posttoday

อุ่นไอรัก คลายความหนาว บำรุงสุขให้ราษฎร

12 กุมภาพันธ์ 2561

ด้วยพระราชปณิธานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ที่ทรงหมายมั่นที่จะทรงบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาราษฎร์

โดย...วราภรณ์  ภาพ : ชนัสต์ กตัญูญ

ด้วยพระราชปณิธานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ที่ทรงหมายมั่นที่จะทรงบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาราษฎร์ เพื่อสืบสานพระราชปณิธานของบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า ที่ทรงปกครองดูแลชาติบ้านเมืองให้อยู่รอดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง มีผืนแผ่นดินให้ประชาราษฎร์ได้อยู่อาศัย มีอาชีพ อีกทั้งยังทรงตระหนักดีว่า ยังมีประชาชนอีกจำนวนมากยังคงเดือดร้อนในการดำเนินชีวิตด้านต่างๆ เช่น สภาวะแวดล้อมภัยธรรมชาติ และปัญหาความขาดแคลน ทรงมีพระราชปณิธานแน่วแน่ที่จะทรงแก้ปัญหาต่างๆ ที่ทำให้เกิดความทุกข์กายทุกข์ใจของประชาชนให้ได้รับการบรรเทาจางหายไปด้วยวิธีการต่างๆ

ทุกคนจะอยู่อาศัยบนผืนแผ่นดินอย่างสุขกายสบายกันถ้วนหน้า มีความเห็นอกเห็นใจกันอันเป็นคุณสมบัติตามธรรมชาติที่มีอยู่ในหัวใจของคนไทยที่มีความรักชาติ จึงพระราชทานพระราชดำริที่จะให้ประชาชนมีความสุขความรื่นเริง และรำลึกถึงวิถีชีวิตที่ผ่านมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยราชการในพระองค์ ภาครัฐและเอกชน จัดงานพระราชทานความสุขให้กับประชาชนและเผยแพร่ความงดงามของความเป็นไทยในรูปแบบต่างๆ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระมหากษัตริย์ผู้เป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย โดยใช้ชื่องาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” จัดระหว่างวันนี้-11 มี.ค. ณ พระลานพระราชวังดุสิตและสนามเสือป่า

นิทรรศการแสดงพระราชประวัติ

บริเวณพระลานพระราชวังดุสิต ตั้งประดับด้วยเรือสุพรรณหงส์จำลองขนาด 25 เมตร ตกแต่งด้วยดอกไม้ฤดูหนาวหลากหลายสายพันธุ์ ฝีมือของสวนนงนุชหลากสีสันสวยงาม

งานแบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนที่ 1 นิทรรศการ เป็นการจัดการแสดงนิทรรศการและกิจกรรมต่างๆ ที่สะท้อนความผูกพันระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์กับประชาชนในสมัยรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 9 รวมทั้งเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ ตลอดจนประวัติศาสตร์ ศาสนา เศรษฐกิจ สังคม และประเพณี วัฒนธรรม ใช้ชื่อนิทรรศการ “สยามประชารำฦก” แบ่งออก 12 เวิ้ง เช่น เวิ้งทรงพระเยาว์ เวิ้งนำความเจริญสู่บ้านเมือง เวิ้งทรงสร้างสาธารณูปโภค เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์จำลอง ประดิษฐ์จากผ้าไหมศิลปาชีพ เป็นสัญลักษณ์แห่งพระราชปณิธานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่จะทรงสานต่อพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ด้วยการสืบสาน รักษา และต่อยอดงานด้านการพัฒนา และพระราชทานความสุขแก่ปวงประชาทุกด้าน

อุ่นไอรัก คลายความหนาว บำรุงสุขให้ราษฎร

ส่วนที่ 2 ร้านค้าในพระบรมวงศ์ และร้านค้ารับเชิญ จำนวน 28 ร้าน รวมทั้งร้านจิตอาสา 904 นอกจากนี้ยังมีงานออกร้านมูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ภูฟ้า มูลนิธิสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย โครงการกำลังใจในพระดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา มูลนิธิโครงการหลวงดอยคำ ภัทรพัฒน์ ฯลฯ

ส่วนที่ 3 ร้านอาหาร ประกอบด้วยร้านอาหารไทยที่มีความโบราณ จำนวน 36 ร้าน เช่น เมนูบัวลอยไข่หวานของเมืองไทยประกันภัย ข้าวซอย ขนมจีนน้ำเงี้ยวจากร้านสืบสานตำนานอาหารล้านนา ฯลฯ

งานบริเวณด้านหน้าสนามเสือป่า นอกจากการจัดแสดงนิทรรศการพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว นิทรรศการพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ทรงงานมาตลอดระยะเวลา 70 ปีแห่งการครองราชย์แล้วนั้น ผู้เข้าชมงานจะได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทย กุศโลบายการพัฒนาประเทศให้เจริญทัดเทียมนานาอารยประเทศ ผ่านนิทรรศการที่แสดงให้เห็นถึงบทบาทหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆ ที่ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 ทรงก่อตั้งขึ้น เช่น การรถไฟแห่งประเทศไทย การไฟฟ้า การประปา การไปรษณีย์ไทย และธนาคารสยามกัมมาจล หรือธนาคารไทยพาณิชย์ในปัจจุบันอีกด้วย

อุ่นไอรัก คลายความหนาว บำรุงสุขให้ราษฎร

จำหน่าย “ถุงผ้า” เพื่อราษฎร์

ร้านจิตอาสา 904 ได้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เช่น เสื้อโปโลสีต่างๆ ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พระราชทานภาพวาดการ์ตูนฝีพระหัตถ์ที่แสดงถึงการเล่นกีฬาของครอบครัวลงบนด้านหน้าของเสื้อ และด้านหลังเป็นภาพวาดการ์ตูนฝีพระหัตถ์ที่แสดงถึงการละเล่นของไทยสมัยโบราณในรูปแบบต่างๆ รวมทั้งพระราชทานภาพวาดฝีพระหัตถ์ลงบนกระเป๋าจิตอาสาทั้ง 2 ด้าน ประกอบด้วยภาพครอบครัวจิตอาสา เราทำความดี ด้วยหัวใจ และภาพที่แทนความหมายความเป็นอยู่ของประชาชนทั้ง 3 ฤดู ซึ่งสะท้อนถึงความรัก ความห่วงใยในพสกนิกรของพระองค์ เสมือนเป็นความรัก ความผูกพันและความอบอุ่นที่มีให้กันในครอบครัว

การออกแบบกระเป๋าจิตอาสาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริให้เป็นกระเป๋าที่มีความสวยงาม มีความทนทาน และเคลือบด้วยวัสดุกันน้ำอย่างดี เพื่อให้ประชาชนใช้งานได้หลากหลาย ซึ่งแสดงถึงวิสัยทัศน์อันกว้างไกลในการสืบสานงานตามพระราชเสาวนีย์ที่จะช่วยเสริมอาชีพให้กับราษฎรให้มีรายได้เพิ่ม และมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ให้ทำกระเป๋าจิตอาสาที่ทำขึ้นมาจำหน่ายในร้านจิตอาสา 904 นอกจากนี้ยังมีการออกร้านของร้านมูลนิธิศิลปาชีพ ที่จำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เป็นต้น

อุ่นไอรัก คลายความหนาว บำรุงสุขให้ราษฎร

ชื่นชม “ฝีมือช่างราชสำนัก”

สิ่งที่น่าสนใจในงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว อื่นๆ ก็คือการจัดแสดงศิลปะชั้นสูงในราชสำนักที่สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน เช่น การร้อยดอกไม้สด การปักสะดึง ฯลฯ โดยโรงเรียนช่างฝีมือในวังหญิงและโรงเรียนช่างฝีมือในวังชายซึ่งตั้งอยู่ฝั่งสวนอัมพร แบ่งเป็นโซนดอกไม้ สาธิตการร้อยดอกไม้ พับผ้าเช็ดหน้าเป็นตัวสัตว์ต่างๆ ทำอาหาร แกะสลัก ประชาชนที่สนใจสามารถเข้าร่วมเรียนรู้การประดิษฐ์ศิลปะชั้นสูงเพื่อนำไปประกอบอาชีพได้

เช่น สาธิตการทำแป้งร่ำ สาธิตการปักสะดึง เวิร์กช็อปการทำลูกชุบ สาธิตการร้อยตัวกระแต กระแตกล้วยไม้ อุบะไทย 11 ดอกทรงเครื่อง คลุมไตร การทำมาลัยกล้วยไม้ มาลัยห่วงรัก เครื่องแขวนสด มาลัยตุ้มชำร่วย ธูปเทียนพนม ในส่วนของโรงเรียนช่างฝีมือในวังชายนั้น มีการสาธิตการทำหัวโขน สาธิตการเขียนภาพจิตรกรรมไทยลงบนถุงผ้า เวิร์กช็อปงานปั้นดินเป็นกรวยดอกไม้งดงามทำเป็นแมกเน็ตติดตู้เย็น สาธิตการเขียนลายรดน้ำ สาธิตการลงรักปิดทองบนวัสดุต่างๆ สาธิตการทำพวงมโหตร (ทำจากกระดาษสี หรือกระดาษว่าว ทำเป็นพวงระย้า ซ้อนกันหลายๆ ชั้น) คล้ายๆ ตุงของภาคเหนือ และยังมีสาธิตงานประดับมุกใช้เปลือกมุกไฟหาชมไม่ได้ง่ายๆ ใครชื่นชอบศิลปกรรมไทยไม่ควรพลาดชม

สำหรับไฮไลต์ของโรงเรียนช่างฝีมือในวังหญิง ที่มาแล้วไม่ควรพลาดชมคือ ในซุ้มวิชาช่างปักสะดึง มีงานโชว์ผ้าปักกราบที่ใช้ในการกราบไหว้พระเวลาไปทำบุญของเจ้านายฝ่ายในสมัยโบราณ การสาธิตการใช้ไหมเป็นวัสดุในการปักชิ้นงาน เช่น การปักตาลปัตรที่ใช้ในงานที่ระลึก เช่น งานบวช งานศพ หรือพิธีมงคลของเจ้านาย งานปักไหม เช่น โชว์ชิ้นงานปักสไบที่สมัยก่อนเจ้านายต้องใช้สไบหรือทรงสพักตร์ในการนุ่งห่ม โดยในซุ้มมีการโชว์ผลงานชิ้นโบราณที่ใช้ตั้งแต่ปลายรัชกาลที่ 4 ต้นรัชกาลที่ 5 นอกจากนี้ยังมีพระเขนยทรงสี่เหลี่ยมสำหรับไว้วางพระบาทขณะที่รัชกาลที่ 5 ประทับอยู่บนพระราชอาสน์ มีอักษรย่อของเจ้านายฝ่ายในที่ปักถวายอายุ 100 กว่าปี เก็บรักษาอยู่ในพระตำหนัก พระราชฐานฝ่ายใน ซึ่งหาชมไม่ได้ง่ายๆ นอกจากนี้ยังมีโชว์ผ้าปักหุ่นกระบอกอินทรธนูองค์จริงให้ชมในงานด้วย

อุ่นไอรัก คลายความหนาว บำรุงสุขให้ราษฎร

ธรารินทร์ เขียวมีส่วน เจ้าหน้าที่โรงเรียนช่างฝีมือในวังหญิง ผู้ประสานงานการจัดงาน กล่าวว่า โรงเรียนช่างฝีมือในวังหญิงเป็นโรงเรียนในพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สำหรับงานนี้ประชาชนจะได้เห็นขนมโบราณ เช่น มะกรูดเชื่อม ขนมสมัยโบราณที่โรงเรียนยังสืบทอดและเก็บรักษาไว้ เป็นเมนูของหวานสมัยโบราณ กรรมวิธีการทำคือ เอาผลมะกรูดเป็นลูกๆ มาคว้านเม็ดออก และเอาเนื้อภายนอกมาบั้งเป็นซีกๆ และนำไปเชื่อม ลักษณะคล้ายๆ เจลลี่ มีรสชาติขมนิดๆ หวานหน่อยๆ

ด้าน ธีรนาถ ทองตะโก อาจารย์โรงเรียนช่างฝีมือในวังชาย กล่าวว่า ภายในงานได้นำฝีมือช่างราชสำนัก เช่น งานช่างศิลปกรรมที่มีความหลากหลาย ทั้งงานจิตรกรรมของช่างเขียนโบราณ งานลายรดน้ำ ประดับมุก งานหัวโขน งานประติมากรรมหรือปูนปั้น งานแกะสลักไม้ มาเผยแพร่ให้ประชาชนได้ชมด้วย

ส่วนความบันเทิงอื่นๆ ประชาชนที่มาร่วมงานยังมีส่วนร่วมโดยเสด็จพระราชกุศลด้วยการเลือกซื้อสินค้านานาชนิดจากร้านค้าในพระบรมวงศานุวงศ์และร้านค้า อาหารไทยโบราณที่หารับประทานยากและมีรสชาติอร่อย ตลอดจนผลิตภัณฑ์โบราณ ณ บริเวณสนามเสือป่า ในแนวคิด “ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร สืบสานชุมชนวิถีไทย” มีกิจกรรมสอยต้นกัลปพฤกษ์ มีให้บริการถ่ายภาพย้อนยุคและภาพ 3 มิติ ที่จัดไว้ในมุมต่างๆ ภายในงาน ซึ่งเป็นฝีมือของนักศึกษาวิทยาลัยช่างศิลป์ วิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยศิลปากร ฯลฯ

บริษัทเอกชน เช่น เมืองไทยประกันภัย นำโดย นวลพรรณ ล่ำซำ ได้ออกแนวคิดจัดทำนิทรรศการประวัติบริษัท เมืองไทยประกันภัย จัดมุมถ่ายภาพโบราณสวยงามโดยมีพร็อพ เช่น หมวก ไม้เท้า พัด ให้ประชาชนได้ถ่ายภาพฟรีอีกด้วย

นอกจากนี้ ยังมีการจัดการแสดงผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันทุกวัน ล้วนเป็นการแสดงสะท้อนวัฒนธรรมท้องถิ่นทั่วทุกภูมิภาค เช่น การแสดงบนเวทีใหญ่ทุกวันศุกร์ และวันเสาร์เวลา 18.00-20.30 น. ยกเว้นสัปดาห์แรก เพิ่มวันพฤหัสบดี และสัปดาห์สุดท้ายเพิ่มวันอาทิตย์ การแสดงบนเวทีเล็กทุกวันอาทิตย์ วันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 18.00-20.30 น. มีการฉายหนังกลางแปลงที่เป็นภาพยนตร์ในยุคเก่า ที่ปัจจุบันหาชมได้ยากแล้ว ทุกวันพุธ และวันพฤหัสบดี เวลา 18.30-20.30 น.

งาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” เปิดตั้งแต่เวลา 10.30-21.00 น. ในวันอาทิตย์ถึงวันพฤหัสบดี ส่วนวันศุกร์ และวันเสาร์ เปิดตั้งแต่เวลา 10.30-22.00 น. ไม่เสียค่าบัตรผ่านประตู รายได้ทั้งหมดในการจัดงานโดยไม่หักค่าใช้จ่าย จะนำไปช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อนในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ

ประชาชนที่ไปร่วมงานควรแต่งกายย้อนยุค เช่นเดียวกับพ่อค้าแม่ค้าภายในงาน หรือสวมใส่ผ้าไทยหรือชุดสุภาพ