posttoday

ชีวิตติดปลายนวม 'แหลม ศรีสะเกษ' อนาคตบนผืนผ้าใบสู่ชีวิตพอเพียง

09 ธันวาคม 2560

เวลาเปลี่ยนคนก็เปลี่ยน เฉกเช่น แหลม ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น ชื่อจริงว่า "วิศักดิ์ศิลป์ วังเอก"

โดย เอกชัย จั่นทอง

เวลาเปลี่ยนคนก็เปลี่ยน เฉกเช่น แหลม ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น ชื่อจริงว่า "วิศักดิ์ศิลป์ วังเอก" ดีกรีแชมป์มวยโลกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวต WBC จากเด็กบ้านนอกที่เลือกชีวิตเข้ามาเสี่ยงโชคชะตาในกรุงเทพฯ เพื่อหางานทำเพราะฐานะยากจน ทำให้ต้องตัดสินก้าวเท้าออกจากบ้านเกิด จ.ศรีสะเกษ

วันนี้ชีวิตของ "ศรีสะเกษ" พลิกเปลี่ยนชั่วข้ามคืน ชื่อเสียง เงินทอง ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน กลายเป็นบุคคลที่ใครๆ อยากสัมผัสหรือขอลายเซ็น วันนี้เขาคือซูเปอร์สตาร์ กว่าจะมาถึงวันนี้ "แหลม" เผชิญคำดูถูกดูหมิ่นจากคนรอบข้างและเพื่อนฝูงมาไม่น้อย

ศรีสะเกษ เล่าให้ฟังว่า ขึ้นมาอยู่กรุงเทพฯ เพื่อหางานทำหวังพิสูจน์ให้ครอบครัวเห็นว่า สามารถทำมาหากินได้เหมือนกัน ยอมรับไม่คิดว่าจะมาเป็นนักมวยเหมือนทุกวันนี้ แต่เพราะความรักจำยอมต้องขึ้นสวมนวมเนื่องจากบ้านของแฟนสาวในตอนนั้นมองว่าเราฐานะไม่ดี กลัวว่าจะดูแลลูกสาวของเขาไม่ได้ แต่ปัจจุบันรักกันมา 14 ปีแล้ว

ย้อนเส้นทางก้าวขึ้นมาเป็นนักมวยจนไปสู่แชมป์โลก ตอนนั้นเริ่มทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) กระทั่งรุ่นพี่ที่รู้จักกันโทรมาชวนให้ไปต่อยมวยที่ประเทศญี่ปุ่น เลยตัดสินใจไปในใจก็คิดว่าไปเที่ยวและหาประสบการณ์ ต่อยกี่ครั้งๆ ก็แพ้เลยมานั่งทบทวนกับตัวเอง ต่อไปต้องไม่เจ็บตัวแบบนี้อีก

ชีวิตติดปลายนวม 'แหลม ศรีสะเกษ' อนาคตบนผืนผ้าใบสู่ชีวิตพอเพียง

ต่อมา ศรีสะเกษ เข้าสู่สังกัดนครหลวงโปรโมชั่นของ “เสี่ยฮุย” สุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์ ประธานใหญ่นครหลวงโปรโมชั่น ทำผลงานได้เข้าตาคว้าแชมป์ในรุ่นซูเปอร์ฟลายเวตของสภามวยโลกเอเชีย (WBC ASIA) มาก่อน จนกระทั่งนักมวยในค่ายนครหลวง อย่าง สุริยัน ศ.รุ่งวิสัย พลาดท่าเสียแชมป์โลกในรุ่นซูเปอร์ฟลายเวตของสภามวยโลกให้กับนักมวยชาวญี่ปุ่น ต้นสังกัดจึงให้ศรีสะเกษขึ้นชิงแชมป์โลกในรุ่นนี้แทน จนสามารถเอาชนะได้สำเร็จ ทำให้ศรีสะเกษได้เป็นแชมป์โลกไป

อย่างไฟต์ชกล่าสุด ศรีสะเกษ ได้ขึ้นชิงแชมป์โลกครั้งที่ 2 ในรุ่นเดิมและสถาบันเดิม กับโรมัน กอนซาเลซ แชมป์โลกชาวนิการากัว ก่อนคว้าชัยสำเร็จ เว็บไซต์บ็อกเรกดอตคอมได้ยกให้เป็นนักมวยชาวเอเชียอันดับ 1 และเป็นนักมวยอันดับ 5 ของโลก ศรีสะเกษ ผ่านสังเวียนบนผืนผ้าใบมากว่า 46 ไฟต์ ไม่คิดว่าจะได้เป็นแชมป์โลก คิดเพียงว่าแค่แชมป์เอเชียได้ออกทีวีให้คนเห็นก็พอ

หลังจากได้แชมป์โลก ศรีสะเกษ ยอมรับว่า ยังใช้ชีวิตเหมือนเดิมแต่ถือว่าดีขึ้นกว่าก่อนมาก และเลือกจะใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายไม่ฟุ่มเฟือยเหมือนปกติที่ผ่านมา การกินอยู่เหมือนเดิม ได้เงินค่าซ้อมมวยวันละ 250 บาท ก็ใช้จ่ายเท่านั้น ส่วนเงินที่ได้จากต่อยมวยก็เก็บเข้าธนาคารหมด บางส่วนแบ่งให้พ่อแม่นำไปซื้อรถ ปลูกบ้าน และนำเงินไปใช้จ่ายในครอบครัวเท่านั้น ยังเช่าห้องเล็กๆ อยู่เหมือนเดิม เดือนละ 3,000 บาท เช่ามานานกว่า 4 ปีแล้ว

“ตอนที่ได้แชมป์โลกมีคนรู้จักมายืมเงินเรา เขาบอกจะไปปล่อยเงินกู้แล้วเราจะได้ดอกเบี้ย จึงตัดสินใจให้เงินไป 4 หมื่นบาท สุดท้ายถูกโกงไป เลยได้ประสบการณ์ว่าตอนที่เราไม่มีชื่อเสียงไม่โด่งดังไม่เคยมีใครมาสนใจเรา ไม่มีใครช่วยเราได้ แต่วันนี้เราดังขึ้นมาใครก็ไม่รู้มากมายกลับวิ่งเข้ามาหาเรา ทำให้มีความคิดว่าต้องวางแผนการใช้ชีวิตให้ดี”

ชีวิตติดปลายนวม 'แหลม ศรีสะเกษ' อนาคตบนผืนผ้าใบสู่ชีวิตพอเพียง

ครั้งตอนลำบากก็นำรถยนต์คู่ใจไปเข้าไฟแนนซ์เอาเงินมาใช้ 2 แสนบาท เพื่อนำมาใช้จ่ายในครอบครัว เพราะตอนนั้นไม่มีใครช่วยเราได้นอกจากตัวเอง แม้แต่ญาติพี่น้องยังช่วยไม่ได้ ต้องบอกเลยว่ามีรถคันนี้เท่านั้นช่วยเราได้ยามเดือดร้อน

“ยอมรับชีวิตเปลี่ยนไปมาก แต่ก็ยังเลือกใช้ชีวิตเหมือนเดิม ที่สำคัญมีตัวอย่างจากรุ่นพี่ให้เห็นตอนมีเงินไปเล่นการพนัน เที่ยวจนเงินหมด เลยนำข้อเสียของรุ่นพี่มาปรับใช้ ให้ยึดเสมอว่าทำงานเก็บเงิน ยังเช่าอยู่ห้องพักเล็กๆ เหมือนเดิม ไม่ได้ไปซื้อบ้านหลังใหม่ แม้หลายคนจะแนะนำให้ซื้อเพื่อจะได้มีหน้ามีตา แต่ผมขอเลือกอยู่แบบเดิมดีกว่า”

ศรีสะเกษ บอกว่า การฝึกซ้อมมวย จะซ้อม 2 เวลา/วัน คือ ช่วงเช้าและเย็น ตื่นตั้งแต่ตี 5 ซ้อมจนถึง 8 โมงเช้า ทั้งวิ่งและต่อยเป้าลม ส่วนช่วงเย็นเริ่มซ้อมตอน 4 โมง ถึงประมาณ 1 ทุ่ม ชีวิตอยู่กับการซ้อมมวยทุกวัน ศรีสะเกษตั้งเป้าไว้ว่าเมื่ออายุประมาณ 35 ปี จะเลิกชกมวย หรือป้องกันแชมป์ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ถ้าร่างกายยังไหวก็อาจยังชกต่อไปจนร่างกายไม่พร้อม

เป้าหมายในชีวิตหลังเลิกชกมวย ศรีสะเกษ วางแผนชีวิตไว้ว่า จะกลับไปอยู่บ้านเกิด จ.ศรีสะเกษ ปลูกบ้านหลังเล็กๆ เลี้ยงปลา ปลูกผักสวนครัว ใช้ชีวิตแบบพอเพียง เดินตามรอยเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับใคร มีครอบครัวที่อบอุ่น ท้ายสุด ศรีสะเกษ ฝากถึงนักมวยรุ่นหลังให้ขยันหมั่นซ้อม ตั้งใจฝึกฝนทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อไปสู่เส้นทางความสำเร็จ