posttoday

พรรณวิภา บูรณดิลก เล่าเรื่องอัศจรรย์ของลูกระหว่างเดินทาง

16 ธันวาคม 2560

นอกจากการท่องเที่ยวจะให้ประสบการณ์ เธอยังเห็นพัฒนาการอันเป็นผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย์ของ “น้องปัณณ์”

โดย  ฤดูกาล  ภาพ : พรรณวิภา บูรณดิลก

นอกจากการท่องเที่ยวจะให้ประสบการณ์ เธอยังเห็นพัฒนาการอันเป็นผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย์ของ “น้องปัณณ์” ลูกชายวัย 2 ขวบหมาดๆ ของ “แม่ตุ้ย-พรรณวิภา บูรณดิลก” เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าเด็ก Dek Minimal (www.facebook.com/dekminimal) ที่กระเตงลูกเที่ยวตั้งแต่ยังไม่ถึงขวบจนกลายมาเป็นกิจกรรมของครอบครัวที่ขาดไม่ได้

 เธอเท้าความกลับไปว่า ทริปแรกของลูกชายเริ่มตั้งแต่อายุ 3 เดือน โดยเลือกจุดหมายใกล้กรุงเทพฯ อย่างหัวหิน เพื่อทดลองว่าลูกรักจะสามารถนั่งรถนานๆ ได้ไหม ซึ่งสำหรับครั้งแรกของน้องปัณณ์ แม่ตุ้ยให้คะแนนผ่านฉลุย

 “แม่ๆ ส่วนใหญ่คงทราบกันดีว่า การพาลูกเล็กไปเที่ยวเหมือนการย้ายบ้าน เพราะอุปกรณ์เด็กอ่อนมีเยอะ และการพาเขาออกนอกสถานที่ เราต้องทำทุกอย่างให้เหมือนอยู่บ้านมากที่สุด ดังนั้น นอกจากระยะทางแล้ว ระยะเวลาในการไปก็เป็นส่วนสำคัญ และทุกอย่างต้องยึดลูกเป็นหลัก ไม่ได้ดูที่ความพึงพอใจของพ่อแม่”

พรรณวิภา บูรณดิลก เล่าเรื่องอัศจรรย์ของลูกระหว่างเดินทาง

 จากนั้นเมื่อขยับมาถึงอายุ 11 เดือน แม่ตุ้ยตัดสินใจพาลูกชายขึ้นเครื่องบินครั้งแรกสู่เชียงราย ซึ่งเธอสารภาพว่า

 “ตื่นเต้นมาก”

 เพราะทุกอย่างที่เป็นครั้งแรกคือประสบการณ์ใหม่ ซึ่งนอกจากเป็นห่วงลูกชาย เธอยังต้องนึกถึงผู้โดยสารคนอื่นด้วย การขึ้นเครื่องบินครั้งแรกของเจ้าตัวน้อยจึงถูกเลือกเป็นเส้นทางภายในประเทศและใช้เวลาบินไม่นาน เพื่อทดลองว่าน้องปัณณ์จะสามารถปรับตัวกับการเดินทางแบบนี้ได้หรือไม่

พรรณวิภา บูรณดิลก เล่าเรื่องอัศจรรย์ของลูกระหว่างเดินทาง

“ทริกของการพาลูกเล็กขึ้นเครื่องบินคือ ระหว่างที่เครื่องบินเทกออฟและแลนดิ้งต้องให้เขาดื่มนม เพราะเป็นช่วงที่ความกดอากาศเปลี่ยนแปลงจึงทำให้เขาเจ็บหูได้ และเด็กเล็กยังเคลียร์หูไม่เป็นแบบผู้ใหญ่ วิธีให้เขาดื่มนมจึงจะช่วยให้เขาไม่เจ็บหูมาก”

 เมื่อวิชาพาลูกเที่ยวเริ่มแข็งแกร่ง หลังจากลูกชายฉลองวันเกิดขวบแรกไปได้ 4 เดือน เธอก็เริ่มต้นความท้าทายใหม่สู่เส้นทางต่างประเทศครั้งแรก โดยเลือกประเทศไม่ใกล้ไม่ไกลอย่างสิงคโปร์ ซึ่งปรากฏว่าเป็นทริปที่สนุกสนาน และเป็นความกล้านำไปสู่ทริปที่ไกลที่สุดในเวลานี้อย่าง โอซากา

 เธอเล่าว่า ทริปโอซากาเป็นบททดสอบของทั้งพ่อ แม่ และลูกชาย เพราะนอกจากระยะเวลาบินจะนานขึ้นแล้ว ไฟลต์บินยังต้องไปต่อเครื่องที่ฮ่องกง ซึ่งดีตรงที่ลูกจะได้เดิน ได้เล่น ไม่อุดอู้อยู่บนเครื่องบินเป็นเวลานานรวดเดียว แต่เรื่องที่คิดไม่ถึงคือ มันเป็นการขึ้น-ลง 4 ครั้ง ซึ่งทำให้ลูกเสี่ยงต่อการเจ็บหูมากขึ้น

พรรณวิภา บูรณดิลก เล่าเรื่องอัศจรรย์ของลูกระหว่างเดินทาง

 “ทุกครั้งที่ไปเที่ยวด้วยกัน น้องปัณณ์จะมีพัฒนาการแบบก้าวกระโดด อย่างเช่นตอนไปหัวหิน จากที่คอยังไม่แข็งแรงมากกลายเป็นคอแข็งแรงขึ้น เพราะความอยากรู้อยากเห็นสิ่งใหม่ๆ ทำให้เขาพยายามเงยคอ หรือตอนไปสิงคโปร์ จากที่ยังเดินไม่ค่อยได้กลายเป็นเดินได้เลย เพราะเขาอยากเห็นอะไรใหม่ๆ ด้วย0ตัวเอง หรือตอนไปโอซากา จากที่พูดเป็นคำๆ ก็กลายเป็นพูดได้เป็นประโยค ซึ่งนี่แหละคือการเรียนรู้และพัฒนาการที่ลูกได้ฝึกฝนระหว่างการเดินทาง”

 ถามทิ้งท้ายว่า เห็นความสำคัญอะไรของการพาลูกเที่ยวตั้งแต่ยังจำความไม่ได้ แม่ตุ้ยตอบว่า เธอและสามีอยากให้ลูกชายเป็นเด็กปรับตัวง่ายกับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง เพราะสังคมสมัยนี้เปลี่ยนแปลงเร็ว ฉะนั้นคนที่ปรับตัวได้เร็วก็จะมีโอกาสมากกว่าคนที่ปรับตัวได้ช้า

“เรา (เธอและสามี) อยากให้ลูกคุ้นชิ้นกับการปรับตัวและอยากให้เห็นโลกให้มากที่สุด มันเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ที่จะสร้างโอกาสให้ลูก แต่อย่างไรก็ตาม แต่ละครอบครัวย่อมมีเงื่อนไขต่างกัน ดังนั้นการพาลูกเที่ยวอาจไม่ใช่คำตอบของทั้งหมด

พรรณวิภา บูรณดิลก เล่าเรื่องอัศจรรย์ของลูกระหว่างเดินทาง

 แต่อยากให้พ่อแม่ทุกคนสร้างโอกาสให้ลูกของตัวเอง พาออกไปเจอสิ่งใหม่นอกบ้าน สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้เขา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ลูกจะไม่มีทางได้ หากพ่อแม่ไม่มอบให้เขาเอง”