posttoday

ปั่นตามรอยวิถีอินทรีย์

01 เมษายน 2561

แนวคิดวิถีอินทรีย์นั้นไม่ใช่เพียงแค่เราจะได้อาหารปลอดสารพิษ แต่ยังได้ ธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ

โดย กั๊ตจัง ภาพไม่มีเครดิต

แนวคิดวิถีอินทรีย์นั้นไม่ใช่เพียงแค่เราจะได้อาหารปลอดสารพิษ แต่ยังได้ ธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่เรียกว่าเที่ยววิถีอินทรีย์ โดยเฉพาะที่ จ.นครปฐม อ.สามพราน นั้นมีแหล่งท่องเที่ยววิถีอินทรีย์ อยู่หลายแห่งที่เราสามารถปั่นจักรยาน เพื่อเที่ยวชมผลผลิตเกษตรอินทรีย์ของเกษตรกร

เส้นทางปั่นเที่ยวนี้ริเริ่มโดยมูลนิธิสังคมสุขใจ และร้านปลูกปั่นร่วมกันเริ่มทริป “ปลูกปั่น...ปั่นตามวิถีอินทรีย์สุขใจ” ด้วยการปั่นจักรยานชม ชิม ช็อป ผลผลิตเกษตรอินทรีย์ของเกษตรกรเครือข่ายสามพรานโมเดล พื้นที่ อ.สามพราน จ.นครปฐม ศึกษาแหล่งที่มาของวัตถุดิบอินทรีย์ และสัมผัสวิถีชีวิตเกษตรกร หวังเพิ่มความเชื่อมั่นวิถีอินทรีย์ และกระตุ้นให้ผู้คนตระหนักรู้คุณค่าของออร์แกนิก ที่ไม่ใช่แค่ดีต่อสุขภาพ แต่ก่อเกิดผลดีตลอดห่วงโซ่อาหาร

ปั่นตามรอยวิถีอินทรีย์

เป้าหมายแรกของเส้นทางปั่นนี้อยู่ที่สวนส้มโออินทรีย์ของอุบล การะเวก ชาวบ้านเรียกว่าสวนส้มโอ ลุงอุบล ตั้งอยู่ ต.ทรงคนอง หลังจาก ลุงอุบล เกษียณอายุราชการก็กลับมาสานต่ออาชีพทำสวนส้มโอจากพ่อ เปลี่ยนแนวทางการทำสวนจากสารเคมีมาใช้น้ำหมักชีวภาพ ปุ๋ยหมักชนิดต่างๆ เพื่อทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมี

เปลี่ยนเอาสะเดา ไข่ไก่ นมข้นหวาน น้ำปลา ขี้หมู ข้าวสุก และน้ำคลอง ผสมและหมักจนกลายเป็นสารกำจัดหนอน แมลง ใช้แทนปุ๋ยทางใบ ปุ๋ยทางดิน ป้องกันโรครากเน่าโคนเน่า ทำให้สามารถลดต้นทุนได้ถึง 80-90% ทำให้ได้ส้มโอที่มีคุณภาพ รสชาติดี ส่วนปัญหาเรื่องแมลงรบกวนก็ใช้สารชีวภาพน้ำหมักไล่แมลง ทำให้พื้นที่ 8 ไร่ สามารถผลิตส้มโอชั้นดีเป็นที่ต้องการของตลาด นอกจากนี้ยังเปิดให้ชมขั้นตอนการปลูก วิธีดูแลรักษา การใช้ชีวภัณฑ์ชนิดต่างๆ รวมถึงแนะเทคนิคการเลือกส้มโอที่ทำให้เรารู้ว่าต้องเลือกส้มโอลูกไหน แบบไหน ถึงจะได้รสชาติอร่อยที่สุด

ปั่นตามรอยวิถีอินทรีย์

จาก ต.ทรงคนอง ต้องปั่นจักรยานไปที่ ต.บางช้าง แดดร้อนและค่อนข้างเหนื่อสักหน่อย แต่ปลายทางนี้เราจะได้เห็นพื้นนาที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งคือ นาข้าวอินทรีย์บ้านศรีเบญจรงค์ ของธรวิกา ปานเจริญ มีความสวยงามยามสายๆ ที่จะได้เห็นดอก ดอกคุณนายตื่นสาย และดอกไม้หลากสีอื่นๆ ที่ปลูกไว้รอบคันนา ไม่จำเป็นว่านาข้าวจะต้องมีเพียงแค่ต้นข้าว มะพร้าวและคันนาเสมอไป

ปั่นตามรอยวิถีอินทรีย์

นาแห่งนี้ก็เหมือนนาทั่วไปที่เมื่อเริ่มต้นเจ้าของยังไม่กล้าเปลี่ยนแปลงอะไรมากมายนัก กลัวว่าผลผลิตจะได้ไม่ดี จึงเริ่มซื้อหนังสือเข้ากลุ่มเรียนรู้ หาที่ปรึกษา จนเริ่มมีความมั่นใจว่าสามารถทำได้แน่นอนก็เริ่มเปลี่ยนแปลงเรียนรู้ลองผิดลองถูกจนประสบความสำเร็จในที่สุด แถมได้รับการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ IFOAM

พื้นนาแห่งนี้ปลูกข้าวหอมมะลิ 105 ข้าวหอมนครชัยศรี ซึ่งเป็นพันธุ์ข้าวพื้นเมือง การทำเกษตรผสมผสาน ปรับพื้นที่นาโดยทำคันนาให้กว้างขึ้น ให้มีพื้นที่ปลูก ต้นหม่อน มะเขือเทศ ตะไคร้ และผักสวนครัวอื่นๆ เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการหาซื้อพืชผักระหว่าง
รอผลิตต้นข้าว และยังสามารถนำผลผลิตที่เหลือมาวางขายหารายได้เพิ่มเติมได้อีกด้วย ที่สำคัญนาแห่งนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นท้องนาที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย

ปั่นตามรอยวิถีอินทรีย์

ไม่เพียงแค่นี้ในพื้นที่ใกล้ๆ กันยังมีสวนของขวัญเรือน เพ็ชศรีนวล เจ้าของสวนฝรั่งกิมจู ที่เป็นอีกผู้หนึ่งที่ผันตัวเองมาเป็นเกษตรกร วิถีอินทรีย์ เพื่อดื่มน้ำฝรั่งอินทรีย์และมะพร้าวน้ำหอม เยี่ยมชมหาซื้อผลิตงามๆ จากสวน หลังจากพักจนหายเหนื่อย
ก็ได้เวลาปั่นกลับมาที่สวนสามพราน ริเวอร์ไซด์เพื่อชม ปฐม ออร์แกนิกฟาร์ม สวนเกษตรอินทรีย์ ชมสวนเกษตรอินทรีย์ ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเก็บผัก เก็บไข่ นำไปปรุงอาหารด้วยตัวเอง และรับประทานอาหารกลาง วัน จากผลผลิตออร์แกนิก ท่ามกลางต้นไม้น้อยใหญ่

หากสนใจเข้าร่วมทริปปั่นจักรยานเส้นทาง ปลูกปั่น...ปั่นตามวิถีอินทรีย์สุขใจ ลองติดต่อผ่านทางมูลนิธิสังคมสุข 034-322-588-93 เพราะถ้าเราปั่นไปเองเพียงลำพังแล้วอาจจะไม่ได้ร่วมรับฟังเกษตรกรที่จะมาบรรยายและพาชมสวนได้เหมือนกับการเข้าร่วมทริปที่จัดขึ้นโดยเฉพาะ ที่ให้เราได้มาเรียนรู้แหล่งที่มาของวัตถุดิบจากต้นทางการผลิต มารู้จัก มาเข้าใจวิถีชีวิตเกษตรกร เพื่อสร้างความเข้าเกี่ยวกับวิถีอินทรีย์ และสามารถนำความรู้กลับไปสื่อสารต่อผู้บริโภคให้เห็นคุณค่า และเกิดความต้องการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ ขณะเดียวกันช่วยส่งเสริมเกษตรกรหันมาทำเกษตรอินทรีย์ และทำให้เราหันมาใส่ใจสุขภาพจากการรับประทานอาหารที่ดีกันมากขึ้น