posttoday

นักปั่นไทย เท่ เฟี้ยว หล่อสตรอง ยกทีม!

06 มีนาคม 2561

นับเป็นโอกาสดีที่ได้เจอนักปั่นจักรยานทางไกลระดับอาชีพทีมไทย ที่บอกได้เลยว่าหนุ่มๆ นักปั่นจากทีมไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ไซคลิง

เรื่อง ภาดนุ ภาพ เอเอฟพี

นับเป็นโอกาสดีที่ได้เจอนักปั่นจักรยานทางไกลระดับอาชีพทีมไทย ที่บอกได้เลยว่าหนุ่มๆ นักปั่นจากทีมไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ไซคลิง (Thailand Continental Cycling Team) นี้ นอกจากจะเก่งจนสามารถคว้าแชมป์ทั้งประเภทเดี่ยวและประเภททีมจากการแข่งขันตูร์ เดอ อินโดนีเซีย 2018 (Tour de Indonesia 2018) มาได้แล้ว แต่ละคนยังแสนจะเท่ เฟี้ยว หล่อสตรองกันแบบยกทีมเลยล่ะ

ลองไปพูดคุยกับโค้ชและสองนักปั่นหนุ่ม เล่าถึงที่มาของความสำเร็จในครั้งนี้กัน

จากอดีตที่เคยเป็นนักกีฬาจักรยานทีมชาติไทยมา 14 ปี ปัจจุบัน โค้ชตั้ม-วิสุทธิ์ กสิยะพัท ได้ผันมาเป็นผู้ฝึกสอนจักรยานทีมชาติไทยและทีมระดับอาชีพได้ 10 ปีแล้ว โดยนำประสบการณ์ของตัวเองมาใช้ในการสอน จัดโปรแกรมฝึกฝน รวมทั้งเฟ้นหานักกีฬาที่มีฝีเท้าดีเยี่ยม เพื่อคัดเลือกเข้ามาเก็บตัวฝึกซ้อมและส่งเข้าร่วมทีมไทยแลนด์ คอนติเนนตัลฯ ซึ่งเป็นทีมจักรยานทางไกลระดับอาชีพของไทยที่ถือว่ามาแรงในขณะนี้

“หน้าที่หลักของผมนอกจากการฝึกสอนแล้ว ผมยังมีหน้าที่ในการนำทีมนักปั่นไปแข่งขันในสนามต่างๆ ทั่วเอเชีย พร้อมทั้งเป็นโค้ชคอยช่วยวางแผนการแข่งขันให้ด้วย ปกติแล้วผมจะมองหานักกีฬาจากการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์ประเทศไทย ซึ่งจัดโดยสมาคมจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ทั้งประเภทถนนและประเภทลู่

ในหนึ่งปีจะมีการแข่งเป็นสิบสนาม ผมก็จะติดตามดูจากผลการจัดอันดับในการแข่งขันเป็นหลัก ถ้านักกีฬาคนไหนทำเวลาดี มีผลงานดี ได้ขึ้นรับรางวัลบนโพเดียม ทางเราก็จะเรียกมาคัดเลือกอีกทีเพื่อให้พวกเขาเข้ามาฝึกซ้อมจนสามารถเดินทางไปแข่งขันในแต่ละทัวร์นาเมนต์กับเราได้

นักปั่นไทย เท่ เฟี้ยว หล่อสตรอง ยกทีม!

สำหรับการฝึกซ้อมนักกีฬานั้นจะมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ เพราะการปั่นจักรยานมีทั้งประเภทถนน ขึ้นเขา และทางไกล นอกจากนี้ยังมีประเภทลู่ระยะกลาง ระยะสั้น รุ่นเยาวชนชาย-หญิง และรุ่นโอเพ่นชาย-หญิง ฉะนั้นนักกีฬาแต่ละประเภทจะมีการซ้อมที่แตกต่างกัน จึงต้องดูสภาพร่างกาย สภาพเส้นทาง และองค์ประกอบอื่นๆ ก่อน แล้วค่อยมาออกแบบการฝึกซ้อมให้นักกีฬาอีกที”

โค้ชตั้ม บอกว่า ตารางการฝึกซ้อมที่ออกแบบจะแบ่งเป็นการซ้อมสำหรับเยาวชนและผู้ใหญ่อย่างชัดเจน แต่จะขอยกตัวอย่างการซ้อมของทีมไทยแลนด์ คอนติเนนตัลฯ ซึ่งเป็นทีมระดับอาชีพที่จะลงแข่งในรายการจักรยานทางไกลประเภทเอเชียทัวร์เท่านั้น

“อย่างที่บอกว่าการซ้อมมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ แต่สรุปแล้วก็คือ นักกีฬาอาชีพเหล่านี้ ใน 1 สัปดาห์ จะต้องฝึกปั่นเป็นระยะทาง 1,000 กม.เลยล่ะ ส่วนใหญ่แล้วสนามที่ใช้ฝึกซ้อมจะอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ พูดง่ายๆ ว่าปั่นไปตามท้องถนนรอบๆ เชียงใหม่นั่นแหละ ทั้งทางเรียบและทางขึ้นเขา-ลงเขา บางครั้งก็ปั่นไปพะเยาและน่านบ้าง นักกีฬาอาชีพจะอยู่ในช่วงอายุ 20-30 กว่าปี ซึ่งผมจะใช้ประสบการณ์ของตัวเองฝึกฝนและแนะนำพวกเขาอย่างดีที่สุด

ปีที่ผ่านมา ผมได้พาทีมไปแข่งที่ประเทศมาเลเซีย ญี่ปุ่น และอินโดนีเซีย เรียกว่าในหนึ่งปีต้องพาทีมไปแข่งขันเกือบ 15 รายการขึ้นไป ล่าสุดเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ทีมไทยแลนด์ คอนติเนนตัลฯ ซึ่งมีสมาชิก 6 คนของเรา ก็เพิ่งคว้าแชมป์รายการแรกของเอเชียทัวร์ ทั้งประเภททีมและประเภทเดี่ยวจากตูร์ เดอ อินโดนีเซีย 2018 มาได้

และอีกไม่กี่วันนี้ทีมก็กำลังจะเดินทางไปแข่งในรายการตูร์ เดอ ลังกาวี 2018 (Tour de Langkawi 2018) ที่มาเลเซียด้วย ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้ค่อนข้างท้าทาย เพราะทั้งนักกีฬาทีมชาติ ทีมอาชีพ และทีมสโมสร สามารถลงแข่งในรายการนี้ได้ จึงมีทีมคู่แข่งจากหลายประเทศที่เก่งๆ ทั้งนั้น เช่น จีน เกาหลี ญี่ปุ่น อิตาลี สเปน ฝรั่งเศส และคาซัคสถาน ดังนั้นการจัดอันดับ (Ranging) จึงสูงตามไปด้วย แถมยังแข่งกันยาวนาน 9 สเตจ (9 วัน) พูดง่ายๆ ว่าต้องปั่นเกือบรอบประเทศมาเลเซีย บนระยะทาง 1,000 กว่า กม. สิ่งที่ผมคาดหวังก็คืออยากให้ทีมทำอันดับให้สูงยิ่งขึ้นอีก”

นักปั่นไทย เท่ เฟี้ยว หล่อสตรอง ยกทีม!

โค้ชตั้ม ทิ้งท้ายว่า วิธีที่ดีที่สุดในการเป็นโค้ชก็คือ ต้องพาลูกทีมไปแข่งขันให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้นักกีฬาได้รับประสบการณ์จากการแข่งขันในสนามอย่างเต็มที่ เพราะเชื่อว่าการทำให้นักกีฬาแข็งแรงนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่ประสบการณ์และความจัดเจนในการแข่งนั้นสำคัญที่สุด เพราะจะทำให้ทีมสามารถคว้าชัยชนะมาได้ในที่สุด ติดตามที่เพจเฟซบุ๊ก : Thailand Continental Cycling Team

ด้าน มะตูม-พีระพล ชาวเชียงขวาง หนุ่มนักปั่นวัย 31 ปี จากทีมไทยแลนด์ คอนติเนนตัลฯ ถือเป็นนักกีฬาความสามารถสูงที่น่าจับตามองอีกคนหนึ่งของทีม

“ผมเริ่มปั่นจักรยานมาตั้งแต่อายุ 14 ปี ด้วยความที่ตัวเองเป็นชาวเชียงใหม่ ผมจึงเริ่มจากการปั่นจักรยานเสือภูเขาไปตามถนนและทางขึ้นเขา-ลงเขาก่อน และเพิ่งมาขี่จักรยานเสือหมอบได้ 6-7 ปีที่ผ่านมา ผมซ้อมหนักมากจนติดนักกีฬาทีมชาติตอนอายุ 19 ปี จากนั้นก็แข่งมา 8-9 ปี ได้แข่งแมตช์ใหญ่ๆ มาเยอะมาก ทำให้มีประสบการณ์และมีผลงานดีขึ้นเรื่อยๆ และตอนนี้ผมก็เข้าเป็นสมาชิกของทีมไทยแลนด์ คอนติเนนตัลฯ ได้ 2 ปีแล้วครับ

เมื่อก่อนเมืองไทยยังไม่ค่อยมีนักกีฬาจักรยานอาชีพมากนัก เพราะกีฬานี้ยังไม่ค่อยแพร่หลาย แต่ปัจจุบันกลับได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มีทีมระดับอาชีพเกิดขึ้นมากมาย ในหนึ่งปีผมและเพื่อนๆ จึงต้องเดินทางไปแข่งขันในรายการต่างๆ กว่า 10 ครั้ง ส่วนใหญ่จะเป็นการแข่งขันระดับเอเชียนทัวร์ ซึ่งประเทศที่ไปบ่อยที่สุดก็คือ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย เนื่องจากจัดการแข่งขันบ่อย”

มะตูม บอกว่า สำหรับการคว้าแชมป์สเตจสุดท้าย (ระยะทางสุดท้าย) ทั้งประเภททีมและประเภทเดี่ยวจากตูร์ เดอ อินโดนีเซีย 2018 ที่ทีมทำได้นั้น ถือเป็นรางวัลใหญ่ประเภทจักรยานทางไกล ซึ่งเป็นความใฝ่ฝันของเขาเลยล่ะ

นักปั่นไทย เท่ เฟี้ยว หล่อสตรอง ยกทีม!

“ระยะทางในการปั่นของแต่ละวันที่แข่งขัน จะปั่น 160-170 กม.ขึ้นไป ทีมไหนหรือนักแข่งคนไหนทำเวลาได้ดีที่สุดก็จะถือเป็นผู้ชนะในแต่ละวัน จากนั้นก็จะนำคะแนนในแต่ละวันมารวมกันเพื่อหาคนหรือทีมที่ทำเวลาดีที่สุดอีกที สุดท้ายทีมเราก็คว้ารางวัลมาได้ทั้งสองประเภท ซึ่งผมรู้สึกดีใจมาก

สำหรับการแข่งขันตูร์ เดอ ลังกาวี 2018 ที่ทีมเราจะไปแข่งขันกลางเดือน มี.ค.นี้ ผมคาดหวังไว้ว่าจะทำอันดับได้ดียิ่งขึ้นไปอีก ตอนนี้สิ่งที่ผมโฟกัสจริงๆ ก็คือการแข่งขันจักรยานทางไกลในกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18 ซึ่งจะจัดขึ้นกลางเดือน ส.ค.นี้ ที่ประเทศอินโดนีเซีย จุดมุ่งหมายของผมคืออยากได้เหรียญสัก 1 เหรียญ จะเป็นเหรียญอะไรก็ได้ นี่ถือเป็นความฝันของผมเลยล่ะ และในอนาคตผมคิดไว้ว่าจะลงแข่งจักรยานอาชีพไปถึงอายุ 30 ปลายๆ เลยนะ แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของร่างกายด้วยครับ”

สำหรับ อเล็กซ์-อริยะ พูลสวัสดิ์ วัย 26 ปี หนุ่มลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส-ลาว ถือเป็นอีกหนึ่งนักปั่นทีมไทยแลนด์ คอนติเนนตัลฯ ที่อนาคตสดใสในแวดวงนักกีฬาจักรยานอาชีพ

“ผมปั่นจักรยานมาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ พออายุ 18 ปี ก็ได้รับคัดเลือกให้เป็นนักกีฬาทีมชาติลาวเพื่อลงแข่งในกีฬาซีเกมส์ปี 2009 ตอนนั้นยังไม่ได้เหรียญอะไรเลยครับ กระทั่งผมมาได้เหรียญทองจากการแข่งขันจักรยานในกีฬาซีเกมส์ปี 2013 ที่ประเทศเมียนมาเป็นเจ้าภาพ และเริ่มเป็นนักปั่นอาชีพตอนอายุ 21 ปี โดยเข้าเป็นสมาชิกทีมไทยแลนด์ คอนติเนนตัลฯ เพราะคุณพ่อผมเป็นเพื่อนสนิทกับโค้ชตั้ม วิสุทธิ์ พูดง่ายๆ ว่าผมรู้จักกับโค้ชตั้มมาตั้งแต่ผมเด็กๆ โค้ชตั้มก็ทั้งสอนทั้งดูแลผมเหมือนลูกเลยล่ะ ดังนั้นแกก็เลยดึงตัวผมมาเข้าทีมนี้ด้วย

ล่าสุดจากการแข่งขันในรายการตูร์ เดอ อินโดนีเซีย 2018 ที่เพิ่งผ่านมา ผมทำเวลาได้ดีที่สุดในนักปั่นประเภทเดี่ยว แถมทีมเรายังทำเวลาได้ดีที่สุดตอนรวมคะแนนในวันสุดท้าย ทีมเราจึงคว้าแชมป์ประเภททีมจากรายการนี้มาได้ด้วย ก็รู้สึกภาคภูมิใจมากๆ เลยครับ

นักปั่นไทย เท่ เฟี้ยว หล่อสตรอง ยกทีม!

ช่วงที่ผ่านมาผมต้องเดินทางไปแข่งขันกับทีมปีละ 10 กว่าครั้งได้ แล้วผมยังมีแยกไปแข่งเดี่ยวอีกหลายครั้ง โดยสนามส่วนใหญ่ที่แข่งจะอยู่ในทวีปเอเชีย ผมว่าทุกรายการที่ได้ไปแข่งมามันท้าทายหมดทุกสนาม แต่ปีนี้สนามที่ผมคิดว่าท้าทายที่สุดก็คือ ตูร์ เดอ ลังกาวี 2018 ที่เรากำลังจะไปแข่ง รวมทั้งกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18 ในเดือน ส.ค.นี้ ที่จะจัดขึ้นที่อินโดนีเซียด้วย”

อเล็กซ์ บอกว่า การซ้อมปั่นจักรยานของเขาโดยเฉลี่ยแล้วจะปั่น 5-6 ชั่วโมง/วัน ระยะทาง 150-200 กม. โดยซ้อมที่ จ.เชียงใหม่ เป็นหลัก บางวันก็ซ้อมคนเดียวโดยมีโค้ชอีกคนคอยแนะนำ แต่บางวันก็ซ้อมคู่กับมะตูม โดยมีโค้ชตั้มคอยแนะนำให้ นอกจากปั่นจักรยานแล้ว ก็มีการเล่นเวต และการยืดเหยียดกล้ามเนื้อร่วมด้วย

“เป้าหมายในอนาคตของผมก็คือ อยากจะเป็นแชมป์ในกีฬาเอเชียนเกมส์ หรือแชมป์ในระดับเอเชียให้ได้อีกครั้ง ถ้าให้ผมวิเคราะห์แล้วหลายประเทศก็มีนักกีฬาที่เก่งเยอะนะ แต่ผมไม่รู้สึกกลัวใครสักคนเลย ผมคิดว่านักกีฬาชาติอื่นน่าจะกลัวผมมากกว่า (หัวเราะ) และเชื่อว่าหลายชาติน่าจะกำลังจับตามองทีมไทยแลนด์ คอนติเนนตัลฯ ของเราอยู่ครับ (ยิ้ม)

สำหรับแพลนในอนาคต ผมคงจะเป็นนักปั่นอาชีพต่อไปอีกนาน คิดไว้เล่นๆ ว่าอาจจะแข่งจนอายุ 30 ปลายๆ เลย และถ้าไม่ได้เป็นนักกีฬาแล้ว ก็อาจจะผันตัวเองมาเป็นโค้ชจักรยานเช่นกัน ทุกวันนี้ผมก็เป็นโค้ชสมัครเล่นให้กับบุคคลทั่วไปที่สนใจกีฬาจักรยานอยู่ด้วย เพราะมันเป็นสิ่งที่ผมรักและจะทำต่อไปให้ดี แล้วก่อนแข่งขันเอเชียนเกมส์ในปีนี้ ผมก็ได้ติดต่อไปแข่งขันในสนามที่ยุโรปไว้ด้วย เพราะอยากจะลองไปแข่งกับนักกีฬารุ่นใหญ่ๆ ดูสักหน่อย พูดง่ายๆ ว่าตั้งใจไปหาประสบการณ์ให้ตัวเอง และจะทำให้ดีที่สุดครับ” สนใจติดตามได้ที่ IG : Ariya_3291