ใช้เวลาแบบฟิต เพื่อชีวิตที่ฟิต
สบายจังช่วงนี้ไม่ต้องทำงานกันอีกแล้ว แน่ล่ะ! บางคนรอเวลาเกษียณที่จะได้ใช้เวลาตามใจใช่หรือไม่?
สบายจังช่วงนี้ไม่ต้องทำงานกันอีกแล้ว แน่ล่ะ! บางคนรอเวลาเกษียณที่จะได้ใช้เวลาตามใจใช่หรือไม่? เมื่อมีเวลาในชีวิตเพิ่มขึ้น ผู้สูงวัยบางท่านอาจดูสบายและติดจะใช้ชีวิตเฉื่อยๆ ไปบ้าง แต่เอาเข้าจริงชีวิตที่ดีที่สุด คือ ชีวิตที่เคารพต่อเวลา โดยเฉพาะตารางเวลาการกินและการใช้ชีวิตที่เหมาะสม
มาอัพเดทความรู้ใหม่ๆ กันดีกว่า ว่าวันเวลาไหนที่เหมาะจะทำอะไร หรือไม่ทำอะไร เพื่อชีวิตที่ยืนยาวที่สุดของเรา
1.งดอาหารก่อนเข้านอนอย่างน้อย 3 ชั่วโมง
โรคกรดไหลย้อน (กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นสู่หลอดอาหาร) อาจเป็นสาเหตุให้โรคภูมิแพ้อาการแย่ลง และบางรายอาจมีอาการแสบร้อนหน้าอก ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า การงดอาหารก่อนเข้านอนอย่างน้อย 3 ชั่วโมง สามารถป้องกันภาวะนี้ได้
2.กินยาภูมิแพ้เวลาเย็น
อาการของโรคแพ้อากาศ เช่น น้ำมูกไหล ระคายเคืองคอ และจามฮัดเช้ย มักจะเป็นรุนแรงที่สุดในเวลาเช้า นพ.ริชาร์ด มาร์ติน จากศูนย์สุขภาพแห่งชาติยิวอิส ในเมืองเดนเวอร์ แนะให้กินยารักษาโรคในเวลาก่อนนอน เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
3.เดินออกกำลังเวลาเย็น
ตอนเช้าเป็นเวลาที่ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้มีอาการจามและคัดจมูกบ่อยที่สุด จึงทำให้ออกกำลังได้ไม่สะดวก นอกจากนี้พืชหลายชนิดจะปล่อยละอองเกสรเมื่อสัมผัสแดงยามเช้า ดังนั้น เวลาเย็นจึงเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะเดินออกกำลัง
4.ทดสอบอาการหอบหืดในเวลาเช้า
ช่วงกลางดึก (02.00-05.00 น.) เป็นเวลาที่หลอดลมมีการหดตัวและอักเสบมากที่สุด จึงเป็นช่วงที่อาการหอบหืดกำเริบบ่อยที่สุด การไปพบแพทย์ตั้งแต่เช้าเพื่อตรวจหรือทดสอบโรคหอบหืด จึงเป็นช่วงที่ดีที่สุดเพื่อจะได้ผลที่ถูกต้องตรงกับสภาพร่างกายมากที่สุดนั่นเอง
5.เพิ่มเวลานอนทุกครั้งที่ปรับเวลาใหม่
ระหว่างฤดูใบไม้ผลิของประเทศในแถบซีกโลกเหนือ เวลาช่วงกลางวันจะยาวนานขึ้น จึงต้องปรับนาฬิกาถอยหลังอีกหนึ่งชั่วโมง นักวิจัยในสวีเดน พบว่า สัปดาห์แรกของการปรับเวลาจะมีผู้ป่วยภาวะหัวใจพิบัติเพิ่มขึ้น 5% อาจเป็นเพราะมีเวลานอนหลับน้อยลง และจังหวะการดำเนินชีวิตถูกรบกวน คำแนะนำคือให้เข้านอนเร็วขึ้นในคืนก่อนหน้าวันปรับเวลาเพื่อให้ร่างกายปรับนาฬิกาในตัว
6.กินยาป้องกันโรคหัวใจเวลาเย็น
มีคำแนะนำให้กินยาแอสไพรินป้องกันโรคหัวใจในเวลาเย็น เพราะทำให้มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงอย่างเช่นเลือดออกในกระเพาะอาหารน้อยกว่า และยังช่วยป้องกันโรคหัวใจได้ดีกว่า เหตุผลคือภาวะหัวใจพิบัติมีโอกาสเกิดสูงสุดในช่วงเช้า (ช่วงเวลาอันตรายสูงสุดคือ 06.00-12.00 น.)
ยาแอสไพรินออกฤทธิ์ป้องกันลิ่มเลือดอุดตันด้วยวิธียับยั้งการจับกลุ่มของเกล็ดเลือด ยาหนึ่งเม็ดออกฤทธิ์ยับยั้งเกล็ดเลือดแต่ละเซลล์ได้ตลอดอายุ 10 วันของมัน แต่เกล็ดเลือดมีการผลิตขึ้นใหม่อยู่ตลอดเวลา การกินยาแอสไพรินตอนเย็นทำให้ยาออกฤทธิ์ยับยั้งเกล็ดเลือดใหม่ได้มากที่สุด จึงช่วยป้องกันการเกิดโรคในเวลาเช้าได้ดีที่สุด
7.ลดน้ำหนักตัว
ชั่งน้ำหนักในวันศุกร์และวันจันทร์ดีที่สุด สำหรับผู้ที่พยายามจะลดน้ำหนัก ผู้เชี่ยวชาญจากสมาคมควบคุมน้ำหนักแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา แนะให้ชั่งน้ำหนักอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ซึ่งทำให้สมาชิกส่วนใหญ่ลดน้ำหนักได้อย่างน้อย 15 กิโลกรัม และควบคุมน้ำหนักให้คงที่ได้ไม่น้อยกว่า 1 ปี
งานวิจัยของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยวอชิงตัน ยืนยันแนวคิดนี้ โดยระบุว่าผู้ที่พยายามลดน้ำหนักมักเอาจริงเอาจังในช่วงสุดสัปดาห์ ดังนั้น การชั่งน้ำหนักในวันศุกร์ (หลังตื่นนอนทันที ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คนมีน้ำหนักตัวต่ำที่สุด) จะทำให้เกิดแรงจูงใจมากที่สุด ขณะที่การชั่งน้ำหนักอีกครั้งใน(เช้า) วันจันทร์ จะมีส่วนช่วยให้เราปรับเปลี่ยนโปรแกรมลดน้ำหนักได้ทัน หากเผลอไผลออกนอกลู่นอกทางไปช่วงวันเสาร์-อาทิตย์
8.กินอาหารเย็นเร็วขึ้น
การกินอาหารมื้อดึกทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มได้ง่าย นักวิจัยทดลองป้อนอาหารให้หนูกลุ่มแรกเวลาที่หนูตื่นตามปกติ และป้อนอาหารให้หนูอีกกลุ่มในเวลาที่พวกมันนอนแล้ว พบว่าหนูที่กินอาหารในเวลานอน มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าของหนูที่กินอาหารแบบไม่ผิดเวลา เพราะเช่นนั้นก็ลองกินอาหารเย็นเร็วขึ้นสักชั่วโมงสิ ไม่ยากเลย!