posttoday

คุณครับๆ มารู้จักหนังสือที่ไม่น่าเบื่อ ของ เมธา โกศลสาธิต

24 ธันวาคม 2560

หนังสือเล่มแรกของผู้วาดลายเส้นแมวหน้ากวน บิ๊ก-เมธา โกศลสาธิต นามปากกา AIBIG เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก

โดย กาญจนา อายุวัฒน์ธนชัย ภาพ ไม่เครดิต

หนังสือเล่มแรกของผู้วาดลายเส้นแมวหน้ากวน บิ๊ก-เมธา โกศลสาธิต นามปากกา AIBIG เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก น่าเบื่อ (www.facebook.com/Thisis Boringday) และผู้เขียนหนังสือเรื่อง ครูครับๆ โตขึ้นผมอยากทำอะไรที่ไม่น่าเบื่อ สำนักพิมพ์บันลือบุ๊คส์

เขาเล่าว่า เหตุที่เลือกประเด็น “อาชีพ” เพราะอยากเขียนมุมมองที่น่าเบื่อที่สะกิดขึ้นมาในแต่ละวัน เพราะทุกอาชีพล้วนมีมุมที่น่าเบื่อ ไม่ว่าจะเป็น แพทย์ บาริสต้า แอร์โฮสเตส เน็ตไอดอล หรือแบ็กแพ็กเกอร์

“เหมือนกับเราดูว่าอาชีพดาราสบายจัง แต่ถ้ามองจากมุมมองของเขาก็จะมีมุมที่มันไม่สบาย หรืออาชีพที่ใครๆ ก็พูดว่า โตขึ้นเป็นหมอสิ สบายจะตาย แต่คนที่กว่าจะเป็นหมอได้ต้องเรียนหนักมากๆ หรือต้องเข้าเวรดึกมากๆ ก็ได้ ผมเลยอยากพลิกมุมมอง
อีกด้านหนึ่งที่คนอาชีพอื่นๆ มองเข้าไปแล้วไม่เห็นออกมาทำให้เป็นแก๊กสนุกๆ ดู”

เจ้าของเพจน่าเบื่อวาดลายเส้นเจ้าแมวแต่ละคาแรกเตอร์ออกมาเล่าแก๊กของแต่ละอาชีพเป็น “การ์ตูนสามช่อง” ที่ทั้งสนุก เข้าใจง่าย และสร้างรอยยิ้ม โดยตั้งชื่อแมวแต่ละตัวอย่างตรงไปตรงมาว่า แมวน่าเบื่อ แมวดำ แมวใส่หมวก และแมวพ่อค้าไม่เลือกงานไม่ยากจน พร้อมเนื้อหาแต่ละอาชีพในหน้าถัดไป โดยมีกองบรรณาธิการช่วยเขียนเสริมทัพในส่วนเนื้อหาให้หนังสือแข็งแกร่งขึ้น

“เริ่มแรกผมลิสต์รายชื่ออาชีพ มุมมองที่จะเล่น และมุขตบท้ายไว้ทั้งหมด 100 อาชีพ เขียนไปแล้ว 98 อาชีพ แต่สุดท้ายหนังสือหน้ากระดาษไม่พอเลยหั่นเหลือแค่ 50 อาชีพ โดยทั้งร้อยอาชีพที่คิดมาผมได้ให้เพื่อนๆ ช่วยกันโยนเข้ามาด้วย บก. (บรรณาธิการ) ช่วยคิดด้วย และผมคิดเองด้วย เวลาเดิน เวลานั่งรถเมล์ ตอนนั่งรถแท็กซี่ ผ่านอะไรเห็นอะไรก็จดไว้ก่อน ซึ่งอาชีพที่ลิสต์ได้ มีหลายอาชีพที่ต้องโทรถามเพื่อน เช่น เพื่อนที่จัดดอกไม้ เพื่อนที่ทำของประดิดประดอยขาย เพื่อนที่ขายของออนไลน์ เพื่อนที่รับหิ้วของจากเมืองนอก เพื่อนที่เป็นครู แต่บางอาชีพก็เขียนในมุมมองความคิดของเราว่ามันต้องเป็นแบบนี้ ซึ่งทุกอาชีพไม่มีอะไรที่สนุกไปหมด และไม่มีอะไรที่น่าเบื่อไปหมด”

คุณครับๆ มารู้จักหนังสือที่ไม่น่าเบื่อ ของ เมธา โกศลสาธิต

บิ๊ก กล่าวต่อว่า การหยิบยกประเด็นอาชีพขึ้นมาอาจเป็นเรื่องที่ยิบย่อยและเล็กเกินไป ซึ่งอาจมีคนที่ไม่เห็นด้วยกับแง่มุมที่นำเสนอ แต่เมื่อหลายอาชีพมารวมกันเป็นหนังสือ มันสามารถลดความแรงและความคิดเห็นแง่ลบลงไปได้

“เรื่องน่าดีใจเรื่องหนึ่งคือ ร้านหนังสือบางสาขานำมันไปวางในหมวดความรู้ แต่บางสาขาวางไว้ในหมวดการ์ตูน และบางสาขาอยู่ในหมวดไลฟ์สไตล์ มันกระจุยกระจาย แต่เป็นหนังสือความรู้ได้เพราะวันที่หนังสือวางขายในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติเมื่อเดือน ต.ค. มีพ่อแม่เดินเข้ามาในบูธแล้วซื้อกลับไปให้ลูกๆ อ่าน มันกลายเป็นหนังสือแนะนำอาชีพ ซึ่งผมว่าดี เพราะผมคิดว่าทุกวันนี้เด็กรุ่นใหม่หลายคนไม่รู้ว่าโตขึ้นมาแล้วอยากเป็นอะไร ซึ่งมันเป็นเรื่องใหญ่มากๆ”

ส่วนเขาเอง นอกจากเป็นนักวาดการ์ตูนและนักเขียน อาชีพที่ทำมาตลอดและทำมาก่อนออกหนังสือคือ นักครีเอทีฟในเอเยนซีโฆษณา และแน่นอนว่าย่อมมีเรื่องสนุกและน่าเบื่อเหมือนทุกอาชีพ แม้กระทั่งที่มาของการเปิดเพจน่าเบื่อยังเกิดขึ้นเพื่อ “ระบายความรู้สึกและอยากขยี้ประเด็นสังคม การเมือง ขึ้นรถแท็กซี่ เดินบนท้องถนน สั่งอาหารแล้วอาหารมาผิด หรือเรื่องนิดนึงในโมเมนต์ของชีวิตที่มันเกิดขึ้น” เขากล่าว

นอกจากนี้ สำหรับหนังสือเล่มแรกในชีวิต บิ๊กอยากให้เป็นหนังสือที่ทุกคนหยิบขึ้นมาอ่าน ทั้งคนทำงานที่กำลังเบื่อวันจันทร์ น้องวัยเรียนที่กำลังหาคำตอบว่าโตขึ้นมาอยากเป็นอะไร คำถามที่ว่า “ครูครับๆ โตขึ้นผมอยากทำอะไรที่ไม่น่าเบื่อ” อาจมีคำตอบที่หลากหลายในหนังสือเล่มนี้