posttoday

ปนพงษ์ ภูมิดิษฐ์ ‘เปิดโลกภายนอกให้ลูกสัมผัส’

17 กุมภาพันธ์ 2561

พ่อแม่ยุคใหม่ที่ทำงานประจำจะทราบดีว่า เวลาเป็นสิ่งมีค่าที่สุดโดยเฉพาะกับลูกรัก เหมือนครอบครัวของ "แปลน" ปนพงษ์ ภูมิดิษฐ์

 โดย  ฤดูกาล ภาพ : ปนพงษ์ ภูมิดิษฐ์

 พ่อแม่ยุคใหม่ที่ทำงานประจำจะทราบดีว่า เวลาเป็นสิ่งมีค่าที่สุดโดยเฉพาะกับลูกรัก เหมือนครอบครัวของ "แปลน" ปนพงษ์ ภูมิดิษฐ์ บรรณาธิการบริหารนิตยสารมายาแชนแนล ที่เพิ่งมีสมาชิกใหม่ “น้องโปรกู๊ด” ลูกสาวคนแรกวัย 1 ขวบหมาดๆ โดยวันธรรมดาคุณย่าจะเป็นคนเลี้ยงอยู่ที่ จ.สุพรรณบุรี ส่วนวันเสาร์และวันอาทิตย์จะเป็นเวลาของเขาและภรรยา

 “กลางสัปดาห์เราจะกลับไปนอนค้างกับลูกที่สุพรรณบุรี เพื่อให้น้องรู้สึกว่าเจอหน้าพ่อแม่บ่อยขึ้น เพราะถ้ารอเจอเสาร์และอาทิตย์กลัวจะนานไป แต่ระหว่างที่เราไม่ได้กลับไป เราก็จะโทรวิดีโอคอลไปหาน้องอยู่เป็นประจำ ซึ่งเวลาที่น้องโปรกู๊ดเห็นก็จะรู้สึกดีใจทุกครั้งที่เห็นหน้าและได้ยินเสียงพ่อกับแม่” เขากล่าว

ปนพงษ์ ภูมิดิษฐ์ ‘เปิดโลกภายนอกให้ลูกสัมผัส’

 “เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ส่วนใหญ่จะมีงานประจำทำกันทุกคน แต่ก็ใช่ว่าเราจะทำงาน 7 วัน/สัปดาห์ หรือ 24 ชั่วโมง/วัน หากเรารู้จักที่จะแบ่งเวลาให้ลูก แม้จะเป็นเวลาเพียงน้อยนิดแต่ก็มีค่าสำหรับเราและเขา ซึ่งไม่จำเป็นที่จะต้องไปท่องเที่ยวหลายวัน หรือเดินทางไกลๆ ขอแค่คุณพาเขาออกนอกบ้านไปสวนสาธารณะ สนามเด็กเล่น ออกนอกบ้านไปเจอผู้คนไปเจอเด็กวัยเดียวกันกับเขา แค่นี้ก็เป็นการสร้างความสุขและเป็นการส่งเสริมพัฒนาการที่ดีให้กับลูกคุณได้แล้ว”

 อย่างครอบครัวของเขาก็เริ่มพาน้องโปรกู๊ดเที่ยวนอกบ้านตั้งแต่อายุ 4 เดือนกว่า โดยเลือกพาไปห้างสรรพสินค้าที่มีคนไม่มาก เพื่อให้น้องลองปรับสภาพร่างกายทั้งการเดินทางบนรถ สัมผัสอากาศนอกบ้าน ออกไปโดนแสงแดด และออกไปฟังเสียงรอบข้าง

ปนพงษ์ ภูมิดิษฐ์ ‘เปิดโลกภายนอกให้ลูกสัมผัส’

 จากนั้นเมื่ออายุครบ 5 เดือน แปลนและภรรยาได้พาลูกสาวไปเที่ยวต่างจังหวัดครั้งแรกที่พัทยา โดยตั้งใจให้ลูกได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการลงสระว่ายน้ำครั้งแรกหรือการเหยียบพื้นทรายครั้งแรก

 ส่วนทริปที่ประทับใจที่สุด เขายกให้ทริปเพชรบูรณ์เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งแตกต่างจากทริปพัทยาตรงที่น้องโปรกู๊ดรู้เรื่องขึ้นมาก ทำให้เขาได้เห็นวิวัฒนาการของเด็ก 10 เดือนอย่างชัดเจน

ปนพงษ์ ภูมิดิษฐ์ ‘เปิดโลกภายนอกให้ลูกสัมผัส’

 “ยิ่งน้องได้เห็นดอกไม้สวยๆ น้องก็จะร้องอู้หู! ดูมีความสุข แถมยังไม่งอแงเวลาที่ต้องเดินทางบนรถนานๆ เพราะเราฝึกให้นั่งรถจนเคยชินตั้งแต่เด็กแล้ว” เขาเพิ่มเติม

 นอกจากความสุขของลูกรัก แปลนยังกล่าวด้วยว่าการพาลูกออกจากบ้านทำให้เด็กมีพัฒนาการที่ดี โดยเฉพาะการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งรอบข้างทั้งผู้คน ต้นไม้ และสัตว์ รวมถึงยังช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัวให้มีความรักมากขึ้น

ปนพงษ์ ภูมิดิษฐ์ ‘เปิดโลกภายนอกให้ลูกสัมผัส’

 “ถึงแม้ว่าการพาลูกไปเที่ยวตอนเด็ก พอโตขึ้นมาเขาจะจำอะไรไม่ได้ แต่น้องโปรกู๊ดก็ได้รับประโยชน์จากการเที่ยวมากมาย ทำให้น้องอารมณ์ดี แถมยังมีพัฒนาการที่ดีมากขึ้นเรื่อยๆ มากกว่าการเลี้ยงน้องอยู่ในบ้าน ถึงเราจะอ่านนิทานหรือให้เล่นของเล่นที่เสริมสร้างพัฒนาการ ก็ไม่ต่างอะไรไปจากการเรียนรู้แค่ในโรงเรียน

 ดังนั้น เราควรจะพาเขาออกไปเที่ยวนอกบ้านและเปิดโลกภายนอกให้ลูกได้สัมผัส ทุกวันนี้มีอุปกรณ์ถ่ายภาพ มีสื่อโซเชียลมีเดีย ทุกครั้งที่เราพาน้องไปเที่ยวก็จะบันทึกความทรงจำเหล่านั้นเพื่อให้น้องได้ดูตอนโต เชื่อว่าอย่างน้อยๆ น้องก็ต้องรู้สึกคุ้นเคยกับสถานที่นั้นๆ ไม่มากก็น้อย” เขากล่าวทิ้งท้าย