posttoday

ภัทรวุฒิ สิงหเสนี ‘เวต กับ วิ่ง’ ทำให้หุ่นดี

26 พฤศจิกายน 2560

ตั้ม-ภัทรวุฒิ สิงหเสนี ดีเจ หรือคูลเจ คลื่น Cool Fahrenheit ออนแอร์ 6-9 โมงเช้า ทุกวันจันทร์-ศุกร์

โดย ภาดนุ

ตั้ม-ภัทรวุฒิ สิงหเสนี ดีเจ หรือคูลเจ คลื่น Cool Fahrenheit ออนแอร์ 6-9 โมงเช้า ทุกวันจันทร์-ศุกร์ และพิธีกรรายการ “เปิดโลกชีวโมเลกุล” ซึ่งออกอากาศทุกวันอังคาร ในรายการ “คุยข่าวสิบโมง” ทาง ททบ.5 นอกจากนี้เขายังเป็นพิธีกรงานอีเวนต์ และเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาบ้างประปราย เป็นอีกหนึ่งหนุ่มที่รักการออกกำลังกายด้วยการเล่นเวตและวิ่งแบบติดหนึบ

“ถ้าพูดถึงการออกกำลังกาย สมัยที่เรียนอยู่ ม.3 ผมเคยเล่นบาสมาก่อน หลังจากนั้นก็เล่นมาเรื่อยๆ แต่พอเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ผมก็เริ่มไม่ชอบความวุ่นวาย ก็เลยหันมาเล่นเวตแทน เพราะสามารถเล่นคนเดียวได้ ไม่ต้องรอใคร โดยช่วงแรกก็เล่นตามยิมทั่วไป ซึ่งมีนักเพาะกายทีมชาติมาคอยแนะนำให้เพราะเขาเป็นเจ้าของยิม เรียกว่าตอนนั้นผมเล่นเวตจริงจังจนตัวเริ่มหนาขึ้นๆ แต่ระยะหลังมานี้ผมจะแค่เล่นเวตเพื่อรักษารูปร่างตัวเองไว้เพื่อไม่ให้อ้วนซะมากกว่า

ภัทรวุฒิ สิงหเสนี ‘เวต กับ วิ่ง’ ทำให้หุ่นดี

 

ช่วงที่เป็นวัยรุ่นพลังมันเยอะ ผมจึงเล่นเวตสัปดาห์ละ 5 วัน แต่พอเรียนจบมหาวิทยาลัย ก็ต้องย้ายบ้าน ย้ายที่ทำงาน ทำให้มีเวลาน้อยลง ผมจึงเริ่มลดการเล่นเวตลง แต่ก็ยังคงรักษาระดับไว้ พูดตรงๆ ว่าตั้งแต่ทำงานผมจะยึดเอาความสะดวกเป็นหลัก บางครั้งก็แอบขี้เกียจเหมือนกัน (หัวเราะ) โดยรวมแล้วผมน่าจะเล่นเวตมาได้ 20 ปีแล้วครับ จะมีบางช่วงที่ห่างหายไปบ้าง แต่ยังไงก็ต้องกลับมาเล่นเวตอยู่ดี”

ตั้มบอกว่า ตอนนี้คอนโดปัจจุบันที่เขาอยู่จะมีฟิตเนสเล็กๆ ด้วย เขาจึงไม่มีข้ออ้างที่จะขี้เกียจได้เลย ซึ่งการเล่นเวตนั้นจะช่วยส่งเสริมให้รูปร่างและบุคลิกภาพโดยรวมดูดีขึ้น และยังสร้างความมั่นใจให้อีกด้วย

“ผมว่าถึงยังไงเราก็ต้องใช้รูปร่างหน้าตาทำงานหาเงินอยู่ แต่ด้วยอายุที่เพิ่มขึ้นก็อาจทำให้เราเผาผลาญได้น้อยลง จึงต้องระวังเรื่องการกิน และมีวินัยในการเล่นเวตด้วย ผมว่าการเล่นเวตคนเดียวทำให้มีสมาธิ แต่ควรใช้น้ำหนักที่พอดีๆ แล้วต้องเล่นโดยเน้นกล้ามเนื้อเป็นส่วนๆ ไปถึงจะได้ผล

ภัทรวุฒิ สิงหเสนี ‘เวต กับ วิ่ง’ ทำให้หุ่นดี

 

ปัจจุบันผมก็เริ่มหันมาออกกำลังกายด้วยการวิ่งด้วยเช่นกัน แม้การวิ่งจะเป็นที่นิยมมาได้ 2-3 ปีแล้ว แต่ผมเพิ่งมาเริ่มวิ่งได้ไม่นานนี้ ซึ่งก็ถือว่ายังไม่สาย ตอนนี้ผมอายุเข้าเลข 4 แล้วนะ แต่การวิ่งนั้นสามารถวิ่งได้ทุกวัย เพียงแต่เราต้องรู้ศักยภาพของตัวเองว่าทำได้แค่ไหน โดยประเมินร่างกายตัวเองให้ดีก่อน ถ้าวิ่งไม่ได้ไกล อาจจะใช้วิธีเดินเร็วก็ได้ อีกอย่างสมัยนี้มีอุปกรณ์มาซัพพอร์ต เช่น รองเท้า สนับเข่า และอื่นๆ มาช่วย เลยทำให้การวิ่งเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ที่ผมหันมาสนใจการวิ่งก็เพราะอยากออกกำลังกายให้ได้ฮาร์ตเรตมากขึ้น และอยากเพิ่มความอดทนให้กับร่างกายด้วย

แต่การวิ่งก็มีราคานะ (หัวเราะ) เพราะต้องซื้อชุดใส่วิ่งที่เนื้อผ้าระบายเหงื่อได้ดีและแห้งเร็ว รองเท้าที่ซัพพอร์ตเท้าและข้อเท้าได้ดี สนับเข่า ที่ใส่กระบอกน้ำแบบพกพา ฯลฯ เพราะส่วนใหญ่ผมมักไปวิ่งตอน 7 โมงเช้าที่สวนจตุจักร ช่วงนั้นยังไม่มีน้ำดื่มขายเลย”

ภัทรวุฒิ สิงหเสนี ‘เวต กับ วิ่ง’ ทำให้หุ่นดี

 

ตั้มบอกว่า เขาวิ่งจริงจังมาได้เดือนกว่าแล้ว ครั้งแรกที่วิ่งเสร็จ พอกลับมาบ้านก็ไข้ขึ้น ปวดขาเลย แต่พอกินยาและได้นอนพักก็หายไปเอง

“แม้ช่วงแรกจะต้องปรับตัวอยู่บ้าง แต่สิ่งที่ได้หลังจากเริ่มวิ่งก็คือ ความรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า แถมยังกินอาหารได้เยอะกว่าตอนเล่นเวตซะอีก เนื่องจากการวิ่งมันช่วยเบิร์นได้ถึง 400 แคลอรีขึ้นไป แล้วการวิ่งยังช่วยให้ผมมีวินัยมากขึ้น โดยตื่นขึ้นมาวิ่งทุกเช้าติดต่อกันสัปดาห์ละ 4 วันเลย ก่อนมาวิ่งที่สวนสาธารณะ ผมใช้วิธีฝึกวิ่งจากลู่วิ่งในฟิตเนสก่อน โดยวิ่ง 40-50 นาที จากนั้นจึงมาวิ่งในสวนจตุจักร 30-40 นาที การวิ่งนอกสถานที่จะหนักกว่าการวิ่งบนลู่วิ่งเยอะ แต่สิ่งที่ได้รับคือ ช่วยให้ความจุของปอดเราเพิ่มขึ้น ทำให้ร้องเพลงได้ดีและพูดได้แบบไม่ค่อยเหนื่อย นอกจากนี้กล้ามเนื้อขาและน่องยังแข็งแรงและใหญ่ขึ้น การที่ขาใหญ่ขึ้นผมว่าดีนะ เพราะผู้ชายที่เล่นเวตส่วนใหญ่จะขาเล็ก เพราะมักเน้นเล่นแต่กล้ามเนื้อส่วนบน

ภัทรวุฒิ สิงหเสนี ‘เวต กับ วิ่ง’ ทำให้หุ่นดี

 

จริงๆ แล้วผมวิ่งเพื่อความแข็งแรงนะ ไม่ได้ตั้งใจจะไปลงวิ่งแข่งขันหรอก แต่ในช่วงสิ้นเดือนนี้ผมอาจจะลองลงวิ่งมินิมาราธอนดูสักหน่อย ซึ่งเป็นการวิ่งแค่ 9 กิโลเมตร และผมอาจจะได้ไปวิ่งในกิจกรรมที่คิง เพาเวอร์ จัดขึ้นเพื่อรอรับ ‘ตูน บอดี้สแลม’ (ระยะทาง 8 กิโลเมตร) ด้วย พูดได้ว่าตอนนี้การวิ่งเป็นกีฬาที่ผมติดหนึบเลยก็ว่าได้ แต่ยังไงผมก็ยังไม่ทิ้งการเล่นเวตนะ คือต้องเล่นวันเว้นวันเพื่อรักษารูปร่างไว้อยู่แล้วครับ”

ตั้มทิ้งท้ายว่า การวิ่งมีข้อควรระวังคือ อาจทำให้กล้ามเนื้อบาดเจ็บได้ง่าย ฉะนั้นเวลาวิ่งหรือทิ้งน้ำหนักตัวลงที่เท้าจึงต้องลงน้ำหนักให้ถูกต้อง จะได้ช่วยเซฟข้อเท้าไม่ให้บาดเจ็บได้ ที่สำคัญต้องรู้ศักยภาพของตัวเองด้วยว่ามีข้อจำกัดได้แค่ไหน อย่าหักโหมมากนัก เพราะถ้าบาดเจ็บหรือป่วยขึ้นมาแล้วจะไม่คุ้มกัน ที่สำคัญก่อนวิ่งต้องทดสอบกำลังขาของตัวเอง และฝึกการทรงตัวด้วย หากมีโรคประจำตัว เช่น น้ำตาลในเลือดสูง ความดัน หรือโรคหัวใจ แนะนำว่าไม่ควรวิ่ง...ติดตามได้ที่ IG : cooljtum, Twitter : DJTum และ Page FB : Cool J Tum