posttoday

ดูแลภายในจมูก ก่อนที่จะสายเกินไป

17 กุมภาพันธ์ 2561

ในแต่ละปีพบผู้ป่วยทั่วโลกเกือบ 1 ต่อประชากรแสนคน โดยเฉพาะในแถบเอเชียจะพบผู้ป่วยมะเร็งหลังโพรงจมูกมีเพิ่มสูงขึ้น ได้แก่ จีนตอนใต้ ฮ่องกง ไต้หวัน

 โดย โสภิตา สว่างเลิศกุล [email protected] ภาพ : medicalgrapevineasia.com

 ในแต่ละปีพบผู้ป่วยทั่วโลกเกือบ 1 ต่อประชากรแสนคน โดยเฉพาะในแถบเอเชียจะพบผู้ป่วยมะเร็งหลังโพรงจมูกมีเพิ่มสูงขึ้น ได้แก่ จีนตอนใต้ ฮ่องกง ไต้หวัน

 ในขณะที่ประเทศไทย พบมะเร็งหลังโพรงจมูก 25 คนต่อประชากรแสนคน ซึ่งพบว่าอุบัติการณ์ในผู้ชายสูงกว่าในผู้หญิงประมาณสองเท่า ส่วนใหญ่อยู่ในวัยหนุ่มสาวถึงวัยกลางคน   

 ข้อมูลจากเว็บไซต์พบแพทย์ บอกว่า มะเร็งหลังโพรงจมูก เป็นโรคที่ส่งผลกระทบต่อโพรงจมูกหรือพื้นที่ข้างหลังจมูกและโพรงอากาศเล็กๆ ข้างจมูก โหนกแก้มและหน้าผาก มะเร็งหลังโพรงจมูกเกิดจากการเติบโตของเซลล์ที่ผิดปกติหรือมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับเซลล์

 สาเหตุของมะเร็งโพรงจมูก เกิดจากการที่เซลล์ต่างๆ ในโพรงจมูกและโพรงอากาศข้างจมูกเกิดความผิดปกติหรือมีการเปลี่ยนแปลง แต่ยังไม่การยืนยันแน่ชัดว่าสาเหตุของมะเร็งหลังโพรงจมูกคืออะไร

 ปัจจัยเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดมะเร็งหลังโพรงจมูกได้มีหลายประการ เช่น การสัมผัสหรือสูดดมสารเคมีที่ส่งผลให้เซลล์พัฒนาเป็นมะเร็งได้ ความเปลี่ยนแปลงนี้จะก่อให้เกิดเนื้อร้ายที่สามารถแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้ แต่บางครั้งการเซลล์ที่ผิดปกติก็ไม่ได้เป็นเนื้อร้ายเสมอไป

 ผู้ป่วยบางรายอาจเป็นแค่โรคริดสีดวงจมูกหรือเนื้องอกโพรงจมูกแทน โดยมะเร็งโพรงจมูกเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้ยาก ซึ่งหากพบก็จะมักพบได้ในผู้ชายอายุ 50-60 ปี

 อาการของมะเร็งหลังโพรงจมูก อาจไม่แสดงอาการตั้งแต่แรกๆ เนื่องจากโพรงจมูกมีลักษณะค่อนข้างกว้างซึ่งเนื้องอกอาจขยายได้เรื่อยๆ อาการอาจปรากฏออกมาเมื่อมะเร็งเจริญเติบโตไปรอบๆ หรือใหญ่จนปิดกั้นโพรงจมูกแล้ว

 อาการทั่วไปที่พบได้บ่อยคือคัดจมูกหรือน้ำมูกไหลข้างเดียว แม้ผู้ป่วยจะไม่ได้เป็นหวัดหรือเป็นภูมิแพ้ อาการจะคงอยู่เป็นเวลานานและแย่ลงเรื่อยๆ อาการอื่นๆ ของมะเร็งหลังโพรงจมูกค่อนข้างที่จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่ามะเร็งนั้นเริ่มมาจากส่วนไหน

 จากการวิจัยในถิ่นที่มีความชุกของโรคสูง จะพบว่ามีความสัมพันธ์กับการติดเชื้อไวรัสเอปสไตน์บาร์ (Epstein-Barr Virus) ปัจจุบันก็ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงว่ามะเร็งหลังโพรงจมูกนี้เกิดจากสาเหตุอะไร แต่มีปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเพิ่มอุบัติการณ์ของการเกิดมะเร็งหลังโพรงจมูกได้ คือ

ดูแลภายในจมูก ก่อนที่จะสายเกินไป

 

 1.พันธุกรรม จากการที่พบว่ามะเร็งหลังโพรงจมูกมีความชุกสูงเฉพาะในบางเขตภูมิศาสตร์ เช่น ในประเทศจีนตอนใต้ และส่วนอื่นๆ ที่ชาวจีนอพยพไป ทำให้มีการศึกษาว่าพันธุกรรมอาจเป็นปัจจัยหนึ่งของการเกิดมะเร็งชนิดนี้ 

 2.ไวรัส เป็นที่ยอมรับกันว่าไวรัสเอปสไตน์บาร์ มีส่วนสำคัญต่อการเกิดมะเร็งหลังโพรงจมูก โดยศึกษาพบว่าผู้ป่วยมะเร็งหลังโพรงจมูกจะมีสารภูมิต้านทานต่อไวรัสชนิดนี้ ในปริมาณที่สูงกว่าประชากรทั่วไปที่มีสุขภาพดี 

 3.อาหารการกิน พบว่าในมณฑลกวางตุ้งซึ่งมีอุบัติการณ์ของมะเร็งหลังโพรงจมูกในอัตราสูงนั้น ประชาชนนิยมบริโภคปลาหมักเค็มกันมากกว่าส่วนอื่นของประเทศ ซึ่งในเรื่องอาหารนั้นในประเทศไทยก็พบว่า มีข้อมูลที่คนไทยบริโภคอาหารที่มีสารไนโตรซามีนในจำนวนมาก ซึ่งมีอยู่ในเนื้อสัตว์ อาหารหมักดอง เช่น ไส้กรอก แหนม ปลาร้า ปลาเค็ม 

 4.สิ่งแวดล้อม มีปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมหลายอย่างที่อาจมีผลต่อการเกิดมะเร็งหลังโพรงจมูก ได้แก่ ฝุ่นละออง ควันไฟจากการเผาไม้หรือหญ้า สารเคมีต่างๆ ตลอดจนการดื่มสุราและการสูบบุหรี่

 พญ.วรรนธนี อภิวัฒนเสวี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญศูนย์ตา หู คอ จมูก โรงพยาบาลพระรามเก้า อธิบายว่า อาการเบื้องต้นของโรคนี้ ผู้ป่วยอาจมีหูอื้อข้างเดียว มีเสียงดังในหู คัดแน่นจมูก มีน้ำมูกหรือเสมหะปนเลือด เมื่อโรคมีการกระจายไปที่ต่อมน้ำเหลือง ทำให้คลำได้ก้อนที่คอข้างเดียวหรือทั้งสองข้างก็ได้ เนื่องจากตำแหน่งของโพรงหลังจมูกอยู่ติดกับฐานสมอง ทำให้โรคสามารถลุกลามเข้าเส้นประสาทสมองหรือเข้าสมอง ทำให้ปวดศีรษะ หน้าชาด้านใดด้านหนึ่ง หรือเกิดการมองเห็นที่ผิดปกติ เช่น มองเห็นภาพซ้อน 

 การตรวจวินิจฉัย แพทย์จะเริ่มจากซักประวัติ ตรวจร่างกายอย่างละเอียดโดยเฉพาะบริเวณโพรงหลังจมูก และหากสงสัยว่ามีความผิดปกติก็จะทำการส่องกล้องทางจมูกเพื่อตัดชิ้นเนื้อไปตรวจอีกครั้ง ในบางรายอาจตรวจเลือดหาสารภูมิต้านทานต่อเชื้อไวรัสเอปสไตน์บาร์

 สำหรับการตรวจทางรังสีวิทยาเพื่อหาระยะและขอบเขตของโรคนั้น สามารถทำได้ด้วย CT Scan หรือ MRI บริเวณโพรงหลังจมูกและบริเวณลำคอ ตรวจการแพร่กระจายของโรคไปยังอวัยวะอื่นๆ เช่น เอกซเรย์ปอด อัลตราซาวด์ตับและช่องท้อง การกระจายเข้าสู่กระดูกหรือ Bone Scan

 การรักษามะเร็งหลังโพรงจมูกโดยหลัก คือการใช้รังสีรักษาซึ่งอาจรวมกับการให้เคมีบำบัดขึ้นอยู่กับระยะการดำเนินโรคของมะเร็ง ส่วนการผ่าตัดมีบทบาทน้อย เนื่องจากตำแหน่งของโรคอยู่ติดกับอวัยวะสำคัญ เช่น เส้นประสาทสมอง เส้นเลือดแดงใหญ่ในสมองและส่วนเนื้อสมอง ทำให้การผ่าตัดก่อให้เกิดอันตรายและความพิการสูงมาก

 “ประกอบกับเซลล์ของมะเร็งส่วนใหญ่จะตอบสนองดีต่อการฉายรังสีทำให้การผ่าตัดมีบทบาทในกรณีหลังรักษาแล้วแต่ยังคงมีเนื้อมะเร็งเหลือค้างอยู่ มะเร็งหลังโพรงจมูกนับว่าเป็นภัยเงียบที่ซ่อนเร้น แต่หากตรวจพบเร็วก็จะรักษาให้หายขาดได้ 

 ดังนั้น การหมั่นตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ นับว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะสามารถหลีกเลี่ยงปัจจัยส่งเสริมที่อาจเป็นสาเหตุของมะเร็งหลังโพรงจมูก รวมถึงการปฏิบัติตัวและดูแลพฤติกรรมในการรับประทานอาหาร ก็เป็นการป้องกันภัยเงียบจากมะเร็งชนิดนี้ได้เช่นเดียวกัน”

 มะเร็งหลังโพรงจมูก เป็นอีกหนึ่งโรคมะเร็งร้ายที่กลายเป็นภัยเงียบและคร่าชีวิตผู้คนได้ไม่แพ้มะเร็งชนิดอื่นๆ เนื่องจากเป็นโรคที่อยู่ในตำแหน่งที่ซ่อนเร้นยากแก่การตรวจพบ จึงทำให้ผู้ป่วยมาพบแพทย์ด้วยอาการของระยะที่มะเร็งลุกลามมากแล้ว และยากแก่การรักษา