posttoday

ดร.เอกก์ ภทรธนกุล เอกอุเรื่องธุรกิจและการตลาด

16 เมษายน 2561

ถ้าเอ่ยถึงนักวิชาการหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงด้านบริหารธุรกิจและการตลาดในยุคนี้ ต้องยกให้ ดร.เอกก์ ภทรธนกุล อาจารย์ประจำภาควิชาการตลาด

โดย วรธาร ทัดแก้ว ภาพ กิจจา อภิชนรจเรข

ถ้าเอ่ยถึงนักวิชาการหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงด้านบริหารธุรกิจและการตลาดในยุคนี้ ต้องยกให้ ดร.เอกก์ ภทรธนกุล อาจารย์ประจำภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นักวิชาการด้านการตลาดที่มีแบ็กกราวด์ด้านการศึกษาที่ไม่ธรรมดา โดยสำเร็จการศึกษาเป็นอันดับหนึ่งจากมหาวิทยาลัยคอร์เนล และเคมบริดจ์

ขณะเดียวกันก็มีผลงานการสร้างแบรนด์ชั้นนำทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น MBK Group ธนาคารกรุงไทย แอร์เอเชีย SCG Packaging และสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จ.เชียงราย

นอกจากนั้น ด้วยความสามารถด้านการถ่ายทอดความรู้ที่ง่ายและสนุก รายการของอาจารย์ทั้งออนไลน์และออฟไลน์จึงได้รับความนิยมอย่างยิ่งจากนักธุรกิจยุคดิจิทัล

ดร.เอกก์ เป็นอาจารย์ที่มีหลายบทบาทให้ต้องรับผิดชอบในเวลาเดียวกัน แต่ทุกบทบาทที่ทำนั้น บทสรุปสุดท้ายอาจารย์ให้ขมวดจบตรงที่ “ความเป็นครู” ผู้ที่ต้องการถ่ายทอดความรู้ต่างๆ ให้แก่ลูกศิษย์หรือบุคคลทั่วไป โดยมองว่าอาชีพครูเป็นอาชีพที่ภาคภูมิใจ

“ตั้งแต่เล็กไม่เคยคิดอยากจะทำอาชีพอื่น เพราะเชื่อว่าครูที่ดีหนึ่งคนจะสามารถสร้างคนที่เก่งและดีได้เยอะมาก แต่ถ้าเป็นเพียงคนที่เก่งมากจะสร้างประโยชน์แก่องค์กรที่ตนอยู่ได้องค์กรเดียวเท่านั้น”

ความคิดนี้ของ ดร.เอกก์ ได้ถูกนำมาเขียนเป็นวัตถุประสงค์ในการขอสมัครเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยอันดับต้นของโลก ทั้งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ และคอร์เนล ประเทศสหรัฐอเมริกา จนกลายเป็นที่สนใจให้กับอาจารย์ของทั้งสองมหาวิทยาลัยอย่างมาก จึงได้รับเลือกให้เข้าศึกษาต่อจากทั้งสองแห่ง

ดร.เอกก์ ภทรธนกุล เอกอุเรื่องธุรกิจและการตลาด

ในท้ายที่สุดก็สำเร็จการศึกษาเป็นอันดับ 1 จากทั้งสองแห่งด้วย เป็นที่น่าภาคภูมิใจในฐานะคนไทยที่มีความสามารถระดับโลก

“ต้องขอบคุณคุณครูสมัยชั้นประถมฯ มัธยมฯ ที่อบรมสั่งสอน ทุกท่านเป็นครูที่ดีมาก จึงทำให้ผมชื่นชมในตัวครูและอยากจะเป็นครู ปัจจุบันผมเป็นครูมาแล้ว 13-14 ปี เริ่มต้นอาชีพครูเร็วมาก เพราะผมชอบที่จะสอนคนอื่นๆ ตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก

ในอดีตก่อนการสอบ เพื่อนๆ จะมารวมตัวกันเพื่อให้ผมติวหนังสือให้ ซึ่งสอนติวกันจริงจังเลย เมื่อเรียนจบปริญญาตรีจากภาควิชาการตลาด คณะบัญชีฯ จุฬาฯ ด้วยเกียรตินิยมอันดับ1 ศ.ดร.กุณฑลี รื่นรมย์ ปรมาจารย์การตลาดไทยท่านเห็นแววจึงชักชวนให้มาสมัครเป็นครู จึงเป็นจุดเริ่มต้นการเป็นอาจารย์เอกก์ของนิสิตในทุกวันนี้”

ดร.เอกก์ เล่าต่อว่า เป็นครูได้ประมาณปีกว่าก็ได้รับทุนจุฬาฯ 100 ปี ไปศึกษาต่อปริญญาโท ด้านการตลาดบริการ ที่มหาวิทยาลัยคอร์เนล ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของโลกในสาขานี้ หลังสำเร็จการศึกษาเป็นอันดับ1 ของหลักสูตรจึงกลับมาสอนหนังสือต่ออีก 2 ปี แล้วได้รับทุนอีกครั้งให้ไปศึกษาต่อในระดับปริญญาเอก ที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ

 “การเรียนการสอนของที่นี่จัดว่าโหดมาก เราต้องเริ่มต้นเรียนปริญญาโทใหม่อีกครั้ง เพราะเขาต้องการจะสอบดูคะแนน หากคะแนนไม่ถึงเกณฑ์จะไม่ให้เข้าเรียนต่อในระดับปริญญาเอก เท่ากับรวมระยะเวลาเรียนที่อังกฤษนี้จนจบปริญญาเอก 4 ปีกว่า

ในระหว่างที่เรียนอยู่ก็ยังสอนหนังสือด้วยเช่นเดียวกัน โดยทุกปิดเทอมจะบินกลับมาสอนที่จุฬาฯ หรือแม้แต่ในขณะที่เรียนอยู่ที่นั่น ก็สอนวิชาการตลาดให้แก่นักศึกษาคณะวิศวะฯ ของเคมบริดจ์ รวมถึงยังได้รับโอกาสให้เป็นนักวิชาการอาคันตุกะ (Visiting Scholar) ที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา อีกด้วย”

อาจารย์ประจำภาควิชาการตลาด จุฬาฯ มองว่า การได้สอนเด็กนานาชาติที่เก่งมาก ยิ่งเป็นโอกาสที่ได้สั่งสมประสบการณ์ความรู้ด้านการตลาดบริหารทั้งฝั่งอเมริกาและอังกฤษ เพราะการจะเป็นครูที่ดี สามารถสอนคนอื่นได้ ตัวเองจะต้องตกผลึกมาหมดแล้ว

ดร.เอกก์ ภทรธนกุล เอกอุเรื่องธุรกิจและการตลาด

สำหรับบทบาทในปัจจุบันของอาจารย์เอกก์ เป็นทั้งนักวิชาการ ที่ปรึกษาด้านการสร้างแบรนด์อย่างยั่งยืนให้แก่องค์กรชั้นนำ นักจัดรายการวิทยุ นักเขียน ในทุกบทบาทที่ทำล้วนมีรางวัลเป็นเครื่องการันตีแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นรางวัลผลงานวิจัยดีเด่นเรื่องแบรนด์องค์กรจากสภาวิจัยแห่งชาติ และบทความวิจัยระดับชาติจากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์

นอกจากนั้น ผลงานวิจัยของอาจารย์เอกก์ยังได้ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการด้านจิตวิทยาอันดับ 1 ของโลกอย่าง Psychological Science ด้วย

สองรางวัลล่าสุดที่ได้รับคือ UK Alumni Awards Finalist 2018 ที่มอบโดย British Council รางวัลทรงเกียรติที่มอบให้แก่ศิษย์เก่าสหราชอาณาจักรดีเด่น ที่สร้างคุณประโยชน์ให้แก่สังคมไทย และที่ดร.เอกก์ภูมิใจอย่างที่สุด คือ การเข้ารับพระราชทานรางวัลเทพทอง ประเภทบุคคลดีเด่นด้านวิทยุ จากรายการ Innovative Wisdom ออกอากาศทางสถานีวิทยุแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 101.5 MHz ซึ่งเป็นรายการวิทยุเพื่อการบริหารธุรกิจโดยคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ ที่อาจารย์จัดต่อเนื่องมานาน

“เพราะอยากให้ความรู้แก่คนที่สนใจ การเป็นนักจัดรายการวิทยุจึงเป็นอีกบทบาทหนึ่ง ที่ผมสามารถนำความรู้ที่มีมาบอกเล่าผ่านรายการวิทยุได้ ซึ่งรายการที่ได้รับพระราชทานรางวัลเทพทองนี้เป็นรายการที่ผมจัดมายาวนานถึง 13 ปี แม้ในช่วงเรียนอยู่ในต่างประเทศ เมื่อบินกลับประเทศไทยเมื่อไร จะต้องมาจัดรายการวิทยุ โดยรายการ Innovative Wisdom เป็นรายการที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการตลาด ช่วงเวลาที่จัดคือทุกวันศุกร์เวลา 09.00-09.30 น.

จริงๆ แล้ว ผมเริ่มต้นเป็นนักจัดรายการวิทยุมาตั้งแต่เป็นนิสิตปีสุดท้าย จัดที่คลื่น AM 1089 kHz วิทยุ 1 ปณ. จัดรายการทุกวันเสาร์ 6 ชั่วโมง ซึ่งสมัยนั้นคนฟังวิทยุมีเยอะมาก เรื่องราวที่นำมาจัดรายการจะเป็นเรื่องทั่วไปที่ยังอยู่ในแวดวงการศึกษา เช่น มีสอบชิงทุนที่ไหน อ่านหนังสือให้จำได้ดีต้องทำอย่างไร

การเป็นนักจัดรายการวิทยุนี้เอง ที่ทำให้ต้องค้นหาข้อมูลที่อัพเดทมาพูดคุยออกอากาศ จึงเป็นข้อดีที่ทำให้เรามีข้อมูลต่างๆ และยังสามารถนำไปสอนหนังสือได้อีกด้วย ปัจจุบันจัดทั้งวิทยุจุฬาฯ วิทยุครอบครัวข่าว มีรายการโทรทัศน์ และ Live สดบน Facebook ในเพจ อัจฉริยะการตลาด อยู่เสมอๆ”

ในด้านของการเป็นนักเขียนเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ ดร.เอกก์ รู้สึกภูมิใจเช่นเดียวกัน จากจุดเริ่มต้นที่อยากจะเขียนหนังสือวิชาการที่ยากๆ ให้คนอ่านสามารถอ่านเข้าใจได้ง่าย และจะนำเงินกำไรที่ได้ไปทำบุญมอบให้แก่สภากาชาดไทย เขียนจนกลายเป็นเล่มหนังสือ “อัจฉริยะการตลาด” ที่มียอดขายเบสต์เซลเลอร์เป็นอันดับ 1 นานกว่า 170 สัปดาห์ในศูนย์หนังสือจุฬาฯ เล่มสอง “อัจฉริยะการตลาดตัดต้นทุน” ก็เป็นอันดับ 1 ของนายอินทร์ทั่วประเทศอยู่หลายสัปดาห์

นอกจากนั้น ยังแปลหนังสือเล่มแรกเป็นภาษาอังกฤษ และได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนังสืออัญมณีแห่งจุฬาฯ ในโอกาสจุฬาครบรอบ 100 ปี เรียกได้ว่าหนังสือของ ดร.เอกก์นั้นได้รับการยอมรับว่าเป็นหนังสือวิชาการที่อ่านง่ายและสนุกอย่างไม่น่าเชื่อ

ด้วยความมุ่งมั่นอยากจะนำความรู้ที่มีมาถ่ายทอดให้แก่ลูกศิษย์ลูกหา ดร.เอกก์ จึงยังคงทำหน้าที่ครูที่ดีด้วยการเสาะหาความรู้ใหม่ๆ ทางการตลาดมาสอนหนังสือ และยังบอกอีกว่าการเป็นครูที่ดีจะต้องให้ความสำคัญใน 2 เรื่อง คือครูที่ดีจะต้องมีระบบความคิดที่ดี จะต้องเป็นผู้ให้ ไม่หวงวิชา แม้ว่าจะเป็นครูที่ไม่เก่ง แต่มีใจที่อยากจะให้ อาจเป็นครูที่เด็กสามารถเรียนรู้ได้มากที่สุด ในขณะเดียวกันครูที่ดีนั้น จะต้องฟังเป็น เขียนเป็น และถ่ายทอดเป็น

“สำหรับการเป็นที่ปรึกษาแบรนด์และการตลาดในองค์กรชั้นนำระดับชาติมากมาย ทั้งจุฬาฯ กระทรวงการคลัง ธนาคารกรุงไทย แอร์เอเชีย เอสซีจี และเอ็มบีเค กรุ๊ป เป็นฐานความรู้ที่ยอดเยี่ยมที่ผมสามารถนำความรู้ทันสมัยในยุคดิจิทัลมาสอนนิสิตได้อย่างโดดเด่นและเข้าใจง่าย”

ด้วยความรู้ความสามารถด้านธุรกิจและการตลาดระดับกูรุูของประเทศ ดร.เอกก์ จึงถือเป็นเพชรเม็ดงามของวงการศึกษาไทย และเป็นที่น่ายินดีที่แวดวงการศึกษาบริหารธุรกิจมีดาวดวงเด่นที่ฉายแสงทั้งเวทีโลกและเวทีระดับชาติ

ที่สำคัญ ยังมีจิตวิญญาณของความเป็นครูอย่างเต็มเปี่ยมอีกด้วย