posttoday

อัญญพร ซื่อพัฒนะพันธ์ หนังสือรสความสุข ตำรับฝันสาวดิสนีย์

08 เมษายน 2561

เป็นเรื่องน่าสนใจที่มีคนไทยไปทำงานที่วอลท์ ดิสนีย์ เวิลด์ สหรัฐอเมริกา

โดย กาญจนา อายุวัฒน์ธนชัย ภาพ : วิศิษฐ์ แถมเงิน

เป็นเรื่องน่าสนใจที่มีคนไทยไปทำงานที่วอลท์ ดิสนีย์ เวิลด์ สหรัฐอเมริกา ซึ่งเปิดรับเพียงปีละ 3 คน หนึ่งในนั้นคือ มายด์-อัญญพร ซื่อพัฒนะพันธ์ เจ้าของนามปากกา Anyaผู้เขียนหนังสือ Magical Moments at Walt Disney World หนังสือเล่มแรกในชีวิตที่เขียนขึ้นมาจากการทำตามความฝันของตัวเอง

“มายด์อยากเขียนออกมาให้คนอ่าน แล้วสามารถนำข้อมูลจากหนังสือเล่มนี้ไปใช้ในการสมัครงานได้เลย”

เธอเริ่มเขียนตั้งแต่กลับมาจากสหรัฐเมื่อปลาย พ.ย. 2560 ใช้ระยะเวลาเขียนประมาณ 5 เดือนก่อนวางแผงในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ผ่านมา อัดแน่นไปด้วยรายละเอียดทั้งข้อมูลการสมัคร และประสบการณ์การทำงานที่เธออยากเล่าออกมาให้เห็นทุกด้านตามความจริง

“ตั้งแต่เด็กแล้ว มายด์เป็นคนชอบการ์ตูนดิสนีย์มาก” เธอกล่าวต่อถึงแรงบันดาลใจ

“ความฝันแรกไม่ได้อยากไปทำงาน แต่อยากไปเที่ยวให้ครบทุกที่มากกว่า (สวนสนุกดิสนีย์มีจำนวน 6 แห่งทั่วโลก) จากนั้นพอโตขึ้นเลยคิดว่า ถ้าได้ไปทำงานก็คงจะสนุกดี ประจวบกับตอนเรียนอยู่ปี 3 ได้ทราบข่าวว่าวอลท์ ดิสนีย์ เวิลด์ ที่อเมริกาเปิดรับนักศึกษาไทยไปฝึกงาน 3 เดือน เลยเริ่มสมัคร สอบสัมภาษณ์ และสุดท้ายก็ได้ไปตอนจบปี 4 พอดี”

บัณฑิตคณะอักษรศาสตร์ เอกภาษาและวัฒนธรรม หลักสูตรนานาชาติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หอบหิ้วความฝันในวัยเด็กไปสู่สวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในบทบาทของพนักงานตำแหน่งขาย หรือเมอร์แชนไดส์ ซึ่งงานนี้เป็นใบเบิกทางให้เธอได้เติมเต็มความฝันในวัยเด็ก เพราะพนักงานสามารถเล่นเครื่องเล่นทุกอย่างได้ฟรี ประกอบด้วย 4 สวนสนุกใหญ่ 2 สวนน้ำ และได้รับส่วนลดพิเศษกับอีก 26 โรงแรมในอาณาจักรของดิสนีย์เวิลด์

อัญญพร ซื่อพัฒนะพันธ์ หนังสือรสความสุข ตำรับฝันสาวดิสนีย์

“ก่อนไปมีคนบอกแล้วว่า การทำงานในตำแหน่งเมอร์แชนไดส์จะเหนื่อยมาก เพราะหนึ่งสัปดาห์ทำงาน 5 วัน ทำงานอย่างต่ำวันละ 10 ชั่วโมง ซึ่งต้องยืนขายของ ห้ามนั่ง ต้องยิ้ม ต้องชวนลูกค้าคุยตลอด เลยเตรียมใจไปว่าต้องเหนื่อยแน่นอน และพอได้ไปทำแล้วก็เหนื่อยมากๆ แต่มายด์จะไม่มองในแง่ลบ พยายามมองว่าเป็นเรื่องสนุก ได้คุยกับเด็กๆ พอวันหยุดก็ไปเที่ยวชาร์จพลังตัวเอง แต่ระยะเวลา 3 เดือนมันสั้นเกินไปทำให้ยังเล่นเครื่องเล่นได้ไม่ครบ

หลังจากกลับมารับปริญญา ก็เลยสมัครไปทำงานที่ดิสนีย์เวิลด์อีก แต่ครั้งนี้ไปทำงานแบบ 1 ปีกับตำแหน่งตัวแทนเผยแพร่วัฒนธรรมไทย (Thailand Cultural Representative) ทำงานวันละ 8 ชั่วโมง 5 วัน/สัปดาห์ ทำให้มีเวลาเล่นเครื่องเล่นทุกอย่าง เข้าพักครบทุกโรงแรม และได้ไปเล่นที่ดิสนีย์แคลิฟอร์เนียด้วย” เธอกล่าวอย่างดีใจเหมือนเด็กในร่างผู้ใหญ่กำลังกระโดดโลดเต้น

รวมระยะเวลากว่า 16 เดือนในอาณาจักรแห่งความสุขไม่ได้ให้แค่ความสนุก แต่ยังสอนให้เธอเป็นคนอดทน ไม่เกรงกลัวความเหนื่อยล้า ทำให้เธอโตขึ้นมาก และสอนให้ขอบคุณทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิต

“การทำงานที่ต้องส่งมอบความสุขให้คนอื่น เราต้องมีความสุขก่อน หากเราเหนื่อยแล้วท้อและไม่มีความสุข ก็คงไม่สามารถสร้างรอยยิ้มให้คนอื่นได้ ดังนั้น ทัศนคติจึงเป็นสิ่งสำคัญ เราต้องรักงานที่เราทำ และต้องมีความสุขกับงานทุกวัน เพราะไม่เช่นนั้นก็คงทำงานออกมาไม่ดี และทำให้คนอื่นมีความสุขไม่ได้”

มายด์กล่าวทิ้งท้ายถึงหนังสือเล่มนี้ว่า สำหรับคนที่เป็นแฟนการ์ตูนดิสนีย์ หรือมีความฝันอยากไปทำงานที่ดิสนีย์เวิลด์ สหรัฐ จะเห็นอีกแง่มุมเบื้องหลังรอยยิ้มของพนักงาน และหนังสือจะทำให้เห็นการไล่ตามความฝันของเด็กน้อยผู้หลงใหลเจ้าหญิงโฉมงาม

สุดท้าย เธอสามารถเข้าไปอยู่ในโลกดุจมนตร์วิเศษ เติมเต็มความฝัน และกลายเป็นผู้ใหญ่ที่เชื่อมั่นในความสุขมากกว่าสิ่งใด

เหมือนกับความรู้สึกที่ได้อ่านหนังสือเล่มแรกของนักเขียนหน้าใหม่ ก็สามารถสัมผัสได้ถึงความสุขจากใจผ่านทุกตัวอักษร และสำหรับใครที่กำลังตามหาความฝัน หนังสือเล่มนี้จะเป็นกำลังใจว่าอย่าเพิ่งท้อกับสิ่งที่ฝันไว้ เพราะไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ แต่ก็ไม่ยากเกินไป ซึ่งสุดท้ายความพยายามนั้นคุ้มค่าเสมอ