posttoday

เทรนด์เทคโนโลยี แห่งปี 2561

09 มกราคม 2561

ในปี 2018 จะมีเทรนด์เทคโนโลยีอะไรที่น่าสนใจกันบ้างเรามาดูกัน

 

ทุกวันนี้เทคโนโลยีได้พัฒนาจนสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ ที่เคยมีจนแทบจะเรียกได้ว่าหลายสิ่งที่เคยเห็นในภาพยนตร์ไซ-ไฟก็ปรากฏออกมาให้เราได้ใช้งานกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรถพลังงานไฟฟ้า เทคโนโลยีบ้านอัจฉริยะ และความก้าวล้ำเทคโนโลยีหุ่นยนต์ต่างๆ และในปี 2018 จะมีเทรนด์เทคโนโลยีอะไรที่น่าสนใจกันบ้างเรามาดูกัน

ปีแห่งการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์

ปัญญาประดิษฐ์ หรือระบบ เอไอ (A.I. Artificial Intelligence) เป็นระบบสมองกลเลียนแบบการทำงานของสมองมนุษย์ สามารถคิดและตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง มีแนวโน้มว่าจะเข้ามาทำงานแทนที่มนุษย์ในรูปแบบงานที่มีความซ้ำซากมีรูปแบบแผนเดิมๆ ทุกวันในอนาคต

พงษ์ศักดิ์ ไปรสุวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านเซ็นเซอร์เทคโนโลยี บริษัท ดิจิทัล โรดแมป อธิบายถึงระบบเอไอ ว่าย้อนกลับไปราวๆ พ.ศ. 2486  แม็คคัลลอช และพิทซ์  (Mc Culloch and Pitts) สองนักวิจัยชาวอเมริกันได้นำเสนอแนวคิดแบบจำลองเซลล์ประสาท และแสดงให้เห็นว่าในทางทฤษฎีแล้ว เราสามารถสร้างโครงข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อเลียนแบบการทำงานของระบบประสาทเหล่านี้ได้ แต่ด้วยวิทยาการคอมพิวเตอร์ในยุคนั้นยังไม่ก้าวหน้ามากพอ จึงทำให้ไม่เป็นที่รู้จักมากนัก

จนกระทั่งเราก้าวเข้าสู่ยุคอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และมีบิ๊กดาต้าอันเป็นคลังข้อมูลรวบรวมองค์ความรู้ขนาดใหญ่ทั่วโลก ยุคแห่งการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของ ดีป เลิร์นนิ่ง จึงเริ่มต้นขึ้น มีหน่วยประมวลผลและหน่วยความจำที่เพียบพร้อม แต่หัวใจของเอไอไม่ได้อยู่ที่ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ต่างหากที่สำคัญที่สุด เพราะเปรียบเสมือนสมองที่มีจิตวิญญาณอยู่ภายใน

ทำให้ตำแหน่งงานโปรแกรมเมอร์ด้านการพัฒนาระบบเอไอ เป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมาก ระบบเอไอได้ทำการจำลองโครงข่ายเซลล์สมองในการเรียนรู้ของมนุษย์ และเริ่มใส่ข้อมูลให้เรียนรู้และทำงานได้อย่างที่มนุษย์ต้องการ

 

เทรนด์เทคโนโลยี แห่งปี 2561

เอไอที่มีชื่อเสียงที่สุดใน พ.ศ. 2560 

ที่ผ่านมาก็คือ อัลฟาโกที่สามารถเอาชนะเซียนโกะ ระดับโลกมาแล้ว และสร้างนิยามแนวคิดและวิธีการเล่นแบบใหม่อย่างที่ไม่มีมนุษย์คนไหนสามารถทำได้มาก่อน มีการทำเอาระบบเอไอมาใช้ช่วยในการประมวลผลเทคโนโลยีค้นหาข้อมูล แปลภาษา นำไปใช้ในเครื่องจักรที่สามารถคัดแยกผลผลิตทางการเกษตร และระบบรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ

อรภัค สุวรรณภักดี นักวิชาการอิสระด้านเทคโนโลยีเครือข่ายสังคม ให้ความเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาเอไอในปี 2018 นี้ว่า “ระบบเอไอนี้จะเข้ามาทำงานแทนที่มนุษย์ที่มีการทำงานรูปแบบซ้ำๆ การตอบคำถามลูกค้า การคิดคำนวณทางด้านการเงิน ซึ่งจะเริ่มมีใช้กับธุรกิจด้านการเงินการธนาคารก่อนเป็นอันดับแรกๆ

เพราะในระบบการคิดคำนวณบริการของลูกค้านั้นมีปัจจัยเข้ามาคิดคำนวณในรูปแบบตายตัว จากเดิมที่ต้องใช้พนักงานคิดคำนวณให้ลูกค้าก็จะเปลี่ยนไปในรูปแบบของการซื้อขายผ่านเว็บไซต์ ผ่านแอพพลิเคชั่นทางการเงินมากขึ้น

ในต่างประเทศระบบเอไอ สามารถสั่งซื้อสินค้าได้โดยใช้คำสั่งเสียง ซึ่งในอนาคตเราสามารถพูดคุยกับระบบเอไอ เพื่อให้ค้นหาสินค้าและข้อมูลได้ตามความต้องการของเราได้ มีระบบคอลเซ็นเตอร์ที่มีเอไอเป็นคนตอบคำถาม ระบบเอไอจะค่อยๆ เข้าไปเรียนรู้และทำงานแทนเรา

แต่อย่างไรก็ดีงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ งานฝีมือ งานที่มีความละเอียดอ่อนที่ต้องใช้ความคิดของมนุษย์เข้าไปตัดสินใจ งานบริการ งานหลายๆ อย่างที่เรารู้สึกว่าอยากจะเจอ และพูดคุยกับมนุษย์ด้วยกันเองจะยังเป็นงานที่เอไอไม่สามารถก้าวข้ามผ่านมาได้”

ไอโอที

ไอโอที (IoT - Internet of Things) เป็นระบบเชื่อมโยงเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เข้ากับอินเทอร์เน็ต เพื่อตรวจสอบเก็บข้อมูล และสามารถปรับแต่งการทำงานได้ตามความต้องการของมนุษย์ อรภัค กล่าวว่า “ไอโอที เป็นเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ช่วยวิเคราะห์เก็บข้อมูลเรื่องราวต่างๆ ที่เราเคยทำในบ้าน เพื่อปรับแต่งให้เรามีชีวิตอยู่ได้ง่ายขึ้นในบ้าน โดยที่เราแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลยตั้งแต่เดินเข้าบ้านมา บ้านจะเปิดเพลงที่ชอบให้ฟัง เปิดไฟ เปิดแอร์ปรับระดับอุณหภูมิที่เราชอบ รวมทั้งรายงานข่าวสารสำคัญ บอกการพยากรณ์อากาศให้เราทราบ และสามารถปรับเปลี่ยนไปตามความต้องการของสมาชิกภายในบ้านได้อีกด้วย”

ตัวอย่างของการใช้เทคโนโลยีไอโอที ที่เริ่มปรากฏขึ้นแล้วก็ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ตู้เย็น รถยนต์ในบางรุ่น เครื่องรดน้ำต้นไม้อัตโนมัติ กล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพผ่านคลาวด์คอมพิวติ้ง นาฬิกาอัจฉริยะ สมาร์ททีวี และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ที่สามารถเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟนผ่านอินเทอร์เน็ตได้ จะส่งรายงานผลการทำงานทั้งหมดให้เรา สามารถตั้งค่าการทำงานให้เป็นไปตามความต้องการ เครื่องดูดฝุ่นบางรุ่นมีเว็บแคมที่ผู้ใช้สามารถบังคับให้วิ่งไปดูตามจุดต่างๆ ภายในบ้านสำหรับใช้เป็นกล้องรักษาความปลอดภัยไปด้วยในตัว คือหนึ่งในเทคโนโลยีไอโอทีที่เริ่มจะเริ่มมีใช้กันอย่างแพร่หลายในปีนี้

เทรนด์เทคโนโลยี แห่งปี 2561

 

เออาร์และวีอาร์ มุมมองสู่โลกเสมือนจริง

เทคโนโลยีเออาร์  (AR Augmented Reality) และวีอาร์ (VR Virtual Reality) เพิ่มการรับรู้และการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนกับโลกดิจิทัล เออาร์และวีอาร์ จะมีการนำมาใช้กับชีวิตมากขึ้น อรภัค เสริมว่า “แม้เริ่มต้นจะเป็นแค่เล่นเกม แต่เทคโนโลยีจะเริ่มเข้ามามีบทบาทในแง่มุมบันเทิงมากขึ้น

เหมือนเป็นการยกระดับรสชาติของชีวิตโดย อาจจะมีการเปลี่ยนดังนี้ไม่ช้าก็เร็ว  การใช้งานเกมกับ เออาร์และวีอาร์ อาจจะมาในรูปแบบเล่นเกมเดี่ยว หรือ เกมส์บนโลกโซเชียล (Social Media AR/VR Game)

การจำลองโลกเสมือนจริงให้เรารู้สึกถึงการบันเทิง ดูหนังฟังเพลง ร้องเพลงครบวงจร ที่จะเกิดขึ้น เพียงแต่ช้าหรือเร็ว เรื่องนี้อาจจะไม่ใช่แค่เล่มเกม อาจจะเอามาใช้กับการออกกำลังหรือการเรียนในอนาคตด้วย นักศึกษาอาจจะถูกจำลองเข้ามาสู่โลกเสมือนจริงมากขึ้นในอีกไม่กี่ปี

เพื่อให้การเรียนรู้มีผลตอบรับมากขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งมีการนำเออาร์และวีอาร์ เอามาขายสินค้าได้ ถือเป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งที่ทำให้ลูกค้าสนใจมากขึ้น หรือมีความเข้าใจในตัวสินค้ามากขึ้น รวมทั้งเข้ามาเปลี่ยนแปลงในหลายๆ อุตสาหกรรม

ในอีกไม่กี่ปี เช่น รถยนต์ การค้าปลีก ธุรกิจบันเทิง ธุรกิจโรงแรม และการศึกษา และ อสังหาริมทรัพย์ รวมถึงการก่อสร้าง และท่องเที่ยว แม้แต่ในทางการแพทย์ก็สามารถนำมาปรับประยุกต์ใช้ได้เช่นกัน

โอเพ่น คอร์สแวร์ เรียนผ่านระบบออนไลน์

การศึกษาผ่านระบบออนไลน์ หรือโอเพ่น คอร์สแวร์ (OpenCourseWare) กำลังเป็นที่นิยมในต่างประเทศมากขึ้น และทิศทางเทคโนโลยีด้านการศึกษา กำลังมุ่งไปทางด้านการจัดทำหลักสูตรออนไลน์ โดยเฉพาะหลักสูตรระยะสั้นจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในต่างประเทศ โดยเฉพาะผู้คนที่อยู่ห่างไกลจากสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียง จะให้ความสนใจเรียนหลักสูตรระยะสั้นแบบนี้กันมากขึ้น

ประเทศไทยการเรียนรู้ผ่านระบบออนไลน์ยังคงต้องอาศัยเวลาในการปรับตัวและเครื่องมือในการเรียนรู้ของคนต่างจังหวัดซึ่งถือว่ายังมีราคาแพงอยู่มากสำหรับพวกเขา ต้องมีเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาด้านการศึกษา เนื่องจากเป็นด้านที่คนไทยขาดแคลน ในเวลานี้มีความขาดแคลนแหล่งเรียนรู้ด้านการศึกษา และอุปกรณ์ ทั้งซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์เสริม เรื่องการศึกษา เช่น การใช้เกม เพื่อพัฒนาการศึกษา (Game Education) เนื่องจากเด็กไทยติดเกม มีร้านเกมทั่วประเทศ แต่ไม่ได้มีเกมที่จะพัฒนากระบวนการเรียนรู้อย่างจริงจังเพื่อคนไทย การแปลหลักสูตรคอร์สแวร์ของต่างประเทศที่มีเขามีองค์ความรู้ใหม่ๆ ที่ก้าวหน้าไปกว่าเรามาก

 

เทรนด์เทคโนโลยี แห่งปี 2561

 

ดิจิทัล ทวิน

การ์ตเนอร์ (Gartner) บริษัทวิจัยด้านเทคโนโลยีได้พยากรณ์ว่าอนาคตชีวิตคนเราจะมีเซ็นเซอร์มากกว่า 500 ตัวในบ้าน 1 หลังภายในปี 2022 และจะมีดิจิทัลทวิน เปรียบเสมือนเทคโนโลยีประจำทำงานตอบสนองความต้องการเฉพาะเรื่องใดเรื่องหนึ่งเรียกว่า ดิจิทัล ทวิน (Digital Twin) และเป็นอีกก้าวที่พัฒนาเกี่ยวเนื่องกับเทคโนโลยีไอโอที ที่น่าจับตามอง

พงษ์ศักดิ์ ขยายความถึง ดิจิทัล ทวิน คือการเก็บสำเนาข้อมูลของสิ่งของ อาคารหรือเครื่องจักร หรือกระทั่งตัวเรา ในรูปแบบดิจิทัล เป็นการใช้สารพัดเซ็นเซอร์เข้าตรวจจับการทำงานทุกอย่าง แล้วรวบรวมเป็นข้อมูลสถานะ เพื่อคาดการณ์ความผิดปกติล่วงหน้า และแก้ไขปัญหาทั้งหมดได้ในอนาคต เป็นเทคโนโลยีที่นาซ่าเคยพัฒนาในยานอวกาศเพื่อเก็บข้อมูลวิเคราะห์สถานะการทำงานของยานอวกาศและดาวเทียมมาก่อน

ยกตัวอย่างเช่นรถยนต์คันหนึ่งได้ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลทวิน โดยติดเซ็นเซอร์รถไว้รอบคัน ปัจจุบันจะมีเซ็นเซอร์วัดเฉพาะเครื่องยนต์และเกียร์เพื่อตรวจหาความผิดปกติเกี่ยวกับระบบขับเคลื่อน แต่ดิจิทัลทวินจะมีใช้เซ็นเซอร์วัดตั้งแต่ความดันลมยาง ระบบกันสะเทือนทุกจุด โครงสร้างตัวถัง ประตู หลอดไฟ ทุกอย่างที่เซ็นเซอร์สามารถวัดออกมาเป็นค่าที่แน่นอนได้ จะถูกวัดออกมาเป็นข้อมูลแจ้งให้ผู้ใช้ได้ทราบว่าเกิดความผิดปกติกับส่วนใหญ่ของรถบ้างและควรจัดการดูแลต่อไปอย่างไร ไม่เพียงแต่รถยังสามารถนำไปใช้ได้กับระบบเทคโนโลยีภายในบ้าน วิศวกรรมการก่อสร้าง และอื่นๆ อีกมากมาย

โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับสุขภาพต่อไปเข็มขัด นาฬิกา สร้อยคอ และรองเท้า อาจจะมีเซ็นเซอร์ตรวจวัดชีพจร ความดันเลือด และการเครื่อนไหวเข้ามาเป็นมาตรฐานดูแลสุขภาพของเราด้วยดิจิทัลทวินได้ในอนาคต

ทั้งหมดนี้ก็คือ เทคโนโลยีที่น่าจับตามองมากที่สุดใน ปี 2561 โดยเฉพาะเทคโนโลยีด้านระบบเอไอ ที่จะเข้ามามีบทบาทในการทำงานร่วมกับมนุษย์เรามากขึ้นทุกวัน ยกตัวอย่างง่ายๆ สมาร์ทโฟน เช่น สิริ ในระบบไอโอเอส และกูเกิล ในระบบแอนดรอยด์ ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ก็มีระบบเอไอเข้ามาช่วยจัดการรายงานข่าวสาร แนะนำเส้นทาง และค้นหาข้อมูลให้ตรงความต้องการของทุกคน ที่เหลือไม่ว่าจะเป็นไอโอที เออาร์ วีอาร์ และดิจิทัลทวินจะเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาเปลียนชีวิตคุณในปีนี้อย่างแน่นอน