posttoday

ญาดา จำนงค์ทอง แมนดาล่า...ฤาจักรวาลนี้จะช้าลง

18 กุมภาพันธ์ 2561

ญาดา จำนงค์ทอง นักกิจกรรมอิสระและผู้เชี่ยวชาญด้านแมนดาล่า วัย 52 ปี

โดย วันพรรษา อภิรัฐนานนท์ ภาพ : ญาดา จำนงค์ทอง

ญาดา จำนงค์ทอง นักกิจกรรมอิสระและผู้เชี่ยวชาญด้านแมนดาล่า วัย 52 ปี เล่าให้ฟังถึงจักรวาลและโลกที่ช้าลง เมื่อชีวิตมีโอกาสได้หมุนวนเข้าไปสัมผัสสัมพันธ์กับภายในแห่งแก่นแกนของวงล้อแมนดาล่า หากก่อนจะไปถึงจุดนั้น คงต้องเล่าให้ฟังเสียก่อน ถึงความหมายของแมนดาล่า...วงล้อบำบัดทางธรรมชาติ

แมนดาลา เทราพี (Mandala Therapy) กลไกแห่งการเยียวยา หลักการคือการฟังเสียงจากภายในของตัวเอง จากนั้นใช้วัสดุธรรมชาติรอบตัว เช่น ใบไม้ ดอกไม้ กิ่งไม้ หรือเปลือกไม้ ก้อนหิน ดิน อิฐ ฯลฯ สร้างสรรค์เป็นวงกลมบนพื้นและสรรพสิ่ง จุดมุ่งหมายคือการเยียวยาบำบัดทางธรรมชาติ

ญาดา เล่าว่า Manda เป็นภาษาสันสกฤต แปลว่า จุดศูนย์กลาง ส่วน La แปลว่า ล้อวงกลมที่ล้อมรอบจุดศูนย์กลาง แมนดาลาจึงหมายถึงภาพที่มีจุดศูนย์กลาง หรือภาพที่แผ่ขยายจากจุดศูนย์กลาง อาจสมมาตรหรือไม่ก็ได้ ความหมายหรือผลลัพธ์คือ การได้กลับมาอยู่กับตัวเองที่ภายใน จิตใจและความสงบเบิกบาน

ญาดา จำนงค์ทอง แมนดาล่า...ฤาจักรวาลนี้จะช้าลง

ญาดากับการใช้ชีวิตที่ช้าลงเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 4 ปีก่อน นักกิจกรรมอิสระด้านแมนดาล่าอดีตเป็นนางพยาบาลแผนกจิตเวช อยู่ที่โรงพยาบาลแหลมฉบัง(อ่าวอุดม) ศรีราชา ชลบุรี ดูแลผู้ป่วยจิตเวชและผู้ป่วยยาเสพติด เธอทำงานอยู่ที่นี่ถึง 25-26 ปีเต็ม ระหว่างนี้คือการพยายามใคร่ครวญหาคำตอบที่แท้จริงของภาวะการเจ็บป่วย โดยส่วนตัวแล้วญาดาไม่คิดว่า การรักษาในระบบจะให้คำตอบแก่ตัวผู้ป่วยหรือครอบครัวผู้ป่วยได้ 100%

“การรักษาด้วยยานั้นจำเป็นก็จริง แต่ก็ไม่อาจให้คำตอบ หรือบำบัดเยียวยาผู้ป่วยได้ทั้งหมด” ญาดาเล่า

“ความสนใจมุ่งที่แนวทางการบำบัดทางธรรมชาติ คิดว่าเราน่าจะใช้ธรรมชาติ เพื่อบำบัดเยียวยาผู้คนได้ ก็คิดว่าอยากจะศึกษาทางนี้ และมุ่งมาทางนี้มากกว่า” ญาดาเล่า

เธอตัดสินใจลาออกจากงานประจำ เพื่อเดินหน้าศึกษาในศาสตร์ใหม่ที่สนใจ แม้ได้เงินก้อนจากการเออร์ลี่รีไทร์ไม่มาก แต่ก็คิดว่าไปหาเอาข้างหน้า ไม่กลัวที่จะเผชิญกับสิ่งที่จะได้พบเจอ ประกอบกับไม่ฟุ่มเฟือย ก็คิดว่าอยู่ได้ เลี้ยงตัวเองได้ ขณะเดียวกันก็ได้เวลาและได้ทำในสิ่งที่สนใจอย่างแท้จริง

ญาดา จำนงค์ทอง แมนดาล่า...ฤาจักรวาลนี้จะช้าลง

ญาดาเล่าว่า ชีวิตเปลี่ยนไปจริงๆ ได้เงินน้อยลง แต่ “ดี” มากขึ้น ดีที่มากขึ้นนั้นคือคุณภาพชีวิตที่มากขึ้น เพราะได้นอนได้พักผ่อน กินน้อยลงแต่กลายเป็นดี ได้เรียนรู้ทำความเข้าใจในชีวิตร่างกายของตัวเองแล้วพบว่า กินอยู่แต่น้อยนั้นดีกว่ากินอยู่หรือยัดเยียดให้ตัวเองกินเยอะๆ เสพเยอะๆ

“ชีวิตจริงๆ ของเรา ใช้น้อยมาก เหมือนเราได้สังเกตตัวเอง ไม่หิวก็ไม่กิน ไม่ยัดเยียดร่างกายเยอะ ได้เวลามากมายที่จะได้ทำในสิ่งที่สนใจและต้องการจริงๆ”

ปัจจุบันญาดารับจ๊อบเป็นนางพยาบาลประจำที่ห้องพยาบาลของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง สัปดาห์หนึ่งทำงาน 2 วัน วันจันทร์และวันอังคาร ส่วนที่เหลือจากสองวันนี้คือขอให้เป็นวันที่ได้ใช้ชีวิตเต็มที่ ตื่นสาย เล่นโยคะ ทำสมาธิ กินอาหารเช้า ก่อนจะออกไปปีนเขาใกล้ๆ บ้าน หรือเดินเล่นในสวนใกล้บ้าน ทำแมนดาล่า...ช้าๆ ซึมซับ

“ชีวิตมีความสนุก มีความเต็มอิ่ม และมีความหวัง ใช่!เงินน้อยลง แต่เพราะกินน้อยใช้น้อย ก็เรียกว่าไม่มีปัญหาอะไรเลย ทุกเดือนจะตั้งใจเก็บเงิน เพราะมีเป้าหมายตลอดเวลา ไม่คอร์สเรียนธรรมชาติบำบัด คอร์สแมนดาล่าก็เป็นคอร์สเรียนแนวจิตวิทยาที่สนใจ หัวใจมีความหวัง หัวใจมีเรื่องดีๆ ให้คิดให้ฝัน”

ญาดา จำนงค์ทอง แมนดาล่า...ฤาจักรวาลนี้จะช้าลง

กิจกรรมแมนดาล่าของญาดา นอกจากจะเดินทางไปศึกษาเพิ่มเติมคอร์สแมนดาล่าที่เปิดสอนตลอดเวลาแล้ว ก็เป็นแมนดาล่าในชีวิตประจำวันของตัวเธอเอง เธอมักวาดรูปหรือทำวงล้อแมนดาล่าที่ในสวนรุกขชาติใกล้บ้าน หรือบางทีก็ปีนเขาขึ้นไปทำแมนดาล่าบนเขา เขาที่ชอบไปไม่พ้นเขาฉลาก เพราะใกล้บ้านที่ศรีราชาที่สุด

ญาดายังเป็นนักกิจกรรมที่เปิดตัวทางเฟซบุ๊ก จึงมีผู้สนใจแมนดาล่ามากมายติดต่อเข้ามา หลายคนที่อยากทำหรืออยากเรียนรู้แมนดาล่า ญาดาจะตอบพวกเขาว่า ไม่มีวิธีอะไรที่จะเรียนรู้แมนดาล่าได้ดีไปกว่า การได้ทดลองฝึกทำสักครั้ง ส่วนใหญ่ก็จะนัดแนะกันไปทำแมนดาล่าที่บนเขาบ้าง ในสวนป่าบ้าง เฉลี่ย 2-3 ครั้ง/สัปดาห์

“ผู้คนมาจากทั่วสารทิศ บางคนมาจากกรุงเทพฯ หรือบางคนก็มาจากต่างจังหวัดไกลๆ ถือเป็นกิจกรรมพิเศษที่ทำให้ได้เรียนรู้ เรียนรู้ตัวเอง เรียนรู้แมนดาล่า พาเดินเลยดีกว่า(ฮา)” ญาดาเล่า

เป้าหมายของญาดา คือความฝันที่จะท่องเที่ยวไป เธออยากเดินทางไปเดินและทำแมนดาล่าในต่างประเทศ ที่สำคัญคือได้ใช้ประโยชน์จากแมนดาล่ากับคนหรือกลุ่มคนที่แวดล้อมในชีวิต หรือแม้แต่คนแปลกหน้าที่ได้สัมผัส

“แว่บหนึ่งคือแมนดาล่าที่จะปรากฏขึ้น ดิฉันมักนำแมนดาล่ามาใช้กับตัวเองและคนรอบตัว คล้ายกับแมนดาล่าที่เคลื่อนไปกับเราตลอด แผ่ขยายออกมาจากตัวเราตลอด” ญาดาเล่า

ในเดือน มี.ค.นี้ ญาดาก็กำลังจะเดินทางไปที่เวียดนาม ท่องเที่ยวและทำงานที่นั่น ช่วงแรกคงไปในย่านเอเชียก่อน แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว ถือว่าเปลี่ยนชีวิตตัวเองแล้ว มีความเข้าใจตัวเองมากขึ้น มีความสุขกับงานที่ทำ มีชีวิตที่ช้าลงและได้ทำตามใจปรารถนา

ญาดา จำนงค์ทอง แมนดาล่า...ฤาจักรวาลนี้จะช้าลง

อ้อ ! ครอบครัวก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้ได้ใช้ชีวิตที่ช้าลงหรือไม่ ญาดากล่าวติดตลกว่า แรกเริ่มสามีไม่เห็นด้วย ถือเป็นอุปสรรคชิ้นใหญ่ ใช้วิธีพาสามีไปเดินเขาฉลากด้วยกันเสียเลย พาไปทำแมนดาล่าด้วยกันเสียเลย(ฮา) พร้อมๆ กับใช้กฎแห่งแรงดึงดูด เมื่อจิตของเราดี คิดดี เราก็จะเปลี่ยนผู้คนรอบตัวของเราให้เป็นพลังและความสุขได้เอง

สำหรับคนที่ต้องการใช้ชีวิตที่ช้าลง ญาดาให้คำแนะนำว่า ต้องออกจากงานประจำหรือไม่ อาจจะต้องออกจากงานหรือไม่ออกจากงานก็ได้ กุญแจสำคัญคือการ “รู้” ตัวเองแล้วหรือไม่ว่า เราต้องการอะไรจากชีวิต ถ้ารู้แล้วก็จะสามารถควบคุมเวลาในชีวิตได้เอง เบื้องต้นอาจใช้เวลาช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ไปก่อนก็ได้

ถ้ารู้ว่าตัวเองมีความสุขกับอะไร อยากทำอะไรก็ไม่ยาก ลองบริหารจัดการเวลามาทำสิ่งที่ต้องการนั้น ถ้ายังอยู่อยากอยู่ในระบบหรือทำงานประจำต่อไป อาจต้องกำหนดขอบเขตบ้าง แต่ถ้าลาออกก็ต้องถือว่าเต็มที่ได้กับงานหรือสิ่งที่เรารัก ไม่ต้องถูกรบกวนจากงานประจำ ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่าคีย์เวิร์ดของเรื่องนี้คือคำว่า “เวลา”

จากชีวิตที่วุ่นวาย ญาดาค้นพบชีวิตและจักรวาลที่เธอต้องการในที่สุด คือโลกของแมนดาล่าที่ทำให้รู้ว่าเวลาคือชีวิต การมีเวลาของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะเวลาคือโอกาส เวลาคือความสุข มีเวลาให้กับตัวเองกันให้มากๆ เพราะเวลาคือสิ่งที่มีคุณค่า ทำความเข้าใจว่าเวลาไม่ใช่ความเร่งรีบ เวลาในชีวิตของเราคือเวลาของเรา

“อย่ารีบจนไม่มีอะไรเหลืออยู่ในชีวิต เพราะทุกอย่างขาดพร่องความหมายไปหมด”

ญาดาเล่าว่า ไม่ใช่เวลาเร่งรีบ ที่ทำให้ไปไกลจากตัวตนของตน แต่เป็นเวลาที่สบายๆ ให้กับตัวเอง กำหนดเองว่าจะใช้เวลาในชีวิตอย่างไร ทุกเวลาเป็นความสุข อยู่กับความสุขและทำงานด้วยความสุข รวมทั้งได้แบ่งปันความสุขนั้นแก่ผู้คน ด้วยธรรมชาติง่ายๆ ใกล้ๆ ตัว

อนาคตคือความเคลื่อนไปแห่งจักรวาล แมนดาล่าและวงล้อที่หมุนแผ่รัศมีออกไปไม่มีขอบเขต...แมนดาลา เทราพี กลไกการเยียวยาที่เหมาะกับทุกคน ที่ต้องการรู้จักตัวเอง ต้องการเยียวยาตัวเอง และต้องการโลกที่ช้าลง สนใจอินบ็อกซ์ที่เฟซบุ๊ก Yada Jib Jamnongtong