posttoday

มหพล จินดาขันธ์ ปลูกต้นไม้เพื่อให้ความสุขเบ่งบานในใจ

31 ธันวาคม 2560

ความสุขของคนเราไม่เหมือนกัน บางคนชอบสะสมเครื่องประดับของมีค่า บางคนชอบของเล่น แต่บางคนมีความสุขแบบกรีนๆ

โดย...อณุสรา  ทองอุไร ภาพ   วีรวงศ์  วงศ์ปรีดี

ความสุขของคนเราไม่เหมือนกัน บางคนชอบสะสมเครื่องประดับของมีค่า บางคนชอบของเล่น แต่บางคนมีความสุขแบบกรีนๆ กับวิถีชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ เนิบช้าแต่สุขใจ เช่นเดียวกับชายคนนี้ หนุ่ม-มหพล จินดาขันธ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท ธนชาตประกันภัย เขาเป็นชายหนุ่มผู้หลงรักต้นไม้เป็นชีวิตจิตใจ สำหรับเขาแล้วการปลูกต้นไม้ไม่ใช่งานอดิเรกหรือความชอบแบบทั่วๆ ไป แต่เขาถึงขั้นหลงรักแบบลุ่มหลง นอกจากช่วยฆ่าเวลาในยามว่างแล้ว ยังให้ความสุขความเพลิดเพลิน ฝึกสมาธิให้จดจ่อกับการปลูกต้นไม้ตรงหน้า โดยเฉพาะยามที่งานประจำมีงานมากงานหนักจนล้นมือ ความเครียดก่อตัวจนร่างกายอ่อนล้า การปลูกต้นไม้นี้ถือเป็นการช่วยบำบัดเยียวยาเขาได้เป็นอย่างดี ยามเจ็บไข้ไม่สบายกาย ทุกครั้งที่รู้สึกเพลียกายและใจ เขาจะอยู่กับการปลูกต้นไม้เสมอๆ มันทำให้รู้สึกสงบเป็นสุข และได้ช้าๆ กับชีวิตบ้าง

“ที่บ้านพอมีที่เหลือพอจะปลูกต้นไม้ได้ ผมจะชอบปลูกต้นไม้มาตั้งแต่เด็กๆ บางทีนอนไม่ค่อยหลับ ตีห้าก็ลุกขึ้นมารดน้ำต้นไม้ เลิกงานมาเครียดก็ไปรดน้ำต้นไม้ ผมมือเย็นปลูกอะไรก็งาม ก็ชอบปลูกต้นไม้ ทั้งไม้ดอก ไม้ใบ ปลูกต้นไม้ไทยๆ ทั้งกล้วยไม้ บัว กุหลาบ แต่มาระยะหลังๆ ชอบไม้ดอกเมืองหนาว เพราะปลูกง่ายกว่าที่คิด ดอกสวยหอมและลงกระถางเล็กๆ ไม่ต้องใช้ที่เยอะ”

จนถึงขั้นที่เขาสร้างเพจต้นไม้มีดอกขึ้นมาเมื่อกว่า 1 ปีที่ผ่านมา และเริ่มจริงจังกับการปลูกต้นไม้จากเมืองหนาว ให้ความรู้แบ่งปันประสบการณ์กับคนที่ชอบต้นไม้เหมือนๆ กัน นำเข้าหน่อต้นไม้มาเผื่อแผ่คนคอเดียวกัน

มูลเหตุเริ่มต้นของการหันมาเริ่มปลูกต้นไม้เมืองหนาว ก็เพราะเมื่อ 2 ปีก่อนไปเที่ยวยุโรป แล้วไปดูงานทิวลิปบานที่ฮอลแลนด์ “ไปดูฟาร์มที่ใหญ่ๆ ของที่นั่น ดูวิธีการปลูกต่างๆ นานาอย่างละอียด ไปดูเขาเวิร์กช็อปแล้วเกิดแรงบันดาลใจว่าที่กรุงเทพฯ บ้านเรามันน่าจะปลูกได้ ก็เลยลองซื้อหน่อของดอก Amaryllis ที่ฟาร์มแห่งนั้นมา 1 หน่อ เพื่อมาลองปลูกดู ไม่กล้าซื้อมาเยอะกลัวไม่รอดแล้วเสียดายเงิน (หัวเราะ) ปรากฏว่าปลูกแล้วรอดอยู่ได้หลายสัปดาห์เลย ทีนี้กำลังใจมา เริ่มคิดปลูกจริงจังเป็นเรื่องเป็นราวเลย” เขาเล่าถึงจุดเปลี่ยนจากการปลูกต้นไม้ไทยๆ มาปลูกต้นไม้ฝรั่งแทน

มหพล จินดาขันธ์ ปลูกต้นไม้เพื่อให้ความสุขเบ่งบานในใจ

“พอปลูกรอด ได้ดอกงามสมใจ ก็สั่งซื้อเพิ่มจากฟาร์มที่เราไปดูงานตอนนั้น ก็สั่งมา 4-5 ชนิด ไม่ถึง 10 หัวนะ แต่ค่าส่งมันแพงมาก พอเปิดเพจก็เริ่มมีคนเข้ามาชมมาแชร์ข้อมูลกัน ก็เลยรู้ว่ามีรายใหญ่เขานำเข้ามาเป็นล็อตใหญ่ๆ ให้กับสวนใหญ่ๆ ในประเทศไทย แต่เขาขายส่งเขาไม่ขายปลีก เราก็ไปขอแบ่งล็อตเล็กๆ มาจากเขา หาคนแชร์ร่วมกันตอนแรกๆ

ยิ่งมาเปิดเพจยิ่งได้เพื่อน ได้สังคม ได้ความรู้มากขึ้น ได้เครือข่ายมากขึ้น จากที่คิดว่าจะเอาเรื่องของเราไปแชร์ให้คนอื่น แต่ปรากฏว่ามีคนเข้ามาแชร์ให้เราได้ความรู้ใหม่ๆ เพิ่มไปอีก เป็นชุมชนของคนรักต้นไม้อย่างแท้จริง กลายเป็นสังคมเล็กๆ ที่น่ารักและอบอุ่น”

ถือว่าเป็นกิจกรรมที่สร้างความสุขให้กับเขาเป็นอย่างมาก และอยากจะพัฒนาเป็นอาชีพที่สองของเขาที่สามารถทำได้ตลอดไป แม้งานหลักอาจจะเปลี่ยนแปลงไป แต่งานอดิเรกตรงนี้จะคงอยู่ตลอดไป และหวังว่าจะเอาไปเป็นอาชีพเสริมหลังเกษียณ

นับว่าเป็นงานอดิเรกที่จะเป็นอาชีพ เป็นสีสัน และความสุขที่สร้างเองได้ ตอนนี้ปลูกเองเป็นหลัก คุณแม่เขาก็พลอยมีความสุขไปด้วย เป็นผู้ช่วยคอยดูแล เวลาต้นไม้แดดส่องแรงๆ คุณแม่ก็จะยกเข้ามาหลบแดดให้ กลัวว่าแดดจะแรงเกินไปเดี๋ยวจะเฉาแดดใบเหลือง กลายเป็นความสุขของคนทั้งบ้านตอนนี้

การปลูกและการดูแลก็ไม่ได้ยาก อากาศของกรุงเทพฯ ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคใดๆ เพราะหน่อของต้นไม้เมืองหนาวนี้สามารถเจอแดดช่วงครึ่งวันเช้าได้ คือเจอแดดรำไรได้ไม่มีปัญหา แค่อย่าให้เจอแดดแรงๆ ทั้งวัน คือตั้งไว้ริมระเบียงเจอแดดสัก 2-3 ชั่วโมงแบบนี้ได้ พอบ่ายก็ย้ายที่หลบแดดสักหน่อย

มหพล จินดาขันธ์ ปลูกต้นไม้เพื่อให้ความสุขเบ่งบานในใจ

เขายังแนะนำถึงวิธีการว่า “วิธีการก็ปลูกลงกระถางด้วยดินถุงทั่วไปได้เลยครับ ขอให้เป็นดินที่ระบายน้ำได้ดีๆ ก็พอครับ ฝังหัวไม้ในกระถางให้ดินคลุมหัวสัก 90% โผล่ยอดหัวเอาไว้นิดหน่อยให้มีอากาศ ได้รับแสงแดดเพื่อแตกใบ รดน้ำวันละ 1-2 ครั้ง รดแค่พอชุ่ม อย่าให้แฉะ หัวอาจเน่าได้ครับ อย่าให้ตากฝนแรงจะดีมาก หัวพันธุ์ที่เราสั่งซื้อไปเป็นหัวที่สะสมอาหารสมบูรณ์แล้วครับ ไม่จำเป็นต้องเสริมปุ๋ย ไม้ชอบแดดรำไรถึงแดดจัดครับ ช่วงแรกๆ หัวไม้อาจจะนิ่งสัก 1 สัปดาห์ หลังจากนั้นจะเห็นการเติบโตทุกวันครับ จนออกดอกเลยครับ สัก 1 เดือนนี้ใบจะใหญ่งามและเริ่มออกดอก ดอกจะอยู่ได้ 2-3 สัปดาห์ พอดอกโรยก็ปลูกต่อไปเรื่อยๆ เขาจะพักหัวครับ เราก็บำรุงหัวด้วยปุ๋ยตามปกติ พอหัวเขาสมบูรณ์ ตัดใบตัดดอกที่โรยทิ้ง ขุดหน่อขึ้นมาล้างน้ำให้สะอาดเอากระดาษหนังสือพิมพ์ห่อ แล้วนำเข้าแช่ในช่องผักด้านล่างของตู้เย็นสัก 2-3 เดือน ก็สามารถเอาหน่อมาปลูกได้อีก วนปลูกแบบนี้ได้ถึง 2-3 ปี/หัวนะครับ”

แรกๆ เขาก็ไม่ได้มีความรู้อะไรมากมาย ก็หาข้อมูลจากการอ่านบ้าง ฟังบ้าง หาจากอินเทอร์เน็ตบ้าง แล้วก็ลงมือทำจริงลองถูกลองผิดไปเรื่อยๆ จนเริ่มคล่อง พอเจอปัญหาต่างๆ ก็เริ่มแก้ไขได้ในที่สุด หลังๆ มีเพื่อนๆ คนรู้จักจะมาขอฝากสั่งซื้อด้วย เพราะเห็นต้นไม้ของเขาผ่านเพจบ้าง ผ่านเฟซบุ๊กบ้าง ซึ่งก็ดีเพราะเวลาสั่งจำนวนมากขึ้นก็จะได้ราคาที่ถูกลง จนตอนนี้เขาลงทุนซื้อตู้เย็นสำหรับแชร์หน่อพันธุ์ดอกโดยเฉพาะ

มหพล จินดาขันธ์ ปลูกต้นไม้เพื่อให้ความสุขเบ่งบานในใจ

“อนาคตอาจจะทำเป็นงานอดิเรกที่จริงจังมากขึ้น ลองหารายได้เสริมดูบ้าง แต่อย่างที่บอกละครับว่าความสุขจากการได้ปลูกดอกไม้ ได้เห็นเขาออกดอกสวยงามหอมหวน นี่คืออันดับหนึ่งที่อยากจะได้ ส่วนเรื่องรายได้หรือเรื่องเงินนี่เป็นเรื่องรองลงไป เพราะบางช่วงงานเยอะๆ งานเครียดๆ นี่ เราก็อยากพักอยากปลีกตัวจากเรื่องงานออกไปบ้าง หยุดคิดหยุดกังวลสักพัก การอยู่กับต้นไม้ช่วยได้เยอะมาก ได้พักสงบ เนิบช้า มีสมาธิขั้นสูงเวลาได้จดจ่อกับการปลูกต้นไม้”

เขาเล่าถึงแผนงานในอนาคตว่า อาจจะพัฒนาความชอบนี้ให้เติบโตพอสร้างรายได้ ด้วยการจัดเป็นเซตชุดต้นไม้แบบชุดสีเดียวกัน หรือไล่เรียงโทนสีเดียวกันไปหลายๆ เฉดจัดเป็นกระเช้าของขวัญรับเทศกาลหรือจัดเป็นกระเช้าวันเกิด หรือตามโอกาสสำคัญ ขายผ่านออนไลน์และคนรู้จัก ไม่ต้องมีหน้าร้านข้อดีของการมาทำงานอดิเรกตรงนี้ ทำให้ได้รู้ระบบการทำตลาดผ่านออนไลน์ การค้าขายผ่านเพจต่างๆ เมื่อก่อนก็ไม่ได้มีความคุ้นเคย ทำให้ได้ปรับตัวเรียนรู้ระบบใหม่ในเรื่องคอมพิวเตอร์ และเพื่อเตรียมตัวรองรับผ่านสังคมยุค 4.0 “ผมเองก็ไม่ใช่คนรุ่นใหม่ที่เก่งกาจเรื่องไอที พอทำได้แต่ไม่เก่ง พอมาทำเพจมาทำเรื่องต่างๆ ผ่านออนไลน์ ก็ทำให้ดูมีพัฒนาการทางด้านนี้มากขึ้น ก็ได้โนฮาวใหม่ๆ อีกด้วย สรุปแล้วมีแต่เรื่องดีๆ ได้สุขใจในการปลูกต้นไม้ ได้เรียนรู้เรื่องเทคโนโลยีมากขึ้น และพอได้ค่าขนมในการมาต่อยอดทำในสิ่งที่เรารัก แม้จะไม่ได้สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ แต่ก็สร้างความสุขใจได้ไม่น้อยเลย” เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม