posttoday

วรวัฒน์ ศรีธรรมบุตร ชีวิตมีสุข ด้วยศาสตร์พระราชา

21 มกราคม 2561

ย้อนไปวันที่ 7-8 ต.ค. 2560 โครงการพลังคนสร้างสรรค์โลก รวมพลังตามรอยพ่อของแผ่นดิน ปีที่ 5

โดย วรธาร

ย้อนไปวันที่ 7-8 ต.ค. 2560 โครงการพลังคนสร้างสรรค์โลก รวมพลังตามรอยพ่อของแผ่นดิน ปีที่ 5 โดยบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต ร่วมกับสถาบันเศรษฐกิจพอเพียง มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติที่มีและภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ได้เดินทางไปทำกิจกรรมเอามื้อสามัคคี ครั้งที่ 3 ณ พื้นที่นาของ “แสวง ศรีธรรมบุตร” เกษตรกรบ้านนาเรียง ต.ตาดทอง อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี

ชาวบ้านนาเรียง ตลอดจนหมู่บ้านใกล้เคียง ใน ต.ตาดทอง และตำบลใกล้เคียงต่างรู้จัก “แสวง” หรือที่คนมักเรียกว่า “ลุงแสวง” เป็นอย่างดี ในความเป็นเกษตรกรคนเก่งผู้พลิกฟื้นผืนดินที่ไม่สามารถปลูกผักและพืชต่างๆ ได้เนื่องจากเป็นดินปนหิน แต่สามารถพลิกฟื้นพื้นที่ 31 ไร่ ของตัวเองให้เป็นพื้นที่เขียวขจีได้

มีทั้งไม้ยืนต้นกว่า 200 ชนิด อาทิ ไม้สัก ยางนา เต็งรัง ประดู่ ไม้ผลกินได้อีกหลายร้อยต้น และพืชผักสวนครัวอีกประมาณ 10% ในพื้นที่ 31 ไร่ ล้วนแล้วแต่เป็นพืชผักออร์แกนิก ปลอดสารพิษ ไม่มีการใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี และยาฆ่าแมลง แต่ใช้ปุ๋ยอินทรีย์และน้ำหมักชีวภาพ นอกจากนี้ยังมีแหล่งน้ำใช้ตลอดทั้งปี มีทั้งเลี้ยงปลา เป็ด และไก่ เรียกว่ากับข้าวไม่ต้องซื้อ

วรวัฒน์ ศรีธรรมบุตร ชีวิตมีสุข ด้วยศาสตร์พระราชา

เครื่องมือสำคัญที่แสวงใช้พลิกฟื้นพื้นที่จนสามารถปลูกพืชผักต่างๆ จนประสบความสำเร็จคือ “ศาสตร์พระราชา” อันได้แก่ หลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 นั่นเอง แต่ความสำเร็จที่ปรากฏในปัจจุบันอาจไม่เกิดขึ้นหากไม่มี “วัฒน์” วรวัฒน์ ศรีธรรมบุตร ลูกชายคนเดียวที่เป็นผู้จุดประกายและชักนำให้พ่อของเขารู้จักศาสตร์พระราชา

วันนี้มาจักหนุ่มผิวเข้มร่างกายแข็งแรงคนนี้ว่า ก่อนนี้เขาทำงานอะไร ที่ไหน และได้นำพาคุณพ่อของเขาให้รู้จักศาสตร์พระราชาได้อย่างไร ทำไมชีวิตเขาทุกวันนี้ถึงแม้มีหนี้แต่ใจก็ยังเปี่ยมด้วยความสุข

วัฒน์ เล่าชีวิตให้ฟังว่า หลังเรียนจบ ปวส.แล้วได้ไปทำงานที่กรุงเทพฯ นาน 10 ปี และเพิ่งลาออกจากงานได้ 2 ปี เพื่อมาช่วยพ่อทำเกษตรที่บ้าน ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ไม่ยากเพราะเป็นเป้าหมายที่คิดไว้แล้วสักวันจะต้องกลับบ้านไปทำการเกษตรที่ตัวเองชอบ เพียงแต่เวลานั้นจะมาถึงเมื่อไหร่แค่นั้น พอบริษัทที่ทำงานต้องการลดพนักงานจึงได้ยื่นใบลาออกทันที

วรวัฒน์ ศรีธรรมบุตร ชีวิตมีสุข ด้วยศาสตร์พระราชา

“ความจริงงานที่ผมทำ (เริ่มจากช่างเทคนิคเกี่ยวกับแม่พิมพ์แล้วเป็นโปรแกรมเมอร์เงินเดือน 4 หมื่นบาท) ยังเป็นตำแหน่งงานที่สามารถหางานที่ใหม่ได้ อีกอย่างมีเพื่อนและคนรู้จักแนะนำหลายที่แต่ผมไม่เอาแล้ว มองว่าชีวิตการทำงานในกรุงเทพฯ ตลอด 10 ปีเป็นการทำงานหาเลี้ยงชีพไปวันๆ ไม่มีเป้าหมายและไม่มีความมั่นคงโดยเฉพาะทางการเงินและความสุข แถมยังเป็นหนี้บัตรเครดิต ผมจึงตัดสินใจกลับบ้านพร้อมหนี้บัตรเครดิตจำนวนหนึ่งและหวังจะลบมันทิ้งด้วยการทำเกษตรที่ผมเชื่อมั่น”

วัฒน์ ย้อนชีวิตช่วงอยู่กรุงเทพฯ ว่า เวลาว่างเขามักจะเข้าอินเทอร์เน็ตเปิดยูทูบหาความรู้เกี่ยวกับการทำเกษตรจากคนที่เป็นปราชญ์ทางด้านเกษตรหลายต่อหลายคน แต่คนที่โดดเด่นมากคือ ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร หรืออาจารย์ยักษ์ เจ้าของศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง จ.ชลบุรี (ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์) จากนั้นจึงได้ตามอาจารย์ยักษ์เปิดดูคลิปของอาจารย์มาตลอด

“ผมตามอาจารย์ยักษ์มาได้ 6 ปี กับอีก 2 ปีที่ออกจากงานมาช่วยพ่อ รวม 8 ปี แค่ดูคลิปของท่านผมก็ได้ความรู้มากมายเลย ทั้งเรื่องดิน เรื่องน้ำ ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง หรือโคก หนอง นาโมเดลที่อาจารย์กำลังขับเคลื่อนไปทั่วประเทศกับทางบริษัทเชฟรอนตลอดจนภาคราชการและประชาชน

วรวัฒน์ ศรีธรรมบุตร ชีวิตมีสุข ด้วยศาสตร์พระราชา

อาจารย์ยักษ์บอกว่าในการทำเกษตรสิ่งสำคัญอันดับแรกต้องเตรียมน้ำก่อน ถ้าน้ำพร้อมเรื่องอื่นไม่ยาก ผมเลยโทรบอกพ่อให้ขุดบ่อเก็บน้ำในนาและเลี้ยงปลา ถือเป็นโชคดีที่พ่อชอบเกษตรเหมือนกัน ท่านเลยขุดทั้งหมด 9 บ่อ แต่ไม่ได้ขุดทีเดียว ทยอยขุดมาเรื่อยๆ คนอื่นขุดให้บ้างแต่เป็นการแลกกัน เขาเอาดินเราได้บ่อ ขุดด้วยเงินเราบ้าง หลังๆ ราชการมาช่วย

พอขุดบ่อแล้ว (ยังไม่ครบ 9 บ่อ) ผมแนะนำพ่อให้ไปเรียนกับอาจารย์ยักษ์ที่มาบเอื้อง จ.ชลบุรี จากนั้นพ่อกลับมาแอ็กทีฟมาก มีการขุดคลองไส้ไก่ ทำโคกหนองนา อยู่ 2-3 ปี แล้วผมก็ออกจากงานมาช่วย สิ่งที่ผมทำกับพ่อและครอบครัวคือ การปรับปรุงดินให้สามารถเพาะปลูกได้โดยใช้เวลาเกือบ 2 ปี”

วัฒน์ กล่าวว่า ตอนนี้ดินที่นาปลูกอะไรก็ขึ้นงามเขียวขจีมีต้นไม้ 200 กว่าชนิด เช่น ไม้ยางนา สัก ประดู่ พยุง เต็งรัง เป็นต้น จนได้ป่ามาส่วนหนึ่ง ปลูกอะไรลงไปก็จดบันทึกไว้ ส่วนที่กินได้เยอะมาก มะนาว 300 ต้น (4 พันธุ์) กล้วย มะละกอ เป็นร้อยๆ ต้น มะม่วง 200 ต้น พันธุ์มหาชนก ส่วนใหญ่เขาส่งออกญี่ปุ่นกันแต่ของเขาเพิ่งปลูกได้ 3 ปี รวมทั้งพืชผักสวนครัวอีกมากมาย

วรวัฒน์ ศรีธรรมบุตร ชีวิตมีสุข ด้วยศาสตร์พระราชา

“ทั้งหมดนี้ใช้ศาสตร์พระราชาอย่างเดียว ผลผลิตที่ได้แจกฟรีก่อนเลย ใครมาที่นาผม อยากกินอะไรเอาไปเลย ผมเน้นแจกก่อน เรื่องขายค่อยว่าทีหลัง อาจารย์ยักษ์บอกว่าศาสตร์พระราชาต้องเดินทีละก้าว ต้องแจกก่อนทำบุญก่อน แล้วขายก็ไม่สาย แล้วเวลาขายคนก็จะมาอุดหนุนเอง” 

วัฒน์ เล่าว่าต่อ รายได้ที่เข้ามาในครอบครัวในช่วงนี้ หลักๆ มาจากการเพาะพันธุ์ไม้ขาย มีทั้งไม้ผล เช่น ตอนกิ่งมะนาวขาย เพาะพันธุ์มะละกอ และอื่นๆ ส่วนไม้ยืนต้น เช่น ยางนา จะขายดีมากจนเพาะไม่ทัน หรือใครต้องการซื้อปลาก็จับให้ได้ในบ่อมีเยอะ อีกรายได้หนึ่งมาจากขายดินสำหรับปลูกพืชทุกชนิด

“ชีวิตตอนนี้แตกต่างจากตอนอยู่กรุงเทพฯ ถึงหนี้สินยังมีอยู่แต่ความสุขเพิ่มขึ้นมากครับ ตอนอยู่กรุงเทพฯ ทำมาหากินไปวันๆ ไม่มีเป้าหมายชีวิต ไม่มีความมั่นคง และไม่ค่อยมีความสุข ของกินอะไรๆ ก็แพง มะนาวตอนอยู่กรุงเทพฯ ผมซื้อกินลูกละ 10 บาท มาเกือบ 2 ปี แต่อยู่บ้านผมแจก มันต่างกันเยอะ บอกเลยว่าตอนนี้ทุกคนในบ้านมีแต่รอยยิ้ม พ่อ แม่ เมีย ถึงมีหนี้ก็ยิ้มได้เพราะอีกไม่นานก็หมดแล้ว”