posttoday

สมรภูมิเดือด รถโดยสารสาธารณะ

30 มิถุนายน 2561

ยุคดิจิทัลออนไลน์ได้พลิกโฉมหน้าบริการขนส่งสาธารณะ โดยเฉพาะรถโดยสารสาธารณะประเภทแท็กซี่ไปอย่างสิ้นเชิง

เรื่อง : พรเทพ เฮง [email protected]

ยุคดิจิทัลออนไลน์ได้พลิกโฉมหน้าบริการขนส่งสาธารณะ โดยเฉพาะรถโดยสารสาธารณะประเภทแท็กซี่ไปอย่างสิ้นเชิง และนี่คงเป็นยุคสุดท้ายของบรรดาแท็กซี่ยุคเก่าที่เอาแต่ไม่รับผู้โดยสาร

ติดตามข้อมูลของการลงทุนของบริษัทยักษ์ใหญ่ในอาเซียน ที่เข้ามาสยายปีกทำธุรกิจด้านนี้ในประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว ก็พอจะมองเห็นภาพการกวาดล้าง (Disturb) รถแท็กซี่ในระบบเดิมไปอย่างแน่นอน

เริ่มจากโตโยต้า มอเตอร์ ประกาศซื้อหุ้น “แกร็บ” เพิ่มอีก 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3.2 หมื่นล้านบาท โตโยต้าเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลกและถือว่าเป็นเบอร์ 1 ในเมืองไทย ส่วนแกร็บแท็กซี่ เป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเรียกรถโดยสารที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

จุดนี้ทำให้เห็นความพยายามของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ต้องการเข้ามามีบทบาทในธุรกิจบริการมากขึ้น แข่งขัน และหาทางร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีไปพร้อมๆ กัน เพื่อเปิดตลาดบริการเกี่ยวกับการเดินทางโดยที่ผ่านมา โตโยต้าได้ลงทุนในบริษัท อูเบอร์ เทคโนโลยีส์ ของสหรัฐ และบริษัท เจแปน แท็กซี่

รวมถึงก่อนหน้านั้น แกร็บ ได้ซื้อกิจการอูเบอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้ข้อตกลงที่ถือว่ามีมูลค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์การซื้อธุรกิจออนไลน์ในภูมิภาค โดยแกร็บจะควบรวมกิจการเรียกรถโดยสารผ่านแอพพลิเคชั่นและรับส่งอาหารของอูเบอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าไว้ในแพลตฟอร์มการให้บริการขนส่งและบริการทางการเงินอันหลากหลายของแกร็บ

เท่านี้ก็พอทำให้เห็นภาพโครงสร้างหลักของการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ในการสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ของแท็กซี่ในเมืองไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะรถแท็กซี่บนท้องถนนในเมืองไทยเกือบทั้งหมดใช้รถโตโยต้าเมื่อผู้ผลิตที่สำคัญของรถแท็กซี่มาร่วมเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มธุรกิจให้บริการแท็กซี่เอง จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างมากว่าจะเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าไปอย่างไร?

ในอีกด้านหนึ่งสมรภูมินี้เพิ่งเริ่มต้นและยังเปิดกว้างอยู่เสมอ แม้อูเบอร์ถอยให้แกร็บ แต่มีส่วนร่วมในผลประโยชน์อย่างไม่ต้องลงสนามมากนักในอีกด้านผู้ท้าชิงก็เริ่มประกาศตัว เมื่อ เก็ท แอพพลิเคชั่นแบบออนดีมานด์ของไทย ที่ให้บริการหลากหลาย โดยจะเริ่มจากบริการเรียกรถสาธารณะ ได้ประกาศความร่วมมือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการขยายธุรกิจของ “โกเจ็ก” ผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นเรียกรถรับส่งรายใหญ่ของอินโดนีเซีย และได้แถลงงบลงทุนรวมกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือราว 1.6 หมื่นล้านบาท) เพื่อขยายธุรกิจเข้าสู่ประเทศเวียดนาม สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และไทย

ก่อนหน้าที่จะเข้ามาสู่เมืองไทย โกเจ็ก ได้ทำการเพิ่มทุน โดยได้รับการสนับสนุนจากบริษัทชั้นนำต่างๆ อาทิ กูเกิล วอร์เบิร์ก พินคัส เคเคอาร์เทนเซนต์ และเหม่ยถวน-เตี้ยนผิง

การมาทำตลาดแข่งขันกันระหว่าง แกร็บ กับ โกเจ็ก ในการให้บริการรถโดยสารสาธารณะหรือแท็กซี่ รวมถึงรถส่วนบุคคลที่มาร่วมให้บริการ นับว่าเป็นการเปิดสมรภูมิที่จะช่วยยกระดับธุรกิจด้านนี้ ในเชิงการแข่งขันเพื่อให้บริการผ่านเทคโนโลยีของอนาคตที่ดีที่สุดให้ผู้ใช้บริการ

แน่นอน มิติใหม่ของรถโดยสารสาธารณะกำลังจะเกิดขึ้นอย่างเต็มรูปแบบในเมืองไทย