posttoday

การแต่งตัว ใบเบิกทางสู่ความสำเร็จ

07 มีนาคม 2561

หลายปัญหาหลากอุปสรรคการแต่งตัวของผู้หญิงที่มีมานาน แก้ได้ด้วยการหันมาทำความรู้จักกับตัวเอง

เรื่อง อณุสรา ทองอุไรภาพ วิศิษฐ์ แถมเงิน, pixabay

หลายปัญหาหลากอุปสรรคการแต่งตัวของผู้หญิงที่มีมานาน แก้ได้ด้วยการหันมาทำความรู้จักกับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรูปร่าง ความต้องการ และที่สำคัญคือภาพที่ต้องการจะนำเสนอ เราลองมาทำความรู้จักกับอุปสรรคและวิธีแก้ปัญหาเกี่ยวกับการแต่งตัว โดย Style Guru เกด-ฐาดิณี รัชชระเสวี อดีตบรรณาธิการแฟชั่น ที่ผันตัวมาเป็นที่ปรึกษาด้านการแต่งตัวและวิทยากรที่ทำงานให้กับองค์กรและผู้บริหาร รวมถึงการเป็นเจ้าของเพจให้ความรู้และแรงบันดาลใจด้านการแต่งตัวที่ชื่อว่า The Daily Stylista

เสื้อผ้าเต็มตู้แต่ไม่รู้จะใส่อะไร

ปัญหาคลาสสิกที่ผู้หญิงทุกคนมักเจอ 99% ที่เข้ามาปรึกษานั้นมักมาด้วยปัญหาเรื่องเสื้อผ้าเต็มตู้ แต่รู้สึกว่าไม่มีอะไรจะใส่นั้น ไม่ได้มาจากเสื้อที่มีหรอก แต่มาจากคุณยังไม่ชัดเจนกับภาพที่คุณต้องการนำเสนอ ลองคิดดูว่าก่อนออกจากบ้าน เวลาแต่งตัวคุณนึกถึงอะไร

"เรามักรู้ว่าจะไปเจอใคร ทำกิจกรรมอะไร แต่คำถามที่ไม่ได้ถามตัวเองคือ แล้วภาพแบบไหนที่เราต้องการให้คนเห็นจากเรา เราอยากเป็นผู้บริหารแบบไหน อยากเป็นคนแบบไหน ถ้าตัวเราชัดเจนกับคำตอบของตัวเอง ก็จะชัดเจนในการเลือกเสื้อผ้า สมมติว่าอยากเป็นผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล เป็นคนรุ่นใหม่ที่ดูน่าเชื่อถือ แน่นอนว่าเมื่อเลือกเสื้อผ้า เราจะเลือกเสื้อผ้ามีดีไซน์ แต่ไม่ล้ำหรือดูเข้าถึงยากจนเกินไป อาจจะใส่สูทเท่ๆ แต่มีลูกเล่นอะไรบางอย่างที่แขน ที่ตัวเสื้อเชิ้ต แต่ถ้าอยากเป็นคนที่ดูอบอุ่น เข้าถึงง่าย เสื้อผ้าที่เลือกก็อาจจะอยู่ในโทนสีที่ละมุน ไม่ฉูดฉาด ไม่มีลีลามากไป ถ้าอยากนำเสนอตัวเองในฐานะผู้นำ เสื้อผ้าที่เลือกมาจะต้องโดดเด่นแบบที่เห็นมาแต่ไกล เคล็ดลับคือถามตัวเองก่อนแต่งตัวออกจากบ้านทุกวันว่า ถ้าผู้หญิง/ผู้ชายคนนี้เดินมา คนจะได้เห็นอะไรในตัวเขา เพียงแค่ตอบคำถามนี้ได้อย่างชัดเจน ปัญหาเสื้อผ้าล้นตู้แต่ไม่มีอะไรจะใส่จะหายไป คุณจะสนุกกับโจทย์การแต่งตัวในแต่ละวัน รวมถึงเวลาไป ช็อปปิ้งได้มากขึ้น"

การแต่งตัว ใบเบิกทางสู่ความสำเร็จ

 แบบไหนที่ใช่สไตล์ของเรา

คุณต้องเข้าใจก่อนว่าสไตล์กับแฟชั่นมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง สไตล์หมายถึงทุกอย่างในการใช้ชีวิตของคนคนหนึ่ง เป็นสิ่งที่ต้องสั่งสมมาจากประสบการณ์ชีวิตกลายเป็นความชัดเจน นั่นคือ Personal Style คือสไตล์ส่วนบุคคลที่มีความเชื่อว่าไม่มีใครเลียนแบบกันได้ เวลามีคนถามว่าจะหาสไตล์เจอได้อย่างไร เธอมักจะให้โจทย์ว่าให้ลองมองหาสไตล์ไอคอน หรือคนที่คุณชื่นชอบในสไตล์ของเขามาสัก 3-4 คน ลองดูว่าคุณชอบส่วนไหนในสไตล์ของคนคนนั้น สิ่งใดที่คุณชอบในคนคนหนึ่ง แปลว่าคุณมีสิ่งนั้นอยู่ในตัวเอง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องลอกเลียนแบบสไตล์ของคนคนนั้นออกมา

นี่คือสิ่งที่เป็นปัญหาของผู้หญิงส่วนใหญ่ คือเวลาคุณชอบสไตล์ของใครแล้วก็จะแต่งตัวให้เหมือนเขาโดยอัตโนมัติ และที่ทำให้พวกคุณรู้สึกแย่ก็คืออดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบตัวเองกับไอดอลของคุณแล้วรู้สึกว่า ทำไมคุณยังไปไม่ถึงตรงนั้นเสียที ความลับก็คือว่าคุณสามารถหยิบยืมสไตล์ของคนที่ชอบมาใช้ แต่คุณต้องให้อยู่ในสัดส่วนที่พอดี ตัวอย่างเช่น ตอนนี้ชอบ วิคตอเรีย เบคแฮม ชื่นชมเขาในฐานะ ผู้หญิงทำงาน ภรรยา และแม่ ชอบสไตล์ที่เรียบแต่มีรายละเอียดของเขา แต่คุณไม่สามารถดึงเสื้อผ้าที่เขาใส่มาแต่งตามได้ เพราะหนึ่ง รูปร่างคุณกับเขาต่างกัน สองคือ คาแรกเตอร์และบุคลิกของคุณกับเขาต่างกันอย่างสิ้นเชิง ถ้าหากอยากแต่งตัวสไตล์ประมาณนี้ ก็ต้องเริ่มจากการเลือกท่อนบนหรือล่างที่มีสไตล์แบบเขา แล้วนำมาแมตช์กับเสื้อผ้าสไตล์วินเทจในตู้ของคุณ วิธีนี้จะทำให้คุณค่อยๆ สร้างสไตล์ที่เป็นตัวตนออกมา จนกลายเป็นภาพจำของคนอื่นได้ในที่สุด

Mix and Match ยังไงให้โดน

อีกหนึ่งปัญหาคลาสสิกของลูกค้า ก่อนอื่นต้องเข้าใจคำว่า Mix and Match ก่อน Mix and Match ในเชิงแฟชั่นคือการจับโน่นผสมนี่ ไม่ว่าจะเป็นผสมสี เล่นกับลาย หรือสไตล์เสื้อผ้า เพื่อให้ได้สไตล์การแต่งตัวที่เป็นตัวเอง แต่ในเชิง Personal Style การ Mix and Match คือการนำเอาสไตล์อันเป็นคาแรกเตอร์ของคุณไปผสมกับคาแรกเตอร์อื่นๆ ปกติแล้วถ้าลูกค้ามาหาเธอจะมีแบบวิเคราะห์สไตล์ให้ทำ การวิเคราะห์สไตล์มาจากตัวตนของคนคนนั้น เสื้อผ้าที่คนคนหนึ่งเลือกซื้อมาใส่ส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อผ้าที่สะท้อนตัวตนของคนคนนั้นโดยที่เขาไม่รู้ตัว วิธีการง่ายๆ ที่จะวิเคราะห์สไตล์ของตัวเอง คือแบ่งเสื้อผ้าออกเป็น 3 กอง คือ

1.กองที่เรามีเยอะ เช่น บางคนอาจจะมีกางเกงยีนส์ หรือเสื้อผ้าใส่สบายๆ เต็มตู้ บางคนอาจจะมีเสื้อผ้าที่ดูเป็นทางการเต็มตู้

2.กองที่เราใส่บ่อย เช่น เสื้อหรือกางเกงตัวโปรดที่หยิบมาใส่เมื่อไหร่ก็มั่นใจเมื่อนั้น

3.กองที่เราไม่ได้ใส่มานานเกินกว่า 6 เดือน กองนี้ให้สังเกตดูว่าไม่ได้ใส่เพราะอะไร อาจจะซื้อตอนเซลส์หรือน้ำหนักเพิ่มขึ้น เป็นต้น บางกรณีของกองนี้คือไม่รู้จะไปแมตช์กับอะไร

หลังจากที่สำรวจตู้เสื้อผ้าแบ่งกองแล้ว คุณจะเห็นเสื้อผ้าที่มีอยู่ชัดขึ้น เช่น คุณจะบอกได้ว่าคนที่มีเสื้อผ้าแนวเฟมินีน ลูกไม้ หรือแนวระบายเยอะๆ น่าจะเป็นคนที่ได้สไตล์โรแมนติก เพราะฉะนั้น หากคนคนนี้อยากจะทำให้ดูเท่ขึ้น เขาน่าจะหาเครื่องประดับหรือเสื้อผ้าที่มีความเท่ หรือแฟชั่นเข้ามาเสริม แต่ถ้าใครเสื้อผ้ามีแต่ชุดทำงาน หรือทำงานที่ต้องการความเป็นมืออาชีพ คุณอาจจะทำให้ดูอ่อนโยนขึ้นด้วยสไตล์เสื้อผ้าที่มีความละมุนเพื่อให้ดูเข้าถึงง่าย พูดง่ายๆ คือการ Mix and Match ในชีวิตประจำวัน คือให้หาอารมณ์หรือคาแรกเตอร์ที่คุณอยากจะนำเสนอในวันนั้น แล้วเลือกเสื้อผ้ามาเป็นตัวเสริมเพื่อให้คาแรกเตอร์ของคุณชัดเจนยิ่งขึ้น แค่นี้ก็จะทำให้สนุกกับการ Mix and Match ได้มากขึ้น รวมถึงสนุกกับการช็อปปิ้งได้มากขึ้นอีกด้วย

การแต่งตัว ใบเบิกทางสู่ความสำเร็จ

 Master Pieces ตัวช่วยใหม่

ทราบกันดีว่า Basic Piece ที่ควรมีติดตู้คืออะไรบ้าง จากประสบการณ์ของเธอก็คือ ถ้าคุณอยากแต่งตัวให้ดูดีขึ้นอย่างง่ายๆ ให้หา Master Pieces มาเป็นตัวช่วย Master Piece ที่เธอคิดว่าเวิร์กและสามารถทำให้ผู้หญิงสวยได้เลยคือ

1.ท่อนบนที่เป็นสีขาว ตั้งแต่เบลเซอร์ เชิ้ตขาวตัดเย็บดี ไปจนถึงเสื้อทับในซาตินประดับลูกไม้ ท่อนบนสีขาวมีความง่าย คือเข้ากับท่อนล่างใดๆ ก็ได้ในโลก และสามารถนำเข้ากับสถานการณ์ได้แทบจะทุกสถานการณ์ สิ่งที่เธออยากจะแนะนำก็คือ ให้เลือกแบบที่ตัดเย็บดี เนื่องจากสีขาวจะทำให้เห็นรายละเอียดของเสื้อผ้าได้ชัดเจน เพราะฉะนั้นรูปทรงและการตัดเย็บจึงมีผลอย่างมากที่จะทำให้คนใส่ดูน่ามอง

2.ลายพิมพ์ หลายคนกลัวลายพิมพ์ แต่ทราบไหมว่าลายพิมพ์คือตัวช่วยสำคัญในการแต่งตัวของผู้หญิง ลายพิมพ์ตั้งแต่ลายทางไปจนถึงลายกราฟฟิกฉูดฉาด เมื่อนำไปแมตช์กับท่อนบนเรียบๆ จะทำให้ได้สไตล์ที่โดดเด่นขึ้นมา ถ้าอยากดูน่าสนใจขึ้นอีกหนึ่งขั้น ลองเล่นสีกับลายพิมพ์ เช่น ใส่เสื้อลายกับกางเกงสีสด เป็นต้น ส่วนถ้าใครใจกล้าให้ไปจนถึงขั้นสุด คือใส่ลายพิมพ์กับลายพิมพ์ หรือลายพิมพ์เดียวกันทั้งตัวไปเลย สไตล์นี้แนะนำมากสำหรับสาวไซส์เล็ก เพราะจะทำให้ดูสูงชะลูดขึ้นแบบง่ายๆ เลย ส่วนคนที่บอกว่าคนอ้วนไม่ให้ใส่ลายขวาง อันนี้ขอบอกว่าไม่จริง อยู่ที่ว่าจะเลือกลายขวางแบบไหนต่างหาก ถ้าไม่อยากดูกว้างมากให้เลือกลายเล็ก หรือลายทางตรงแทนจะช่วยได้

3.กระโปรง ใส่สบายและไม่ต้องแขม่ว (ยกเว้นทรงสอบ) แถมกระโปรงยังเป็นตัวแทนของความสดใส สนุก เซ็กซี่ ไปจนถึงสง่างาม อยากได้อารมณ์ไหนกระโปรงส่งให้ได้หมด กระโปรงยังเป็นเสื้อผ้าชิ้นเดียวที่ ผู้หญิงไม่ต้องแชร์กับผู้ชาย และยังนำเสนอความเป็นเพศหญิงได้อย่างชัดเจน เลือกทรงไหนดี ถ้าทำงานแนะนำทรงเอกับทรงสอบ เพราะใส่ง่ายและมีความเป็นมืออาชีพ แต่ถ้าเที่ยวสนุก กระโปรงบานๆ ย้วยๆ ก็สวยไปอีกแบบ ความยาวกระโปรงจะใส่อย่างไรให้ดูไม่เตี้ย ซึ่งความยาวกระโปรงทั่วไปโดยปกติแล้วมี 3 ระดับ คือ เหนือเข่า ครึ่งน่อง และกรอมเท้า

ถ้าจะพูดถึงความเป็นมืออาชีพ แน่นอนว่าต้องเท่าเข่าหรือเลยลงไป ส่วนเรื่องความสูง จริงๆ มันไม่เกี่ยวว่าคุณสูงเท่าไร แต่อยู่ที่คุณใส่กับรองเท้าอะไรต่างหาก การเลือกใส่รองเท้าสำคัญมาก ถ้าไม่อยากให้ดูเตี้ยตันแนะนำให้ใส่เป็นรองเท้าสาน หรือมีส้นกับกระโปรงยาวกึ่งน่องหรือกรอมเท้า แต่ถ้าใส่รองเท้าหัวปิดส้นแบน กระโปรงควรจะสั้นเหนือเข่าขึ้นไป 1 นิ้ว เพื่อให้ดูเพรียวขึ้น Tips ง่ายๆ คือ ถ้าจะใส่กระโปรงกับเสื้อยืด อย่าลืมเพิ่มเครื่องประดับเพื่อเพิ่มความเก๋ให้กับลุค และอยากสวยแบบรวดเดียวจบ ให้เลือกกระโปรงพิมพ์ลาย รับรองว่าสวยจบแน่นอน

การแต่งตัว ใบเบิกทางสู่ความสำเร็จ

 

4.ผ้าลูกไม้ ลูกไม้เป็นเนื้อผ้าที่ทำให้ดูบอบบาง น่าทะนุถนอม มีความเป็นผู้หญิงสูง ในขณะเดียวกัน ลูกไม้ก็ทำให้ดูลึกลับ น่าค้นหา เซ็กซี่ ไปจนถึงดุดัน ลูกไม้สามารถใส่ได้ในหลายโอกาส ตั้งแต่ทำงานไปจนถึงปาร์ตี้ ได้ทั้งงานที่เป็นทางการมากหรือไม่ทางการเลย แล้วจะใส่ลูกไม้ยังไงไม่ให้ดูเหมือนยืมเสื้อคุณยายมาใส่ Tips ง่ายๆ คือ แมตช์กับเสื้อผ้าชิ้นเซอร์ๆ อย่างยีนส์ เลื่อนจากท่อนบนไปเป็นท่อนล่างแทน เช่น กระโปรงบานลูกไม้ จะทำให้ดูเด็กลงได้ ถ้าอยากใส่ลูกไม้ให้ออกมาในแนวเซ็กซี่ ลองใส่กับคร็อบบราหรือซับในสีเนื้อแทน ลูกไม้มีหลายสี หลายแบบ ถ้าเพิ่งเริ่มแนะนำเป็นสีดำไว้ก่อนจะง่ายต่อการแมตช์มากกว่า ลองแมตช์กับสร้อยหรือต่างหูจำพวกโลหะสีเมทัลลิกก็จะช่วยให้ดูซ่าส์ๆ หน่อย แต่ถ้าอยากดูคลาสสิกเหมือนมาดมัวแซลชาเนล เล่นกับมุกไปเลย

5.รองเท้าสวยๆ ไม่ได้อยู่ที่ราคา แต่อยู่ที่ว่ารองเท้าคู่นั้นทำให้เรียวเท้าดูดีขึ้นไหม หลายคนไม่ค่อยใส่ใจกับรองเท้า ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย จริงๆ แล้ว รองเท้าคืออุปกรณ์ที่จะทำให้ลุคทั้งหมดที่ใส่มาดูสมบูรณ์ที่สุด ผู้หญิงหลายคนกลัวการใส่ส้นสูง และรองเท้ามีส้นสักประมาณนิ้วครึ่งเท่านั้นเองจะช่วยให้ดูดีขึ้นได้อย่างผิดตา ลองใส่รองเท้ามีส้นกับไม่มีส้น แล้วลองเดินเปรียบเทียบดู จะเห็นเลยว่าความสง่างามของท่วงท่าและจังหวะของชุดจะต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

คำว่า ส้นสูง มันกว้างมาก แต่หลายครั้งที่คุณไปติดกับคำว่า ส้นสูงใส่แล้วเจ็บ ใส่แล้วเมื่อย เคล็ดลับไม่ได้อยู่ที่ความสูง แต่ที่ลองแล้วได้ผลดีคือ เลือกที่ความหนาของส้น แน่นอนว่าคุณจะดูเซ็กซี่มากๆ บนรองเท้าส้นเข็ม คือ Stiletto แต่คุณไม่ต้องเซ็กซี่บ้างก็ได้ แค่อยากสูงสง่าค่ะ ฉะนั้นรองเท้าส้นสูงที่ส้นหนาหน่อย คือ Platform แบบมีรองข้างหน้าให้หนาด้วย ส้นหนาด้วยจะช่วยให้เดินง่ายสบายขึ้น หัวรองเท้าเลือกแบบไม่แหลมมาก หรือแบบเปิดหน้าเท้าไปเลยจะช่วยได้ ใครอยากเก๋หน่อยก็เลือกแบบมีดีไซน์ ใครชอบแบบคลาสสิกก็รองเท้าส้นสูงหัวปิดธรรมดาก็งามแล้ว ซินเดอเรลลายังกลายเป็นเจ้าหญิงชั่วข้ามคืนเพราะรองเท้า นี่คือหนึ่งใน Master Pieces ที่จะสะกดทุกสายตาในทุกสถานการณ์

ไม่ว่าอุปสรรคการแต่งตัวจะเป็นอย่างไร แต่ทุกอุปสรรคมีให้ก้าวข้ามผ่าน แค่ต้องอาศัยความรู้ทางการแต่งตัว ดูนิตยสารแฟชั่น ดูคนที่ชื่นชอบ สังเกตเวลาดูภาพยนตร์หรือซีรี่ส์ เลือกเสื้อผ้าที่คุณไม่เคยใส่ ออกจากกรอบความเชื่อเดิมๆ ทดลองสิ่งใหม่ เหล่านี้จะช่วยให้คุณหล่อหลอมตัวตนจนค้นพบสไตล์ที่ชัดเจนของตัวเองได้ในที่สุด อย่ากลัวที่จะแต่งตัวพลาด เพราะถ้าพลาดก็แค่ถอดออกตอนจบวัน แล้วเริ่มต้นกับโจทย์ใหม่ในวันรุ่งขึ้น ทุกคนดูดีขึ้นได้จากการแต่งตัว เพราะการแต่งตัวคือใบเบิกทางแห่งความสำเร็จ

การแต่งตัว ใบเบิกทางสู่ความสำเร็จ