posttoday

ชีวิตที่ ‘ชิค’ ทั้งกาย & ใจ กิจจา ปัทมสัตยาสนธิ

23 มิถุนายน 2561

กิจจา ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชิค รีพับบลิค

โดย บงกชรัตน์ สร้อยทอง 

กิจจา ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชิค รีพับบลิค (CHIC) วัย 60 ปี ที่กำลังจะนำบริษัทเสนอขายหุ้นให้ประชาชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) และจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในไตรมาส 3 ถือเป็น
คนอยู่ในแวดวงเฟอร์นิเจอร์มา 30 ปี

ตั้งแต่ยุคแรกของ “อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์” ที่ผันตัวเองจากวิศกรทางด้านเคมีและอุตสาหการ มาจับงานการผลิตเฟอร์นิเจอร์ โดยช่วยคุณอามาขยายการตลาดไปต่างประเทศ อย่างตะวันออกกลาง สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น โดยเริ่มต้นที่เคยรับจ้างผลิตจากลูกค้ากลุ่มสิงคโปร์ จนทำให้ออกไปหาลูกค้าต่างประเทศเอง รวมทั้งออกงานแสดงสินค้าที่ต่างประเทศ และสะสมมิตรภาพ ทำความรู้จักทั้งผู้ผลิตและตลาดต่างประเทศไว้

จนมาเมื่อ 7 ปีที่แล้วได้ขายหุ้นอินเด็กซ์ฯ และมาหาช่องว่างทางการตลาดกลุ่มสินค้าตกแต่งบ้านระดับกลางถึงบน ซึ่งเป็นการสะสมข้อมูลและพฤติกรรมของลูกค้ามานาน เนื่องจากปกติเสาร์-อาทิตย์ จะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับลูกค้า จนเห็นว่ามีกลุ่มลูกค้าที่มาจากต่างจังหวัดที่มีกำลังซื้อมาก ยังเป็นช่องว่างที่เขาพอที่จะสร้างสรรค์หรือสร้างโอกาสทางธุรกิจได้ เพราะเขาเชื่อว่า “ทุกอย่างมีโอกาส โดยบางครั้งต้องอาศัยในระยะเวลาที่เหมาะสมเป็นองค์ประกอบด้วย”

จนก่อตั้ง ชิค รีพับบลิค ที่หาช่องว่างทางการตลาด เจาะหาความแปลกใหม่ และการสร้างความมีตัวตนให้แต่ละสินค้า หรือการมีคุณค่าในตัวสินค้าที่มีดีไซน์ และใช้การแลกเปลี่ยนข้อมูลกับแหล่งผลิตหรือโรงงานต่างๆ ที่รู้จักกันกว่า 40-50 แห่ง จาก 6 ประเทศ ทำให้ชิคฯ สามารถออกแบบและดีไซน์สินค้าเองได้ตามความต้องการ เพราะสามารถเลือกสั่งการผลิตที่แต่ละโรงงานมีความถนัดเฉพาะด้าน

ชีวิตที่ ‘ชิค’ ทั้งกาย & ใจ กิจจา ปัทมสัตยาสนธิ

ปัจจุบันเขากำลังอยู่ระหว่างการเตรียมตัวในการเข้ามาก้าวเข้ามาสู่การเป็นบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ใน mai เพื่อนำเงินระดมทุนไปขยายสาขาและเป็นเงินทุนหมุนเวียน แต่เขาก็ยังแบ่งเวลาว่างที่หลุดจากโหมดงานให้กับตัวเองและครอบครัวอยู่เสมอ

หากเป็นวันว่างเสาร์-อาทิตย์ เขาจะชอบให้ลูกพาไปทานอาหารนอกบ้านตามร้านอาหารใหม่ๆ ตลอดเวลา ด้านหนึ่งคือได้ใช้เวลาร่วมกันกับลูก อีกด้านหนึ่งคือการไปสถานที่แปลกใหม่เพื่อดูดีไซน์ว่าร้านนี้ทำไมคนถึงนิยมมากิน ทำไมร้านนี้มีการตกแต่งที่ดูเก๋ สวย และชิค
ก็จะมีการแลกเปลี่ยนมุมมองกัน

ขณะที่ในระยะเวลา 1 ปี จะมีข้อตกลงกันระหว่างในครอบครัวว่าจะต้องเดินทางไปต่างประเทศด้วยกันทั้งหมด 2 ครั้ง ซึ่งจะให้ลูกสาวทั้งสองคนเป็นคนจัดการวางแผนทริปการเดินทาง จองโรงแรม แต่ทั้งหมดป๊าจะออกค่าใช้จ่ายให้ จะเป็นผู้ตามอย่างเดียว

“เพราะถ้าเราเป็นคนคิดว่าจะไปไหนเที่ยวอะไร ใจหนึ่งลูกอาจจะไม่ได้อยากไปด้วยก็ได้ แต่การที่ให้ลูกๆ ได้เลือกและจัดการเองหมดทุกอย่าง ทำให้เราได้มีเวลาใกล้ชิดเขา ได้เรียนรู้ว่าเขามีมุมมองในเรื่องต่างๆ อย่างไรในตอนนี้ และทำให้เราได้เห็นพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ว่าตอนนี้เขาคิดหรือมีมุมมองเรื่องอะไรอยู่ ซึ่งก็สนุกดี”

ชีวิตที่ ‘ชิค’ ทั้งกาย & ใจ กิจจา ปัทมสัตยาสนธิ

เขายกตัวอย่างให้ฟังอย่างสนุกสนานว่า อย่างบางครั้งเขาก็ไม่ได้พาไปพักที่โรงแรมแพงๆ เลือกจองแบบ Airbnb ซึ่งเป็นที่นิยมของการพักสมัยนี้ที่ต้องไปเช็กอินเอง ดำเนินการติดต่อเจ้าของห้องพักเอง ซึ่งบางทีอยู่ในซอยของชินจูกุ ต้องเดินลัดเลาะเอาเอง

“ก็อาจจะมีรู้สึกไม่สะดวกสบายบ้าง ใจตอนนั้นก็นึกถึงที่พักแบบโรงแรมที่มีบริการสบาย แต่ก็ร่วมกับเขา (หัวเราะ) หรือตอนที่เขาพาไปที่ซานฟรานซิสโกที่สหรัฐ ซึ่งตอนนั้นลูกสาวเรียนปริญญาตรีด้านบริหารธุรกิจ ก็ทำให้เราได้ไปเปิดโลกทัศน์ ไปเจอย่านขายของมือสองเสื้อผ้าแบรนด์ดังๆ เพียบเลย ซึ่งก็จะเห็นคนที่มาเลือกซื้อเพื่อต้องการหาเสื้อผ้าแบรนด์ที่ราคาถูกๆ และก็เห็นถึงมีคนมาช็อปหอบเสื้อผ้าเหล่านี้ไปขายกัน เราก็เข้าใจว่า อืม! ลูกสาวเราก็ประหยัดดีนะ มาซื้อของที่แบบยังดูดี จากที่เคยเห็นในห้างราคาหลักพันก็ได้มาในหลักร้อย ก็รู้สึกว่าเขารู้จักค้นหาข้อมูลได้เก่ง”

สิ่งที่ได้ฝึกลูกสาวในการที่ทำให้เขารู้จักบริหารจัดการต่างๆ เอง และการได้ใช้เวลาที่ใกล้ชิดกันด้วย เพราะมองว่าอนาคตเมื่อเขาโตขึ้น ลูกสาวทั้งสองคนต่างก็ต้องมีหน้าที่รับผิดชอบมากขึ้น การที่จะมีโอกาสใกล้ชิดกับเขาจะน้อยลง ยิ่งอนาคตเธอทั้งสองต้องแยกไปมีครอบครัว

สำหรับชีวิตส่วนตัวของ กิจจา เขาให้เวลาการดูแลตัวเองเป็นประจำทุกเช้าเวลา 06.30 น. จะวิ่งบนสายพานลู่วิ่งที่ฟิตเนสเป็นเวลา 40 นาที จากนั้นจะมีการออกเวตบ้าง เรียกได้ว่า 7 วัน เขาได้ออกกำลังกายทุกวัน อย่างน้อย 6 วันก็ที่สายพานลู่วิ่ง ส่วนอีก 1 วันที่เหลือคือ เช้าวันเสาร์จะออกไปตีกอล์ฟกับเพื่อนๆ หลายกลุ่มเป็นประจำทุกวันเสาร์ในช่วงเช้า 11 โมง จบก็กินข้าวเฮฮากับเพื่อนๆ ต่อแล้วบ่ายก็กลับบ้าน

ชีวิตที่ ‘ชิค’ ทั้งกาย & ใจ กิจจา ปัทมสัตยาสนธิ

“ตอนนี้เหมือนติดการออกกำลังกายแล้ว วันไหนตอนเช้าไม่ได้ออกกำลังกาย เหงื่อไม่ได้ออก เหมือนชีวิตไม่สดชื่น เพราะปกติพอออกกำลังกายเสร็จ พัก แล้วก็อาบน้ำ เหมือนร่างกายกลับมากระปรี้กระเปร่าและรู้สึกสดชื่นทุกครั้ง”

สิ่งที่เขาบอกว่าสิ่งหนึ่งที่คิดว่าจะไม่เคยทำได้ แต่ก็ทำได้และใช้ชีวิตไปกับมันได้เป็นอย่างดีคือ การเปลี่ยนวิถีชีวิตมาอยู่ที่คอนโดมิเนียม จากเดิมที่เคยใช้เวลาเดินทางมาส่งลูกสาวคนเล็กที่เรียนอยู่นิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ใช้เวลาชั่วโมงกว่า แต่พอย้ายมาอยู่คอนโดไปกลับเพียงครั้งละ 25 นาที เช้ามีเวลาออกกำลังกายและมีเวลากินข้าวเช้าก่อนไปทำงานได้อีก จากเดิมที่ไม่ค่อยได้กินข้าวเช้า จนตอนนี้ถ้ามีการติดประชุมกินเวลาไปเที่ยงถึงบ่ายโมงก็ไม่ค่อยรู้สึกหิวเท่าไร

“ตอนแรกคิดเหมือนกันว่าจะรู้สึกอึดอัด อยู่ไม่ได้กับชีวิตในคอนโด เพราะจากที่เคยมีพื้นที่และใช้ชีวิตในบ้านเป็นส่วนใหญ่ เคยออกกำลังกายเดินและวิ่งในหมู่บ้าน เพราะคิดว่ามันอยู่ที่ใจเรา แต่พอเอาเข้าจริงเราอยู่ได้ และวิถีการดำรงชีวิตดีขึ้นเรื่อยๆ ด้วย แถมยังไปแนะนำคนอื่นๆ ด้วยใครที่ต้องเสียเวลาเดินทางบนรถเป็นชั่วโมง ถ้ามีโอกาสเปลี่ยนมาอยู่คอนโดแล้วเอาเวลาที่เหลือมาออกกำลังกายทุกวันชีวิตก็ดีขึ้น ซึ่งผมก็ไม่ค่อยได้ป่วยเหมือนเมื่อก่อน และเมื่อก่อนเวลาจะออกกำลังกายก็ได้แค่เพียงวันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น ซึ่งพออายุมากขึ้นการออกกำลังกายเป็นเรื่องสำคัญมาก”

นอกจากนี้ มองว่าการอยู่คอนโด ความที่อายุมากแล้วการเดินขึ้นลงบันไดก็ไม่ค่อยสะดวก แต่ที่คอนโดเป็นการเดินระนาบชั้นเดียว แล้วก็ไม่ต้องคอยห่วงระบบรักษาความปลอดภัย ที่จอดรถก็มีพร้อมเสร็จสรรพ ถึงตอนนี้เขาบอกว่ากลายเป็นเกือบเวลา 2 ปีแล้วที่ไม่ได้กลับไปบ้านแถวนอกเมืองเลย แต่ภรรยาจะกลับไปดูทุกวันสุดสัปดาห์เสมอ

ส่วนการตีกอล์ฟก็เป็นกิจกรรมที่ทำต่อเนื่องกับเพื่อนมานานหลายปีแล้ว เจอกันแทบทุกอาทิตย์ และ 1 ปีที่ต้องมีกำหนดออกไปออกรอบที่ต่างจังหวัดปีละ 2 ครั้ง

ชีวิตที่ ‘ชิค’ ทั้งกาย & ใจ กิจจา ปัทมสัตยาสนธิ

“วนกันไปที่หัวหิน เขาใหญ่ สลับหมุนเวียนกันไป สิ่งที่ได้กลับมาคือการได้เจอเพื่อนๆ ที่คบกันมานานหลายสิบปี มีแต่เรื่องความจริงใจให้แก่กัน ไม่มีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทุกอย่างคบกับความรู้สึกที่ดีต่อกันไป เล่นกอล์ฟก็กินข้าวคุยสนุกสนาน รู้สึกแฮปปี้มาก”

สำหรับการให้เวลาตัวเอง กิจจา บอกว่างานอดิเรกเมื่อก่อนจะอ่านหนังสือเรื่องทั่วไปหรือหลักการบริหารต่างๆ แต่เดี๋ยวนี้ซื้อหนังสือน้อยลง แต่ทุกคืนจะหาข้อมูลเรื่องที่อยากรู้จากไอแพด

“นึกอะไรได้ค้นหากูเกิล โดยเฉพาะเรื่องดีไซน์เครื่องเฟอร์นิเจอร์ใหม่ เทรนด์แนวโน้มสินค้า ดูแบรนด์ดังๆ ที่เขามีการพัฒนาดีไซน์สินค้าไปถึงไหนแล้ว แล้วก็นำมาคุยกับทีมงาน จนเหมือนเป็นชีวิตประจำวันที่ทำไปโดยอัตโนมัติว่าผมมักมีอะไรมาคุยกับทีมงานใหม่ๆ อยู่เสมอ”

จะเห็นได้ว่าชีวิตผู้บริหารคนนี้ เวลางานก็หาข้อมูลเต็มที่ เวลานอกเหนือจากงานก็แบ่งสันปันส่วนทั้งชีวิตส่วนตัว การออกกำลังกายได้ดี เลยไม่สงสัยว่าทำไมเขามีความ “ชิค” ในชีวิตได้จริงๆ