posttoday

สมบัติ นราวุฒิชัย ให้โอกาสคนเก่ง คนดี มีความตั้งใจ

09 มิถุนายน 2561

“สมบัติ นราวุฒิชัย” วัย 57 ปี เลขาธิการและกรรมการผู้อำนวยการสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน อยู่ในวงการตลาดทุนมาตั้งแต่ปี 2531

โดย วารุณี อินวันนา

“สมบัติ นราวุฒิชัย” วัย 57 ปี เลขาธิการและกรรมการผู้อำนวยการสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน อยู่ในวงการตลาดทุนมาตั้งแต่ปี 2531 ชีวิตการทำงานอยู่ในฟากเอกชนมาตลอด มีเพียงช่วงสั้นที่ไปรับตำแหน่ง เลขาธิการ คณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) องค์กรของรัฐในช่วงปี 2557-พ.ค. 2560 ซึ่งเป็นการลาออกก่อนครบวาระในเดือน พ.ย.ปีเดียวกัน

สมบัติ กล่าวว่า การอยู่ในวงการนักวิเคราะห์หลักทรัพย์มาได้ยาวนาน เพราะเป็นคนที่ชอบวิชาคณิตศาสตร์ และชอบติดตามข่าวสารทางการเมือง ชอบดูกีฬาฟุตบอล ดูกีฬามวย เมื่อเรียนปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จึงเลือกเรียนบริหารธุรกิจ และได้เลือกเรียนวิชาเลือกการวางแผนการเงินส่วนบุคคล เป็นจุดเริ่มต้นของการชอบตลาดทุน คิดว่าหากมีโอกาสจะต้องเข้าไปลงทุนในหุ้นให้ได้

ภายหลังจบปริญญาตรี เข้าไปทำงานที่ธนาคารกสิกรไทยฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ปริญญาโทจึงเลือกเรียนด้านการเงิน

สมบัติ นราวุฒิชัย ให้โอกาสคนเก่ง คนดี มีความตั้งใจ

“ช่วงทำงานเริ่มมีเงินเก็บ ก็เริ่มซื้อขายหุ้นกับเพื่อน จำได้ว่าปี 2530 หุ้นขึ้นจาก 120 จุด ไปอยู่ที่ 470 จุดทางกลุ่มเราคึกคักมาก และในปี 2531 ทางบริษัทหลักทรัพย์ นวธนกิจ ได้เชิญให้ไปร่วมงานโดยมอบหมายให้จัดตั้งฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ ถูกใจเราเลย เพราะ
ช่วงนั้นหลังเลิกงานเราจะมานั่งวิเคราะห์หุ้นกับเพื่อนๆ เพื่อหาหุ้นลงทุน และในปี 2533 ก็ได้เป็นผู้ให้สัมภาษณ์สื่อมาตลอด” สมบัติ กล่าว

สิ่งที่ชอบในวัยเด็ก ไม่ว่าจะเป็นคณิตศาสตร์ การเมือง ฟุตบอล และมวย ล้วนแต่เอื้อต่อการทำงาน เพราะคณิตศาสตร์ทำให้ประเมินปัจจัยออกมาในเชิงตัวเลขได้ หรือการเมืองก็มีส่วนต่อการตัดสินใจลงทุน การที่ติดตามมาตลอดทำให้เห็นพฤติกรรมและกลยุทธ์ของนักการเมือง สามารถวิเคราะห์ได้ว่าจะออกมาในรูปแบบไหน ในขณะที่ฟุตบอล จะให้ประโยชน์เรื่องการทำงานเป็นทีม การตัดสินใจในการวางกลยุทธ์รุก หรือรับตามสถานการณ์ต่างๆ คล้ายๆ การลงทุน เช่น อยากได้ผลตอบแทนเยอะๆ ก็ต้องรุกเร็ว ได้จังหวะยิงเปรี้ยงทำประตู แต่ถ้าพลาดก็เสียประตู ส่วนมวย จะได้ประโยชน์จากการที่ต้องฝึกซ้อมบ่อยๆ สม่ำเสมอ ถึงจะเป็นนักมวยที่เก่งได้ สามารถนำมาใช้ในการทำงานได้ทั้งหมด

ในการทำงาน ยังคงยึดหลัก ใจซื่อ มือสะอาด แม้ในวัยหนุ่มช่วงที่ทำงานธนาคาร จะชอบลงทุนในหุ้นแบบซื้อ/ขายหรือเทรดรายวัน แต่เมื่อเข้ามาเป็นนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ก็เลิกเทรด แต่เน้นการลงทุนระยะยาว และปฏิบัติตามกฎเกณฑ์อย่างเคร่งครัด ช่วงที่ไปเป็นเลขาธิการ กบข.ก็ปิดบัญชีลงทุนในหุ้น และยังให้ภรรยาปิดบัญชีด้วย เพราะต้องการสร้างความน่าเชื่อถือจากงานที่ทำ ซึ่งก็ได้รับการยอมรับจากคนในวงการ

สมบัติ นราวุฒิชัย ให้โอกาสคนเก่ง คนดี มีความตั้งใจ

ทั้งนี้ จะเน้นความจริงใจในการทำงาน ไม่สร้างผลกระทบให้คนโดยไม่จำเป็น แสดงความเป็นมืออาชีพด้านการทำงาน การบริหารคน เพราะการเข้าไปบริหารจัดการ ย่อมมีผู้ได้รับผลกระทบ มีทั้งคนที่ให้การต้อนรับ รวมถึงคนไม่เชียร์ แต่ต้องไม่อคติ ให้โอกาสทุกคนได้พิสูจน์
ความสามารถ หากเป็นคนเก่ง คนดี และมีจิตใจตั้งมั่นในการทำงานอย่างเสียสละ ทุกคนจะได้รับโอกาสและได้รับการสนับสนุนเต็มที่

ขณะเดียวกัน ต้องเข้าใจธรรมชาติขององค์กรแต่ละแห่งที่จะแตกต่างกัน

“การเล่นฟุตบอล วัยเราจะให้ไปวิ่งเตะแข่งกับเด็กๆ ก็ไม่ไหว แต่สามารถคุยเรื่องฟุตบอลได้ หรือเวลาสังสรรค์เด็กๆ จะแดนซ์กัน เราเต้นไม่เก่ง แต่เราชอบร้องเพลงอยู่แล้ว ก็ร้องเพลงให้เด็กๆ แดนซ์ ก็ถือว่าสนุกร่วมกันได้” สมบัติ กล่าว

สมบัติ นราวุฒิชัย ให้โอกาสคนเก่ง คนดี มีความตั้งใจ

สมบัติ กล่าวว่า เทคโนโลยีใหม่ก็ต้องตามให้ทันและรู้จักใช้ประโยชน์ และหยิบมาใช้ในมุมที่สร้างสรรค์ อย่างการใช้เฟซบุ๊ก ต้องไม่เล่นมากเกินไป ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งในการทำงานวิเคราะห์ การเกิดของดิจิทัล ทำให้ข้อมูลข่าวสารท่วมตัว อ่านแทบไม่ทัน วันนี้การแข่งขันต่อสู้ในเชิงการวิเคราะห์การลงทุนขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ การวิเคราะห์ข้อมูล และความชำนาญ ไม่ใช่โลกของการหาข้อมูลเหมือนอดีตปัจจัยที่เข้ามากระทบการลงทุนเพิ่มขึ้น สินทรัพย์ในการลงทุนเพิ่มขึ้น แต่ความเสี่ยงยังเป็นเรื่องเดิม สมัย 30 ปีก่อน เคยคิดว่า ถ้าตลาดทุนไทยพัฒนาก้าวไกล นักลงทุนมีความเข้าใจเรื่องการลงทุนมากขึ้น มีประสบการณ์ ได้บทเรียน ความเสี่ยงจะลดลง และภาพหุ้นตกหนักจะไม่เกิดขึ้น แต่การพิสูจน์จากตัวเลข สถิติความเสี่ยงไม่ได้ลดลง ไม่ว่าจะเป็นปี 2541 ปี 2551 หุ้นตกกระจาย เพราะพฤติกรรมของสินทรัพย์เสี่ยง วงจรเศรษฐกิจ และการตัดสินใจของคนยังเหมือนเดิม

สมบัติ กล่าวว่า จากการที่ทำงานประจำ ไม่ใช่รับงานแค่บางโครงการ หรือรับงานเป็นรายวัน เราต้องยืนระยะให้ได้ สุขภาพกายจึงต้องพร้อม และต้องสร้างสมดุลชีวิตการทำงานกับครอบครัว ได้ทำในสิ่งที่ชอบ ดูหนัง ฟังเพลง ร้องเพลง ติดตามเกมฟุตบอล สังสรรค์ ทำให้เกิดความผ่อนคลายทางใจ

“หากสุขภาพพัง องค์กรก็ได้รับผลกระทบ ตัวเองก็ได้รับผลกระทบ เพราะความเฉียบคมในการคิด วิเคราะห์ การตัดสินใจ การทำงาน จะไม่ได้ผล ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาจึงมีพักร้อน เพราะการทำงานที่สำคัญ สุขภาพต้องมีความพร้อมตลอดเวลาเพื่อให้งานเกิดความต่อเนื่อง”

สมบัติ นราวุฒิชัย ให้โอกาสคนเก่ง คนดี มีความตั้งใจ

เขายกตัวอย่าง นักฟุตบอล ทันทีที่บาดเจ็บ ต้องพักทันที เพราะหากไม่พัก ไม่สามารถเป็นนักเตะได้ คนทำงานก็เหมือนกันหากรู้ว่าสุขภาพเริ่มไม่ดีแล้ว ต้องพัก ถ้าไม่พักอาจทำให้ชีวิตพังได้ การที่ร่างกายแข็งแรง มีเวลาพัก จิตใจผ่อนคลาย จะทำให้ช่วงเวลาที่เราทำงานมีประสิทธิภาพขึ้น ทำงานได้เร็วขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงที่ร่างกายอ่อนล้า