน้าเอาไว้เสมอว่า 1 ปีจะมีงานเขียนกี่เล่ม จะเริ่มเขียนเมื่อไหร่ วันละกี่บท หนังสือจะเสร็จเมื่อไหร่ จะออกเมื่อไหร่ เธอจะแพลนงานล่วงหน้าไว้เป็นปี เพื่อให้งานทุกอย่างเดินไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ยิ่งถ้าจะต้องดำรงชีพด้วยการเขียนหนังสืออย่างเดียว ความสม่ำเสมอในเนื้องานที่ออกมาจึงจำเป็นอย่างยิ่ง
 
“ถ้าเราไม่มีแผนงานที่ชัดเจน เราจะย้วยๆ ไม่มีวินัย คุมตัวเองไม่ได้ งานก็จะไม่ออกตามกำหนดเวลาที่ตั้งไว้ ดังนั้น การมาเป็นนักเขียนเต็มเวลา เรื่องวินัยเป็นอีกเรื่องที่สำคัญมาก อย่างที่บอกว่าการมีผลงานออกมาอย่างสม่ำเสมอนั้นสำคัญมากพอๆ กับคุณภาพของเนื้องานเลยทีเดียว ถ้างานออกบ้างไม่ออกบ้างก็จะยากลำบากคนอ่านก็จะไม่ขยายวงกว้างไปเท่าที่ควร”
 
เธอบอกว่าโชคดีที่แฟนประจำของเธอมักจะเป็นผู้หญิงที่ชอบงานของเธอและรออ่านงานใหม่ๆ ให้กำลังกันอยู่เสมอ ซึ่งต้องขอขอบคุณมา ณ จุดนี้