posttoday

ริธึม ไซคลิง ปั่นสนุกปลุกทุกจังหวะ

15 เมษายน 2561

เดี๋ยวนี้อะไรก็ดูผสมผสานกันไปหมด ไม่เว้นแม้แต่การปั่นจักรยาน ที่ล่าสุดมีการปั่นจักรยานในฟิตเนสผสมผสานกับการแดนซ์ เรียกว่า ริธึม ไซคลิง

โดย กั๊ตจัง ภาพ pixabay.com, Absolute You

เดี๋ยวนี้อะไรก็ดูผสมผสานกันไปหมด ไม่เว้นแม้แต่การปั่นจักรยาน ที่ล่าสุดมีการปั่นจักรยานในฟิตเนสผสมผสานกับการแดนซ์ เรียกว่า ริธึม ไซคลิง (Rhythm Cycling) มีที่มาจากคลาสการออกกำลังกายซึ่งเป็นที่นิยมในฟิตเนสของอเมริกา จนมาถึงประเทศไทย

วิทิต คงแสง โค้ชฟิตเนส โอเอ็มเอ็มโอ สตูดิโอ (OMMO Studios) เล่าถึงที่มาที่ไปของ ริธึม ไซคลิง ว่า “การออกกำลังกายแนวใหม่นี้ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่คนเล่นฟิตเนสได้ประมาณ 3 ปีแล้ว เริ่มจากคลาสเล็กๆ แล้วแพร่กระจายไปสู่ฟิตเนสอื่นๆ ในเวลาต่อมา ผมมองว่าที่ได้รับความนิยมเนื่องมาจากหลายสาเหตุ

ริธึม ไซคลิง ปั่นสนุกปลุกทุกจังหวะ

อย่างแรกก็คือ กระแสของการออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยาน ที่เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นทุกวัน ต่อมาก็คือ เรื่องของอุปกรณ์การออกกำลังกายก็คือเครื่องปั่นจักรยาน ซึ่งมีประจำอยู่แล้วทุกฟิตเนส เพียงแค่ว่าเราจะใช้ออกกำลังกายในแบบไหน และสุดท้ายก็คือ เรื่องของความสะดวกและความสนุกในการเล่น ผมเชื่อว่าหลายๆ บ้านเคยซื้อเครื่องปั่นจักรยานออกกำลังกายแล้วทิ้งเอาไว้เป็นที่แขวนเสื้อในห้องนั่งเล่น

เพราะปั่นแล้วไม่สนุก รู้สึกเบื่อ ไม่มีความท้าทาย แต่ ริธึม ไซคลิง นั้นจะทำให้การออกกำลังกายด้วยเครื่องปั่นจักรยานธรรมดาๆ มีสีสันและเรียกการเผาผลาญไขมันได้มากขึ้นด้วยจังหวะดนตรี และท่วงท่าการปั่นที่ทำให้ออกกำลังกายได้เกือบทุกส่วน”

โค้ชวิทิต แนะนำถึงแนวทางการออกกำลังกายด้วย ริธึม ไซคลิง ว่าสิ่งที่ต้องเตรียมก็ไม่มีอะไรมาก ขอให้มีแค่ชุดออกกำลังกาย เครื่องปั่นจักรยาน และเครื่องเสียงดีๆ สักชุดก็พอ บางท่านออกกำลังกายคนเดียวที่บ้านก็เปลี่ยนมาใช้สมาร์ทโฟนกับหูฟังดีๆ สักชุดก็ได้เช่นกัน สำหรับเครื่องปั่นจักรยานก็อยากให้เลือกเครื่องที่มีคุณภาพที่ดีสักหน่อย มีระบบไฟฟ้าปรับความหนืด และโปรแกรมช่วยเวลาการออกแรงได้ และควรเป็นเครื่องแบบนั่งปั่นเหมือนกับการปั่นจักรยานทั่วไป

ริธึม ไซคลิง ปั่นสนุกปลุกทุกจังหวะ

คลาสการออกกำลังกายแบบ ริธึมไซคลิง ก็มีตั้งแต่ 30-60 นาที แต่ที่นิยมมากที่สุดจะอยู่ที่ 45 นาที ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ไม่เหนื่อยเกินไปมากนัก การออกกำลังกายทุกประเภทต้องเริ่มจากการวอร์มยืดเส้นยืดสาย เลือกเพลงที่มีจังหวะแดนซ์สนุกๆ ช่วง 5 นาทีแรกให้ปั่นแบบสบายๆ เป็นการวอร์มกล้ามเนื้อ ในระหว่างนี้เราควรปรับความสูงของที่นั่งให้พอดี ป้องกันการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อทำให้ออกกำลังกายได้ไม่เต็มที่

เข้านาทีที่ 6 เป็นต้นไปค่อยเพิ่มความหนืดเครื่องเพื่อให้ใช้ให้มากขึ้นอีก 2 ระดับเป็นการจำลองการปั่นจริง จากนั้นก็จะมีท่ายืนปั่น ท่ายืนจับแฮนด์โยกไปข้างหน้า ท่าปั่นแบบเอนซ้ายขวา โค้ชบางท่านอาจจะใส่ท่าออกกำลังกายแขน เช่น ท่าชกมวย หรือให้ยกเวตระหว่างปั่นไปด้วยในตัว ทำให้การออกกำลังกายใน 45 นาทีมีประสิทธิภาพในการออกแรงได้ทั่วร่าง ทำให้กล้ามเนื้อมัดเล็กมัดใหญ่ที่ไม่ได้ใช้ในการปั่นจักรยานปกติได้ถูกนำมาใช้

ในส่วนของการปั่นจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ปั่นหนืด คือปรับให้เครื่องมีความหนืดทำให้ออกแรงมากขึ้นเป็นการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและพละกำลังขา อีกส่วนคือการปั่นเร็ว เปรียบได้กับการสปรินต์ของนักวิ่งช่วยเพิ่มอัตราการเต้นหัวใจและการเผาผลาญพลังงาน ในแต่ละครั้งต้องมีสลับกัน แล้วแต่ว่าใครอยากจะพัฒนาให้ไปในทิศทางไหนมากกว่ากัน แต่อย่างน้อยในการเล่นจะมีการเผาผลาญพลังงานขั้นต่ำที่ 500 แคล

ริธึม ไซคลิง ปั่นสนุกปลุกทุกจังหวะ

โค้ชวิทิตทิ้งท้ายว่า ประโยชน์ที่ได้จากการเล่น ริธึม ไซคลิง ก็คือได้ออกกำลังกายทั่วร่างในช่วงเวลาเดียว กล้ามเนื้อแกนกลางได้ออกกำลังมากขึ้น อัตราการเต้นหัวใจและความแข็งแรงดีขึ้น เผาผลาญไขมันได้มาก เป็นการคาร์ดิโอที่ดีอย่างหนึ่ง และที่สำคัญก็คือ ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับนักปั่นจักรยานได้มากขึ้น เพราะถือว่าเป็นการฝึกปั่นจักรยาน ที่ช่วยพัฒนากล้ามเนื้อขาในส่วนอื่นๆ ในแบบที่การปั่นปกติไม่สามารถทำได้ ถ้าให้ดีการเล่นในฟิตเนสจะได้เพื่อนๆ ช่วยกระตุ้นการออกกำลังกายด้วยกัน และยังสามารถนำไปปรับเล่นที่บ้านได้อีกด้วย