posttoday

‘อย่าปิดกั้นโลกของลูก’ พรทิพย์ วิริยะกิจพัฒนา

17 มีนาคม 2561

ความน่ารักของครอบครัวนี้ ไม่ใช่แค่ความทุ่มเทของแม่ “บี” พรทิพย์ วิริยะกิจพัฒนา ที่ชอบแต่งตัวลูกสาว “น้องบลูเบล”

โดย ฤดูกาล ภาพ : พรทิพย์ วิริยะกิจพัฒนา

ความน่ารักของครอบครัวนี้ ไม่ใช่แค่ความทุ่มเทของแม่ “บี” พรทิพย์ วิริยะกิจพัฒนา ที่ชอบแต่งตัวลูกสาว “น้องบลูเบล” วัย 1 ขวบกว่าออกไปลั้นลานอกบ้าน แต่เธอมักสร้างเสริมประสบการณ์ลูกน้อยผ่านการเดินทาง ให้ลูกได้สัมผัสธรรมชาติ และเรียนรู้การอยู่กับผู้คน

ในมุมมองของเธอและสามีเชื่อว่า การเลี้ยงลูกให้มีความสุข คนเป็นพ่อและแม่ต้องมีความสุขเช่นกัน ทำให้หลังจากคลอดลูกสาวได้ไม่นาน เธอก็พาลูกออกนอกบ้านเพื่อลดความเครียดหลังคลอด

จนกระทั่งอายุ 5 เดือน น้องบลูเบลได้ออกต่างจังหวัดครั้งแรกสู่จันทบุรี เป็นการประเดิมด้วยทริปไม่ใกล้ไม่ไกล นั่งรถไม่นานเกินไป และเป็นสถานที่ที่เธอคุ้นเคยอยู่แล้ว

‘อย่าปิดกั้นโลกของลูก’ พรทิพย์ วิริยะกิจพัฒนา

“พอมีลูกไปด้วยทำให้ต้องใช้เวลาเดินทางนานขึ้นราว 2 ชั่วโมง เพราะระหว่างทางต้องแวะจอดให้ลูกออกจากที่นั่งเด็ก (คาร์ซีต) มายืดเส้นยืดสาย เพราะระหว่างที่อยู่บนรถเราจะไม่อุ้มน้องเอง

แม้ลูกจะร้องงอแงก็ต้องสอนให้เขาอดทนอยู่ในคาร์ซีตตลอดเพื่อความปลอดภัยที่สุด และสร้างความเคยชินให้เขาอยู่ให้ได้ เพราะเวลาเดินทางไปไหนลูกจะได้ไม่งอแง”

บียังกล่าวด้วยว่า ทุกที่ที่พาลูกไปเป็นการให้ลูกได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่มากกว่าของเล่นอันเก่า หรือในบ้านหลังเดิมที่อยู่ทุกวันอย่างการไปทะเลครั้งแรกของลูกสาว เธอเห็นน้องบลูเบลสัมผัสทราย สัมผัสน้ำ และเห็นเขาตื่นเต้นกับทุกสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต

‘อย่าปิดกั้นโลกของลูก’ พรทิพย์ วิริยะกิจพัฒนา

“หรือทริปไปเที่ยวป่าโกงกางที่อากาศค่อนข้างร้อน แต่ลูกไม่ร้องไม่งอแงเลยเพราะสนใจและตื่นเต้นกับการเคลื่อนไหวของสัตว์ สนใจต้นไม้ในป่า ชี้โน่นชี้นี่ให้เราพาไปให้อธิบายว่ามันคืออะไร ซึ่งนี่แหละเป็นสิ่งที่ลูกเรียนรู้ระหว่างทาง”

นอกจากนี้ การพาลูกน้อยไปเห็นธรรมชาติ ไปเห็นสัตว์ต่างๆ ที่เขาเคยฟังจากนิทาน ยังทำให้โลกในจินตนาการกลายเป็นความจริง

“เดี๋ยวนี้มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่เหมาะกับเด็กเล็กหลายที่ อย่างครอบครัวเราทุกปีจะไปจิม ทอมป์สัน ฟาร์ม มีทั้งทุ่งดอกไม้ลูกได้ไปวิ่งไล่จับแมลงปอ มีวัฒนธรรมไทยให้ลูกเห็นวิถีชีวิตดั้งเดิม ทุกอย่างรอบตัวเขาสามารถสอนเรื่องราวใหม่ๆ และคนเป็น
พ่อแม่สามารถสร้างความตื่นเต้นให้ลูก สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะไปด้วยกัน”

‘อย่าปิดกั้นโลกของลูก’ พรทิพย์ วิริยะกิจพัฒนา

บีมองว่าการใช้เวลาร่วมกันระหว่างพ่อ แม่ ลูก คือเวลาคุณภาพ “เพราะเราทั้งคู่ (บีและสามี) ต้องทำงานประจำ” โดยเธอทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท เวิรฟ พับบลิค รีเลชั่นส์ คอนซัลแตนท์ซีทำให้ในวันธรรมดาเธออาจมีเวลาให้ลูกไม่ได้ทั้งวัน แต่หลังจากเลิกงานและในวันหยุดเวลาทั้งหมดจะเป็นของลูก

“ถ้าไม่มีเวลาไปต่างจังหวัด เราก็ยังพาเขาออกไปเที่ยวใกล้บ้าน เพราะเราอยากให้เรียนรู้ อยากให้รู้จักปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ อยากให้เขากล้าทำในสิ่งที่ไม่เคยทำและอยากให้เขามีมนุษยสัมพันธ์กับคนรอบข้าง

‘อย่าปิดกั้นโลกของลูก’ พรทิพย์ วิริยะกิจพัฒนา

เราไม่อยากปิดกั้นลูก โดยเอาความกลัวของตัวเองเป็นกำแพงกั้น แต่อยากให้เขาได้ไป ได้ลองทุกอย่าง เพื่อจะได้ใช้เวลาคุณภาพร่วมกันและสร้างเสริมประสบการณ์ให้เขามากที่สุด” เธอกล่าวทิ้งท้าย