posttoday

‘เดอะ ปรินเซส’ส ด็อก ไดอารี่’ พระนิพนธ์การ์ตูนเล่มแรกในพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีฯ

29 มีนาคม 2561

พระปรีชาด้านศิลปะและกีฬาของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เป็นที่ประจักษ์แล้ว ล่าสุดทรงนิพนธ์การ์ตูนเล่มแรกชื่อว่า “The Princess’ Dog Diary : บันทึกคุณน้ำหอม สุนัขทรงเลี้ยงของเจ้าหญิง”

เรื่อง วราภรณ์ ภาพ กิจจา อภิชนรจเรข, วสันต์ วณิชชากร

พระปรีชาด้านศิลปะและกีฬาของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เป็นที่ประจักษ์แล้ว ล่าสุดทรงนิพนธ์การ์ตูนเล่มแรกชื่อว่า “The Princess’ Dog Diary : บันทึกคุณน้ำหอม สุนัขทรงเลี้ยงของเจ้าหญิง” และทรงเป็นประธานในการเปิดตัวหนังสือเล่มดังกล่าวส่วนพระองค์ พร้อมประทานสัมภาษณ์พิเศษในงานวันเปิดตัวโดยมี วิธิต อุตสาหจิต ประธานกรรมการ บริษัท บันลือ พับลิเคชั่นส์ ในเครือบันลือกรุ๊ป บริษัทผู้ดำเนินการสร้างสรรค์จัดทำหนังสือร่วมงานด้วย 

“The Princess’ Dog Diary : บันทึกคุณน้ำหอม สุนัขทรงเลี้ยงของเจ้าหญิง” เป็นเรื่องราวของ “คุณน้ำหอม” สุนัขทรงเลี้ยงและครอบครัว รวมถึงความน่ารักของนานาสัตว์ในรั้ววัง พระจริยาวัตร และความมุ่งมั่นในการทรงงานในทุกพระกรณียกิจของพระองค์ ซึ่งถูกถ่ายทอดผ่านภาพประกอบสวยงามตลอดเล่ม ในรูปแบบการเล่าเรื่องสนุกสนานสไตล์ comic essay โดยพระองค์ทรงเป็นประธานคณะทำงานในการจัดทำหนังสือเล่มนี้อย่างใกล้ชิด และประทานคำแนะนำทั้งในส่วนของ เรื่อง ภาพ ตลอดจนงานศิลปะต่างๆ

นอกจากนี้ ยังประทานภาพถ่ายของสุนัขทรงเลี้ยงเพื่อนำเสนอในหนังสือและสื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ เพื่อให้หนังสือนี้มีความสวยงาม สมบูรณ์ เป็นประโยชน์และความสุขต่อผู้อ่านทุกคน รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายของการจำหน่ายหนังสือเล่มนี้ จะนำไปบริจาคให้กับโรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อใช้ดูแลสุนัข และสัตว์ที่เจ็บป่วยจากหัวใจของคนรักสัตว์

‘เดอะ ปรินเซส’ส ด็อก ไดอารี่’ พระนิพนธ์การ์ตูนเล่มแรกในพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีฯ

กว่าจะเป็นการ์ตูนพระนิพนธ์เล่มแรก

แรงบันดาลพระทัย ในการจัดทำหนังสือพระนิพนธ์หนังสือการ์ตูน ทรงรับสั่งว่า จุดประสงค์ของหนังสือเล่มนี้ ด้วยความที่พระองค์หญิงอยู่กับคุณน้ำหอมและคุณตัวเล็กตั้งแต่เด็กๆ เห็นคาแรกเตอร์ของคุณน้ำหอมค่อนข้างมีพิเศษ มีความเปิ่นน่ารัก สูงศักดิ์ รวมถึงพระองค์มีจินตนาการในการคุยกับคุณน้ำหอม คุณน้ำหอมทำให้พระองค์หญิงมีความสุขทุกๆ วัน

“บางวันน่าหมั่นไส้ ท่านหญิงชอบสัตว์มากตั้งแต่สุนัข ม้า ปลา จริงๆ ชอบกระต่าย ชอบสัตว์มาก เหมือนมีความสามารถพิเศษคือเข้าใจเขาลึกซึ้งมาก คุยกับเขารู้เรื่อง เราเหมือนมีจินตนาการ เขาเหมือนเข้าใจเรา มองกันแล้วก็รู้เรื่อง เริ่มจากท่านหญิงทำเพจเล็กๆ ตั้งเป็นไพรเวทก่อน เฟซบุ๊กชื่อ perfume คุณน้ำหอมทั้งหมด อัพเดทว่าวันนี้ทำอะไร กินข้าวเอาหน้าจุ่มชาม จนรู้สึกว่าภาพและสตอรี่เยอะขึ้น ก็เลยคิดว่าถึงเวลาที่เราต้องทำการ์ตูนสักเรื่องให้กับผู้คนได้อ่าน เราอยากให้คนที่รู้จักน้ำหอมได้ใกล้ชิดกับความน่ารัก อยากแชร์ความน่ารักสดใสของคุณน้ำหอม”

สำหรับความยากของการทำหนังสือ พระองค์เผยว่า เรื่องราวและภาพเยอะเกินไป พระองค์พยายามสื่อสารกับนักวาดที่บางที พระองค์มีเวลาอันจำกัด บวกกับคาแรกเตอร์ สีต้องมีความชัดเจน หน้าตาต้องเป็นอย่างนี้ มีเรื่องเดดไลน์ก็เป็นส่วนสำคัญ

“เราพยายามดึงคาแรกเตอร์ให้เป็นสี อันนี้แค่ 1 สตอรี่เท่านั้น ส่งรูปมาเยอะมากจนนักวาดเลือกไม่ถูก”

ในฐานะทรงเป็นนักออกแบบเสื้อผ้าและต้องแบ่งเวลามาทำหนังสือการ์ตูน ความยากง่ายต่างกันอย่างไร พระองค์หญิงทรงรับสั่งว่า เรื่องของเวลา ต้องแบ่งให้ได้ว่า เราต้องทำอะไร แต่โชคดีที่ทีมงานพี่เลี้ยง พระสหาย ทีมงานจัดทำทำงานกันหนักมาก บางทีหลังจากทำเสื้อผ้าเสร็จ ทีมงานก็มานั่งคุยกันตอนเย็น หรือตอนไหนที่ว่างก็คุย ดึกแค่ไหนก็คุย อย่างไรก็ต้องมีเวลาทำให้ได้ บางครั้งเห็นท่านอนน้ำหอมแปลกๆ เราก็ถ่ายภาพและส่งรูปให้นักวาด”

‘เดอะ ปรินเซส’ส ด็อก ไดอารี่’ พระนิพนธ์การ์ตูนเล่มแรกในพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีฯ

ทรงมีพระเมตตาต่อสัตว์เลี้ยง

พระองค์มีรับสั่งเพิ่มเติมถึงความรักในสุนัขว่า จุดเริ่มต้นของการเลี้ยงคุณน้ำหอม เลี้ยงตั้งแต่อายุ 3 เดือน แต่ก่อนหน้านั้นก็เลี้ยงคุณตัวเล็กเป็นพันธุ์ยอร์คเชียร์ฯ เหมือนกัน ปกติก่อนหน้านี้ทรงเลี้ยงสุนัขพันธุ์ใหญ่มาตลอด ได้แก่ ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ ไซบีเรียน ฮัสกี้ 2 ตัวเลี้ยงสมัยทรงเรียนชั้นประถมก็เลยเลี้ยงชิห์สุ พันธุ์เล็กแต่อ้วน พอชิห์สุตายจึงทรงหันมาเลี้ยงสุนัขพันธุ์ใหญ่อย่างเดียว เช่น โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ ลาบราดอร์ ฯลฯ

“พอเลี้ยงสุนัขพันธุ์ใหญ่ เพื่อนท่านหนึ่งได้นำคุณตัวเล็กเป็นยอร์คเชียร์มาให้เลี้ยง แรกๆ ท่านหญิงไม่ชอบ เพราะเราชินกับสุนัขพันธุ์ใหญ่ พอได้สัมผัสเขาก็มีความน่ารัก วิธีการเลี้ยงก็ไม่เหมือนพันธุ์ชิห์สุเพราะมีความใหญ่มากและตัวหนักมาก แต่ยอร์คเชียร์เป็นพันธุ์หนึ่งใน 10 ของโลกที่ฉลาด และมีคาแรกเตอร์เป็นตัวของตัวเองมากก็เลยเริ่มชอบ หลังจากนั้นพระสหายทูลเกล้าฯ ถวายและได้แนะนำฟาร์มผลิตน้ำหอมมา เราก็ไม่ดูก่อน เราก็เลือก พอเลือกแล้วผ่านไปสัก 1 เดือนเริ่มหย่านมและฉีดวัคซีนเรียบร้อย แล้วค่อยมาเจอกันอีกครั้ง”

ประทานเล่าต่อว่า คุณน้ำหอมเป็นส่วนเติมเต็ม เพราะคุณน้ำหอมเป็นเพื่อนที่ดี ยิ่งตอนคุณน้ำหอมเด็กๆ เขาจะแสบทรวงมาก เขาเหมือนเพื่อนแสบๆ และเป็นเพื่อนที่มีความน่ารัก จะเปิ่นและทำเรื่องปวดหัวได้ทุกเวลา

“เช่น จะนอนแล้วตอนตี 2 นางก็อาเจียนใส่ที่นอน เราก็บอกว่าทำไมต้องอ้วกใส่ที่นอนด้วย ก็ต้องรื้อเปลี่ยน หรืออารมณ์วิ่งเข้ามาปลุกเหมือนในหนังสือ แต่จะเยอะกว่าในหนังสือ 1 ล้านเท่า มีความรุนแรงล้านเท่า มีทุกอารมณ์งอน หรืออยากถ่ายรูปตัวเองก็มี

นางมีคาแรกเตอร์ของตัวเองและมีความฉลาดมาก เขาทำให้เราหัวเราะได้ทั้งวัน และมีความเจ้าหญิงและแฟชั่นนิสต้า เขามีจินตนาการของเขา เพราะเขาอยู่กับคนมาก ทุกคนก็ให้ความรักเขา เขามีคาแรกเตอร์ของความเป็นนางแบบเพราะเขาคิดว่า เขาสวย และเราคิดว่าเขาสวยกว่ายอร์คเชียร์เทอร์เรียที่เจอยกเว้นในสายประกวด

บางทีเขาไปประกวดเขารู้ว่าเขาไม่ใช่หมาที่สวยที่สุดในงาน แต่เขารู้สึกว่าเขาน่ารัก เขามีความเปล่งประกายมากกว่าหมาพันธุ์อื่น ท่านหญิงอยากให้เขาเป็นธรรมชาติ เวลาเขาประกวด ตาเขาจะมีชีวิตชีวามากกว่า เวลาเดินไปไหนมีแต่คนมอง มองเยอะกว่าเราอีก บางทีมีหมาเดินตามนะ (ทรงแย้มพระสรวล) นี่คือวีรกรรมของนาง เวลาเดินไปร้านไหนคนจำได้ ก็โอเค เราก็แกล้งบอกให้นางเลือกของให้หน่อยซิ เขาก็เลือกของถูกอีก เขามีความฉลาดมาก บางทีนอนบนศีรษะเราเลย เราก็นอนบนหัวได้แต่ขอมีสเปซนิดนึง ดิฉันจะนอนอยู่ใต้หมอนอยู่แล้ว”

สิ่งที่ทรงได้จากการทรงเลี้ยงสุนัขคือ ความเพลิดเพลิน ได้ความสนุกสนาน และให้ความสุขดี สำหรับความรักในสุนัขนั้น ได้รับการถ่ายทอดมาจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชหรือไม่ ทรงมีรับสั่งว่า จริงๆ แล้วความรักสุนัขถือเป็นพื้นฐานของมนุษย์ตั้งแต่โบราณ เพราะสุนัขคือเพื่อนที่ติดตามและมีความจงรักภักดีสูงที่สุดกับเจ้าของ เป็นเพื่อนที่ทำงานด้วยกัน เป็นเพื่อนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขของพระองค์จริงๆ สามารถอยู่ได้กับทุกเพศทุกวัย ทุกสายพันธุ์ เมื่อเขาดูแลเราทางด้านจิตใจแล้ว เราก็ต้องดูแลเขาให้ดีด้วย

สำหรับรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย ยังทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อสมทบทุนโรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทรงมีรับสั่งว่า จริงๆ แล้วอยากช่วยโรงพยาบาลสัตว์ทุกที่แต่เราเริ่มจากโรงพยาบาลสัตว์เกษตรก่อน เพราะสัตว์เลี้ยงที่บ้านรักษาที่นี่ ตั้งแต่คุณทองแดงเป็นต้นมา และคุณน้ำหอมและครอบครัวก็รักษาอยู่ที่โรงพยาบาลสัตว์เกษตรแห่งนี้

‘เดอะ ปรินเซส’ส ด็อก ไดอารี่’ พระนิพนธ์การ์ตูนเล่มแรกในพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีฯ

ทรงงานแบบมืออาชีพ

5 เดือนของระยะเวลาในการทำหนังสือพระนิพนธ์การ์ตูนเล่มแรก พิมพ์พิชา อุตสาหจิต รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทเครือบันลือกรุ๊ป กล่าวว่า ทีมงานบันลือกรุ๊ปทุกคนรู้สึกภาคภูมิใจ และสำนึกในพระกรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ที่มีโอกาสได้ถวายงานพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ในการจัดทำหนังสือเล่มนี้ ซึ่งเป็นพระนิพนธ์เล่มแรกในรูปแบบการ์ตูน

“เราต้องตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด ในขั้นตอนการทำงานนั้นพระองค์ทรงพระเมตตาเป็นประธานคณะทำงาน ประทานพระดำริ และถ่ายทอดเรื่องราวมากมายให้ทีมงาน และนักวาด ประทานภาพถ่าย และวิดีโอสุนัขทรงเลี้ยงเพื่อเผยแพร่ในหนังสือเล่มนี้ และสื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ รวมถึงประทานคำแนะนำ และดูแลรายละเอียดอย่างใกล้ชิด ทั้งในด้านเทคนิคการเล่าเรื่อง และงานดีไซน์ ซึ่งเป็นพระปรีชาสามารถพิเศษของพระองค์ แม้จะทรงมีพระกรณียกิจมากมายก็ทรงแบ่งเวลาจัดทำให้หนังสือสำเร็จสมบูรณ์ออกมาเป็นผลงานที่สนุก ลายเส้น และสีสันสวยงามน่ารัก เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา ความรัก และความอบอุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งอารมณ์ขันในแบบเฉพาะพระองค์ ซึ่งน่าจะถูกอกถูกใจแฟนๆ กลุ่มนักอ่านทุกเพศทุกวัย และกลุ่มคนรักสุนัข และสัตว์ต่างๆ”

ด้านนักวาดภาพที่ได้ทำงานถวายในหนังสือเล่มนี้คือ ปนิศา ภูมิสิงหราช เจ้าของนามปากกา Fastbeam กล่าวถึงความรู้สึกในการถวายงานครั้งนี้ว่า สำหรับนักเขียนการ์ตูนธรรมดาๆ ไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสได้ทำงานรับใช้ใต้เบื้องยุคลบาท พอรู้ว่าได้ถวายงานครั้งแรก เกิดความรู้สึกไม่เชื่อก่อนตัวเองว่าจะได้รับหน้าที่นี้ พอเรารู้ว่า เราต้องทำจริงๆ ก็รู้สึกภาคภูมิใจมาก และต้องตั้งใจทำให้ดีที่สุด ซึ่งความท้าทายในการทำโปรเจกต์นี้คือ เวลาในการทำงานที่จำกัด

“สำหรับนักเขียนการ์ตูนธรรมดาๆ ไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสได้ทำงานรับใช้ใกล้เบื้องยุคลบาท รู้สึกภูมิใจ และดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการถวายงานครั้งนี้ จุดเด่นของหนังสือเล่มนี้คือ ทุกรูป ท่านหญิงทรงตรวจเองทุกรูป ส่งรูปทุกรูปมาให้ ท่านพยายามตีความทุกอย่าง ดึงคาแรกเตอร์ทุกพระสุนัขออกมาให้ชัดเจนที่สุด ทรงเป็นกันเองกับทีมงานมากๆ” ปนิศา เล่า

สิ่งที่ทีมงานได้มีโอกาสเรียนรู้จากการทำงานครั้งนี้ คือแนวทางในการทรงงานแบบมืออาชีพของพระองค์ในทุกบทบาท เรื่องราวในหนังสือของพระองค์นั้น ยังสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับพวกเราทุกคน ในด้านความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงาน ความรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองอย่างสุดความสามารถ อุปนิสัยความรักในงานศิลป์ การอ่าน และการจดบันทึก ความช่างสังเกต และมุมมองความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ รวมถึงความมีเมตตาต่อสัตว์ด้วย

นอกจากความน่ารักในเล่มแล้ว รายได้จากการจำหน่ายหนังสือเล่มนี้ หลังหักค่าใช้จ่าย ยังทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อสมทบทุนโรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ด้วย นับเป็นผลงานน่าสะสมที่มีคุณค่าต่อแวดวงการอ่านและวงการสื่อมวลชน ทำให้ผู้สร้างสรรค์ผลงานและผู้อ่านได้ทั้งประโยชน์ ความอิ่มเอมใจ และความสุขกันทุกฝ่ายอย่างแท้จริง

“ครั้งแรกที่ได้ถวายงานรู้สึกเกร็งและตื่นเต้นมาก สิ่งที่ทีมงานได้มีโอกาสเรียนรู้จากการทำงานครั้งนี้ คือ แนวทางในการทรงงานแบบมืออาชีพของพระองค์ในทุกบทบาท ทรงตรงต่อเวลามาก ทรงเมตตาทีมงานและทรงเปิดกว้างกับทีมงาน โปรดให้ทีมงานนำเสนอไอเดียใหม่ๆ ตลอดเวลา เรื่องราวในหนังสือยังสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับพวกเราทุกคน ในด้านความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงาน ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตัวเองอย่างสุดความสามารถ อุปนิสัยความรักในงานศิลป์ การอ่าน และการจดบันทึก ความช่างสังเกต และมุมมองความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ รวมถึงความเมตตาต่อสัตว์อีกด้วย” พิมพ์พิชา เล่า

หนังสือ “The Princess’ Dog Diary : บันทึกคุณน้ำหอม สุนัขทรงเลี้ยงของเจ้าหญิง” จัดพิมพ์บนกระดาษถนอมสายตาด้วยเทคนิคการพิมพ์ 4 สี รายได้จากการจำหน่ายหนังสือหลังหักค่าใช้จ่าย นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อสมทบทุน โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผู้สนใจสามารถหาซื้อได้ตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป และที่งานสัปดาห์หนังสือนานาชาติครั้งที่ 16 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่จะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค.-8 เม.ย. ที่บูธบันลือบุ๊คส์ X08