posttoday

"ดร.อัฐวุฒิ ปภังกร" ปลดล็อกตัวเองเพื่อความสุขของชีวิต

02 กรกฎาคม 2561

"ดร.อัฐวุฒิ ปภังกร" นักธุรกิจหนุ่มผู้มากความสามารถ กับแง่คิดที่ว่าด้วยความสุขในชีวิตที่สะท้อนผ่านร้านคอนเซ็ปต์น่าสนใจที่ชื่อ "Duke"

"ดร.อัฐวุฒิ ปภังกร" นักธุรกิจหนุ่มผู้มากความสามารถ กับแง่คิดที่ว่าด้วยความสุขในชีวิตที่สะท้อนผ่านร้านคอนเซ็ปต์น่าสนใจที่ชื่อ "Duke"

***********************

เรื่อง : โยธิน อยู่จงดี ภาพ : วิศิษฐ์ แถมเงิน

“ความสุขในปัจจุบันมีค่ามากกว่าความสุขในความทรงจำ” อาริสติปปุส นักปรัชญายุคก่อนคริสตกาล 365 ปี

ในบรรยากาศสบายๆ ภายในร้าน Duke เกษรพลาซ่า ชายผู้นี้คือ ดร.อัฐวุฒิ ปภังกร ที่ปรึกษาระบบบัญชีและการเงิน และนักธุรกิจหนุ่มผู้มากความสามารถ

เขาเต็มไปด้วยความเฉลียวฉลาดและไอเดียสร้างสรรค์ธุรกิจใหม่ๆ หลังจากผ่านช่วงเวลาตรากตรำงานหนักกับธุรกิจหลากหลายประเภทจนเกิดคำถามในใจเขาขึ้นมาเองว่า วันนี้เราให้ความสุขอะไรกับตัวเองบ้าง

“เราไม่เคยปลดล็อกตัวเองขึ้นไปสู่อีกระดับอย่างที่เราต้องการ ติดปัญหาต่างๆ มากมายที่คอยปิดกั้นตัวเองอยู่ ปิดกั้นความสุขในสิ่งที่เราอยากจะเป็น ในสิ่งที่เราอยากจะทำ มีหลายคนที่ไม่เคยดื่มเหล้ายี่ห้ออื่น หรือซิการ์ยี่ห้ออื่น ไม่เคยรู้สึกว่าทำไมเราจะต้องเปลี่ยนไปลองสิ่งอื่นๆ

ทุกครั้งที่เข้ามานั่งในร้านอาหารร้านเดิม เราก็สั่งแต่อาหารเดิมๆ เหมือนกับเวลาที่เราไปร้านเหล้า ก็สั่งเหล้าเดิมๆ ทั้งๆ ที่มีเหล้าในราคาใกล้เคียงกันอีกมากมายหลายยี่ห้อให้เราได้ลอง

เราไม่เคยปลดล็อกตัวเองหรือเปิดใจกับอะไรใหม่ๆ ทุกวันนี้คนไทยเชื่อเซียนฝรั่ง หรือที่รู้จักกันในชื่อกูเกิล มากกว่าที่จะออกไปค้นหาและพิสูจน์ด้วยตัวเอง เราอยากรู้อะไรเราถามกูเกิลเพียงอย่างเดียว เราเชื่อสิ่งที่กูเกิลบอก สิ่งที่กูเกิลหามาให้เราทุกอย่าง โดยที่เราไม่ได้สัมผัสด้วยตัวเอง แต่คุณเคยคิดจะปลดล็อกความคิดของคุณไหม

ผมเชื่อว่าทุกคนอยากปลดล็อกอะไรบางอย่าง แต่เราก็จะให้ข้อแก้ตัวง่ายๆ ว่าไม่มีเวลา ไม่มีเงิน คำถามคือแล้วเวลาที่ดูยูทูบ เวลาที่เสพสื่อโซเชียลมีเดีย ไม่ใช่เวลาเหรอ ทำไมเราจะกินข้าวสักจาน หรือเข้าไปในร้านอาหารสักร้านจะต้องให้คนที่เราไม่รู้จักเข้าไปกิน แล้วมาบอกกับเราว่าอร่อยหรือไม่อร่อย ทำไมเราไม่กล้าที่จะเป็นคนแรกที่เข้าไปชิม หรือกล้าที่จะทดลองด้วยตัวเอง

เพื่อนคนหนึ่งถามผมว่า ‘คุณทำงานหนักเพื่ออะไร?’ ผมตอบว่า ‘ผมต้องการประสบความสำเร็จ ผมต้องการมีชื่อเสียงและเงินทอง’ เขาพูดกลับมาว่า ‘สุดท้ายแล้วเงินทองที่ได้ไป คุณก็เอาไปต่อยอดเงินทองอีก แล้วคุณเคยซื้อความสุขให้ตัวเองบ้างไหม สิ่งเหล่านี้เป็นความสุขของคุณจริงๆ หรือ’

เวลาที่คุณเข้าร้านเหล้า คุณก็สั่งเหล้าเดิมๆ ทุกวัน ราวกับว่าเรากำลังสั่งเมนูข้าวผัดกะเพรา ทั้งที่ในความเป็นจริง ในราคาที่เท่ากันยังมีเหล้าอีก 50 ชนิดให้เลือก แล้วทำไมเราถึงต้องกินเหล้าขวดเดิมๆตลอดเวลาในเมื่อมีตัวเลือกอื่น เพราะมันถูกลิ้น

คุณซื้อเหล้าเพราะคุณต้องการเมา หรือคุณต้องการเข้าสังคมหรือเพราะความสุข ต้องตอบคำถามนี้ให้ชัด เพราะของทุกอย่างในวันนี้ได้กลายเป็นงานศิลปะอย่างหนึ่ง เหล้าก็เช่นกัน แต่ละยี่ห้อแต่ละรุ่นมีเอกลักษณ์ในตัวของมันเอง ในเมื่อปฏิเสธไม่ได้ว่าของทุกอย่างได้กลายเป็นงานศิลปะ ถ้าเหล้าเป็นงานศิลปะอย่างหนึ่ง เราอย่ากินเหล้าให้เมา เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่เราเมาแสดงว่าเหล้ากินเราเอง วันนี้คำถามคือแล้วศิลปะอะไรที่ทำให้ชีวิตคุณมีความสุขมากกว่า”

"ดร.อัฐวุฒิ ปภังกร" ปลดล็อกตัวเองเพื่อความสุขของชีวิต

ทั้งหมดที่ ดร.อัฐวุฒิ เล่ามานี้ ล้วนเป็นสิ่งที่สะท้อนตัวตนของเขาออกมาในรูปแบบของร้าน Duke เกษรพลาซ่า ที่ตัวเขาเองเป็นหุ้นส่วน เขาตั้งใจให้เป็นหนึ่งในสถานที่รวมไลฟ์สไตล์ของผู้ชาย และงานศิลปะจัดอยู่ในสถานที่เดียวกันทั้งหมด

“เรารู้อยู่แล้วว่าการที่เราได้เงินมามันไม่ได้เป็นการตอบโจทย์ความรู้สึกบางอย่างที่เงินให้ความรู้สึกนั้นไม่ได้ แต่ในร้าน Duke นั้นรวมหลายอย่างที่ผมรักอยู่ที่นี่ทั้งหมด งานศิลปะเราได้แมกกาซีน ไฟน์อาร์ต จัดการเรื่องนำงานศิลปะมาจัดแสดง ภาพวาดที่ผนังร้านเราจะลบแล้วให้ศิลปินมาวาดใหม่เป็นระยะๆ เครื่องดื่มภายในร้านเสิร์ฟภายใต้มาตรฐานของวอเตอร์ ไลบรารี่

มีห้องส่วนตัวให้ผู้ใหญ่เข้ามานั่งคุยงานกัน นักธุรกิจสามารถเข้ามานั่งดื่มเหล้า พบปะเพื่อนใหม่ มีสังคมใหม่ที่ชอบในสิ่งเดียว เป็นสถานที่ที่ให้เราได้ปลดล็อกตัวเอง

เพราะอย่างที่เรารู้กัน เวลาคนเราขึ้นไปถึงอายุช่วงหนึ่ง เราจะพบว่าเพื่อนน้อยลงทุกครั้ง พอเพื่อนน้อยลงสถานที่ที่เราแฮงเอาต์บ่อยที่สุดก็คือบ้านเพื่อน ผมอยากให้สถานที่แห่งนี้มีความรู้สึกว่าเป็นเหมือนบ้านเราหรือบ้านของเพื่อน ถ้าเราทำให้รู้สึกว่าที่นี่เป็นบ้านเราจะอยากมา

บางวันผมจะมาที่นี่เพื่อนั่งทำงานในช่วงบ่ายที่โต๊ะตัวเดิม มองลูกค้าและผู้คนที่เดินเข้ามาในร้าน มีฝรั่งมานั่งดื่มกาแฟบ้าง บางวันก็อาจจะมีผู้ใหญ่เข้ามานั่งคุยงานในห้องไพรเวท ได้เจอะเจอผู้คนใหม่ๆ และผมได้เพื่อนจากที่นี่เยอะมาก และเราสามารถเรียนรู้ชีวิตคนได้จากการที่เรานั่งดื่มเหล้ากับสูบซิการ์เพียงแค่ชั่วโมงเดียว ซึ่งซิการ์ก็เป็นหนึ่งในรสนิยมส่วนตัวที่ผมชื่นชอบ

บางคนบอกว่าการสูบซิการ์นั้นไม่ดี แล้วทำไมการสูบบุหรี่ไฟฟ้าถึงเรียกว่าดี ทั้งที่จริงแล้วคนสูบซิการ์เขาไม่ได้สูบกันทุกวัน บางคน 2 เดือนสูบครั้งหนึ่ง บางคน 1 ปี สูบแค่ 2 มวน ซิการ์เป็นเหมือนการอัพเกรดความสุขของชีวิตในช่วงเวลาหนึ่ง ที่จะได้ปลดปล่อยความสุขส่วนตัวออกมา แสดงรสนิยมส่วนตัวออกมา

"ดร.อัฐวุฒิ ปภังกร" ปลดล็อกตัวเองเพื่อความสุขของชีวิต

มีคำกล่าวว่ามีผู้ชาย 2 คนเดินมาด้วยกัน 1 คนสูบซิการ์ 1 มวน ใช้เวลา 1 ชั่วโมงเราได้รู้จักได้เรียนรู้จากคนคนนั้นในช่วงเวลานั้นพอแล้ว เช่นเดียวกับการดื่มเหล้าที่เรารู้ทันทีว่าเขาเป็นคนอย่างไร เขาดื่มอะไร เขามีอารมณ์ในการคุยงาน หรือเขาเป็นคนขายของตลอดเวลา เป็นคนทำงานเร็วหรือเป็นคนสนุกสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่บอกตัวตนของเราได้เป็นอย่างดี

ที่ผ่านมาผมทำธุรกิจหลายอย่าง สนุกกับการเรียนรู้ธุรกิจหลากหลายประเภท แต่ก็ทำให้ผมรู้สึกเหนื่อยมากเช่นกัน วันนี้ผมจึงอยากให้ความสำคัญกับความสุขของตัวเอง ให้ความสำคัญกับบาลานซ์ชีวิต หากเราทำให้ความฝันและแรงบันดาลใจของเราเป็นงานที่ชื่นชอบได้ เราจะมีความสุข แต่หากเรามองไปที่เรื่องเงินเพียงอย่างเดียว ชีวิตเราจะไม่ต่างอะไรกับพนักงานกินเงินเดือน

ผมเชื่อว่าทุกคนมีความฝัน มีสิ่งที่อยากจะลองทำแต่ไม่กล้าที่จะทำ มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราอยากจะลองแต่ไม่กล้าที่จะปลดล็อกความสุขของตัวเองออกมา คนที่มีครอบครัวแล้ว ผมยอมรับว่าการให้เวลาความสุขกับคนในครอบครัวคงจะเป็นความสุขมากๆ อย่างหนึ่ง

แต่กับบางคนที่รักการถ่ายภาพ แค่มีกล้องไลก้าราคาแพงที่เป็นรุ่นในฝันแค่ตัวเดียว แล้วขอเวลาปล่อยให้เขาเดินถ่ายรูปกับกล้องตัวโปรดแค่ไม่กี่ชั่วโมงนี้ก็มีความสุขมากแล้ว

ความสุขของเราจริงๆ ไม่ได้เกิดขึ้นจากอะไรหรอก มันเกิดขึ้นจากตัวเราเอง แค่เรากล้าที่จะปลดล็อกตัวเองไปลองสิ่งใหม่ๆ เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ หาความสุขในชีวิตด้วยตัวเราเองมากกว่า”

"ดร.อัฐวุฒิ ปภังกร" ปลดล็อกตัวเองเพื่อความสุขของชีวิต

"ดร.อัฐวุฒิ ปภังกร" ปลดล็อกตัวเองเพื่อความสุขของชีวิต