posttoday

บาดเจ็บบริเวณข้อต่อ อย่ารีรอรีบรักษา

21 เมษายน 2561

ข้อ หรือข้อต่อ (Joints) ในทางกายวิภาค ศาสตร์ หมายถึงบริเวณที่กระดูกตั้งแต่ 2 ชิ้นขึ้นไปมีการติดต่อกัน

โดย โสภิตา สว่างเลิศกุล [email protected] ภาพ : อีพีเอ

ข้อ หรือข้อต่อ (Joints) ในทางกายวิภาค ศาสตร์ หมายถึงบริเวณที่กระดูกตั้งแต่ 2 ชิ้นขึ้นไปมีการติดต่อกัน โดยที่มีกระดูกอ่อนหุ้มที่ปลายกระดูก และปกคลุมรอบตัวเยื่อบุข้อซึ่งทำหน้าที่สร้างน้ำหล่อลื่นและยังช่วยห่อหุ้มให้แข็งแรงและมั่นคง

ภายนอกข้อต่อที่สำคัญคือ เอ็นยึดข้อ หรือบางทีจะมีหมอนกระดูกอ่อนรองข้อ เช่น ข้อเข่าทำให้กระดูกมีการทำงานร่วมกันเป็นระบบ เพื่อการค้ำจุนปกป้องร่างกายและการเคลื่อนไหวในรูปแบบต่างๆ ที่เหมาะสม

การบาดเจ็บที่ข้อต่อมีดังนี้ ข้อเคล็ด-ข้อแพลงมี 3 ระดับ คือ ระดับที่ 1 มีการฉีกขาดของเอ็นเล็กน้อยหรือมีการยึดของเอ็นบริเวณข้อต่อนั้น กดเจ็บบริเวณที่มีการฉีกขาดแต่จะไม่บวมหรือบวมเล็กน้อย ระดับที่ 2 จะมีความเจ็บปวดมีอาการเสียวที่ข้อต่อเล็กน้อย มีอาการกะเผลก
ไม่สามารถเขย่งปลายเท้าได้ เวลาเดินจะมีอาการบวมเฉพาะที่ ถ้าใช้นิ้วกดจะปวดอย่างรุนแรง ระดับที่ 3  มีการฉีกขาดของเยื่อหุ้มข้อร่วมด้วยเสมอ ทำให้มีเลือดคั่งในข้อหรือซึมอยู่ใต้ผิวหนังจะเห็นข้อเท้าหรือข้อต่อนั้นบวมอยู่ มักจะเกิดจากการพลิกอย่างรุนแรง

ข้อเคลื่อน-ข้อหลุด พบได้บ่อยในกีฬาที่มีการปะทะ เช่น รักบี้ ฟุตบอล เกิดจากการที่หัวกระดูกหลุดออกจากเบ้า อาจหลุดออกเป็นบางส่วนหรือหลุดออกแบบสมบูรณ์ จะมีการฉีกขาดของเอ็นผังผืดและเนื้อเยื่อที่หุ้มรอบข้อต่อ

ข้อบวม เมื่อวิ่งหรือเล่นกีฬาและภายหลังการเล่นกีฬาแล้วมีอาการข้อบวมขึ้น ที่พบได้บ่อยๆ คือ ข้อเข่าอาจเกิดขึ้นในทันที เช่น จากอุบัติเหตุหรือเลือดออกภายในข้อหรือวิ่งมากเกินไป

นพ.พรเทพ ม้ามณี ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ การผ่าตัดผ่านกล้อง และเวชศาสตร์การกีฬาสถาบันเวชศาสตร์การกีฬาและออกกำลังกาย (BASEM) โรงพยาบาลกรุงเทพ ศูนย์เพื่อความเป็นเลิศทางการแพทย์ของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) กล่าวว่า  อาการบาดเจ็บบริเวณข้อ สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งข้อไหล่ ข้อเข่า หรือข้อเท้า และมักสร้างปัญหารุนแรง ใช้เวลาในการรักษานานหลายเดือน

“สาเหตุการบาดเจ็บบริเวณข้อไหล่ อาจเป็นได้ตั้งแต่การบาดเจ็บของกล้ามเนื้อรอบหัวไหล่ เส้นเอ็นหัวไหล่ หรือกระดูกและข้อไหล่เอง ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการปะทะ การกระชากของไหล่หรือการเหนี่ยวแขน หรือการล้มโดยใช้แขนเท้าพื้นหรือล้มแล้วไหล่กระแทกพื้นโดยตรง การเหวี่ยงหรือขว้างบอลอย่างรุนแรง หรือการเอื้อมแขนอย่างมากก็สามารถทำให้เกิดการกระชากอย่างรุนแรงของกล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็นหัวไหล่จนเกิดการบาดเจ็บได้ การรักษาขึ้นอยู่กับตำแหน่งของการบาดเจ็บของข้อไหล่”

นพ.พรเทพ ชี้ว่า ถ้าบาดเจ็บบริเวณกล้ามเนื้อรอบๆ ควรพักการใช้งาน ประคบเย็น รับประทานยาต้านอักเสบและยาคลายกล้ามเนื้อร่วมกับการทำกายภาพ หากเป็นการบาดเจ็บของกระดูกหรือข้อเคลื่อนหลุด ควรดามหรือใส่ผ้าห้อยแขน (arm sling) เพื่อไม่ให้มีการขยับและส่งพบแพทย์โดยเร็วเพื่อรับการรักษาเฉพาะต่อไป เช่น การดึงกระดูกและข้อให้เข้าที่ หรือผ่าตัดเพื่อเย็บซ่อมเส้นเอ็นข้อไหล่ที่หลุดเคลื่อน

บาดเจ็บบริเวณข้อต่อ อย่ารีรอรีบรักษา

“หากข้อไหล่มีอาการบาดเจ็บเรื้อรัง อาจเนื่องมาจากเส้นเอ็นมีการฉีกขาดหลบซ่อนอยู่ ควรพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและวางแผนในการผ่าตัด ส่วนสาเหตุการบาดเจ็บที่หัวเข่าที่พบบ่อย คือ เอ็นไขว้หน้าเข่าขาด มักเกิดจากการเล่นกีฬา การทำกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องมีการปะทะ เกิดการบิดของเข่า หรือเกิดการกระแทกแล้วเอ็นเข่าฉีกขาด”

ขณะที่การบาดเจ็บที่ไม่ได้เกิดจากการปะทะ มักมีสาเหตุมาจากกล้ามเนื้อที่ตึงไม่ยืดหยุ่นหรือไม่มีความแข็งแรง จนทำให้เข่าเกิดการบาดเจ็บแบบสะสม นพ.พรเทพ แนะว่าการปฐมพยาบาลเบื้องต้นคือ คนไข้ควรนอนนิ่งๆ ก่อนอย่าเพิ่งพยายามขยับเอง และควรรีบประคบเย็น

“หากปวดมากขยับไม่ได้ควรหาอุปกรณ์เพื่อดามหรือพันผ้ายึดให้แข็งแรง อย่ากด ดัน ดึงเองเพื่อให้ขาเข้าที่ ควรดามอยู่ลักษณะนั้นจนกว่าจะถึงมือแพทย์ จากสถิติกว่า 80% มักเป็นเอ็นไขว้หน้าเข่า ACL (Anterior Cruciate Ligament) ฉีกเนื่องจากเอ็นไขว้หน้าที่ฉีกนั้นมีแรงตึงในตัวเอ็น เมื่อฉีกไป แต่ละปลายของเอ็นจะหดตัวห่างจากกันไปเรื่อยๆ”

ปัจจุบัน นพ.พรเทพ แจงถึงเทคโนโลยีที่ศัลยแพทย์เลือกใช้คือ เทคนิคการผ่าตัดผ่านกล้องแผลเล็ก เพื่อรักษาเอ็นข้อไหล่ฉีกขาด เอ็นไขว้หน้าเข่าฉีก หมอนรองกระดูกเข่า ฯลฯ  เนื่องจากได้ผลการรักษาที่ได้ผลค่อนข้างดี

“แผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก เสียเลือดน้อย สามารถทำกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นตัวได้ตั้งแต่ 24 ชั่วโมงแรก หรือวันที่สองหลังผ่าตัด สำหรับในผู้ป่วยที่เป็นนักกีฬาแพทย์จะพยายามรักษาและฟื้นฟูให้กลับมาใช้งานได้ดีใกล้เคียงเดิมให้ได้มากและรวดเร็วที่สุด

การฟื้นฟูกล้ามเนื้อภายหลังผ่าตัด จะใช้เครื่องกายภาพบำบัด Alter G (Anti-Gravity Treadmill) เป็นลู่วิ่งในสภาวะไร้น้ำหนักเสมือนเดินอยู่ในลูกบอลลูน มีอุปกรณ์คล้ายถุงลมเพื่อช่วยแบกรับน้ำหนักของร่างกายถึง 80% ของน้ำหนักตัว ลดปัญหาการบาดเจ็บขณะเคลื่อนไหวและลงน้ำหนักขณะออกกำลังกายได้ ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บขณะลงน้ำหนัก ช่วยให้ขยับเดินได้เร็ว”

สุดท้าย นพ.พรเทพ บอกถึงการป้องกัน คือการวอร์มอัพ การยืดเส้นทั้งก่อนและหลังเล่นกีฬาหมั่นฝึกบริหารข้อไหล่ ข้อเข่าเพื่อให้กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นรอบข้อมีความแข็งแรง เพราะสามารถช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการบาดเจ็บได้